บทที่ 29 — สัมมาสมาธิ

สงบแบบที่ไม่ต้องปกป้อง — เพราะไม่มีผู้สงบอยู่ในนั้น

สัมมาสมาธิ ไม่ใช่…

  • บังคับให้จิตนิ่ง
  • ดันความคิดออกไป
  • ทำให้โล่ง ทำให้ดี ทำให้สงบ

เพราะเมื่อไหร่ที่จิตพยายาม “ทำให้เป็น”
ผู้กระทำก็เกิดขึ้นทันที
และนั่นคือ ภพต้นทาง

สมาธิที่ต้องรักษา = สมาธิที่มี “เรา” อยู่ในนั้น
สมาธิที่แท้ = ไม่มีอะไรต้องรักษา

สมาธิคือฐานของการ “ไม่โน้มไป”

ความโน้มเอียงของจิตมี 2 แบบ

  1. โน้มเข้าหาสิ่งที่ชอบ (โลภะ)
  2. โน้มหนีสิ่งที่ไม่ชอบ (โทสะ)

เมื่อสมาธิปรากฏ:

  • จิต ไม่โน้มไปหา
  • จิต ไม่โน้มหนี
  • ทุกเวทนา เป็นเพียงเวทนา

ไม่มีตัวเราเข้าไปอยู่ในสมการ

ทำไมสมาธิถึงสำคัญที่สุดในการดับภวะ?

เพราะมันทำงานตรง รอยขาดของวงจร:

ผัสสะ → เวทนา → ตัณหา (ถูกตัดที่นี่) → อุปาทาน → ภพ

ถ้าจิตไม่เอนเอนไปตามเวทนา
ตัณหาไม่สามารถตั้งตัวได้

สมาธิ คือ การ “ไม่ตีความเวทนา”
ให้กลายเป็นภารกิจของตัวเรา

สมาธิที่แท้ = สภาวะที่ตัณหา “เข้าไม่ถึง”

ลักษณะของสัมมาสมาธิ:

  • จิตสบาย ไม่ต้องลุ้น
  • ไม่มีอะไรต้องดีขึ้น
  • ประสบการณ์ตรงหน้า ไม่ใช่สิ่งต้องแก้
  • ไม่มีความกลัวว่าจะเสียสภาพนี้

เพราะ ไม่มีเจ้าของสภาพ นั้นอยู่

ความสงบที่มีเจ้าของ = ภพ
ความสงบที่ไม่มีเจ้าของ = มรรค

เคล็ดปฏิบัติ: หยุดสร้างคนคอยควบคุมจิต

เวลาทำสมาธิ
ให้สังเกตทันทีว่า…

  • “ฉันกำลังนิ่งไหม?”
  • “มันสงบหรือยัง?”
  • “คิดอีกแล้ว หยุดคิดสิ!”

ทั้งหมดนี้คือการสร้างผู้บังคับจิต

สภาวะธรรมชาติของจิตคือ:

คิด → ดับ
รู้ → ดับ
ไหลไป → ดับ

ไม่ต้องแก้ไข
แค่ ไม่ไปรับช่วงต่อพฤติกรรมของจิต

สมาธิแบบสัมมา = ไม่ต้องสำเร็จอะไร

เป้าหมายคือ…

  • ไม่เพิ่มเรื่อง
  • ไม่ตั้งตน
  • ไม่ปั้นความพิเศษ

ให้จิต หยุดเป็นโจทย์
ให้สิ่งที่เกิดเป็นเพียง สิ่งที่เกิดแล้วกำลังดับ

สมาธิแท้ = การทำให้ธรรมชาติทำงานของมัน
โดยไม่มีผู้สั่ง

สรุปสัมมาสมาธิ

  • วางใจให้ตรงกลางของเวทนา
  • ไม่ให้ตัณหาได้ช่อง
  • ไม่ทำจิตให้พิเศษ
  • ไม่ทำลายหรือปั้นแต่งอะไร

สัมมาสมาธิ คือความสงบที่ไม่ต้องปกป้อง

เมื่อไม่มีเจ้าของความสงบ
ความสงบจะไม่เคยจากไป