บทที่ 28 — สัมมาสติ

รู้ให้ทัน “จุดสตาร์ทของภพ” — ไม่ใช่รู้ทุกอย่างจนใจเหนื่อย

สัมมาสติ ≠ เฝ้าดูทุกอย่างที่ขยับ
สัมมาสติ = เฝ้าดู แค่จุดเดียว ที่ทุกข์เกิดขึ้นได้ คือ:

ผัสสะ → เวทนา → (ภวตัณหา?)

ถ้าเฝ้าดู ก่อน ภวตัณหาเกิด
ทุกข์ สืบต่อไม่ได้

ทำไมสติทั่วไปจึงไม่พาออกจากทุกข์?

เพราะมักตามรู้ “ผล”
ไม่ใช่ตามรู้ “เหตุ”

ตัวอย่าง:

แบบที่คนมักทำ

ผลลัพธ์

รู้ว่าโกรธแล้ว

แต่โกรธไปแล้ว

รู้ว่าฟุ้งซ่านแล้ว

ฟุ้งไปไกลแล้ว

รู้ว่าเสียใจแล้ว

ใจเสียไปเต็มที่แล้ว

รู้ช้า = รู้ผล
ไม่ใช่ รู้เหตุ

สัมมาสติ = รู้ ตรงประตูผัสสะ
ยังไม่ปล่อยให้เวทนาขยายตัว

จุดสำคัญ: ดู “ความรู้สึกแรกที่ยังไม่ถูกแปล”

จิตปฏิบัติให้ทำแบบนี้:

1. มีผัสสะเกิดขึ้น → หยุดนิ่งหนึ่งจังหวะ
2. รู้ทัน เวทนาสด ๆ ยังไม่แปลเป็นเรื่อง
3. เห็นว่ามัน เกิดเพราะเหตุ
4. ไม่เข้าไป ทำมันให้เป็นเรา

เพียงเท่านี้
กิเลสก็ “เข้าไม่ถึงจังหวะ”

สติตรงจุดเดียว
แทนที่จะตามดูทั้งโลก

รู้เวทนาแต่ไม่รับช่วงต่อ

สติไม่ใช่…

  • จดบันทึกสิ่งที่รู้สึก
  • วิเคราะห์อารมณ์
  • ควบคุมความคิด
  • เฝ้าดูจนเหนื่อยล้า

สติคือ…

การเห็นว่าเวทนาเกิดแล้วก็จะดับ
ถ้าเราไม่แต่งตัวตนให้เข้าไปถือกรรมสิทธิ์มัน

เมื่อไม่รับช่วง →
ภวะไม่เกิด
ทุกข์ไม่ยืด

การใช้งานแบบชีวิตจริง: คำถามเดียว

เมื่อใจเริ่มดิ้น ให้ถาม:

“ตอนนี้มีเวทนาอะไร?
และฉันกำลังจะทำให้มันเป็นเรื่องหรือเปล่า?”

คำถามนี้ทำให้…

  • โทสะไม่ต้องมีงานต่อ
  • โลภะไม่ต้องมีของใหม่
  • โมหะไม่ต้องปกปิดอะไร
  • มานะไม่ต้องแข่งกับใคร

เห็นทัน = ดับทุกข์ตั้งแต่แนวหน้า

สัมมาสติ = ผู้เฝ้าประตูแห่งการเกิดของภพ

เมื่อสติไม่อยู่ที่ผัสสะ
ภวะจะเกิดเองโดยอัตโนมัติ
แล้วทุกข์จะเดินสายพานอย่างลื่นไหล:

เวทนา → อยาก → ยึด → เป็นเรา → ทุกข์

แต่ถ้าสติอยู่ถูกจุด:

สติอยู่ก่อนอยาก
อยากเกิดไม่ได้
ภพล้มกลางทาง

สรุปสัมมาสติ

  • ไม่ใช่ตามรู้ทุกสิ่งทั่วร่างกาย
  • แต่ตามรู้ เหตุของทุกข์ ตรงจุดที่มันจะเกิดขึ้น
  • ปิดประตูภวะตั้งแต่ยังไม่เปิด
  • ให้เวทนาได้ทำหน้าที่ของมันโดยไม่ต่อเรื่อง

รู้ทันเวทนา ไม่แปลเป็น “ฉัน”
นี่คืออิสรภาพที่เริ่มตรงประตูผัสสะ