ไปหน้าแรก

ทานที่ให้ในทักขิไณยบุคคลมีผลมาก

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 312

" ข้าพระองค์จะต้องการอะไร ด้วยทานอันว่าง

เปล่าจากทักขิไณยบุคคล ยักษ์ชื่ออินทกะนี้นั้น ถวาย

ทานแล้วนิดหน่อย ยังรุ่งเรืองยิ่งกว่าข้าพระองค์ดุจ

พระจันทร์ในหมู่ดาว."

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทชฺชา แก้เป็น ทตฺวา (แปลว่า

ให้แล้ว).

เมื่ออังกุรเทพบุตรกราบทูลอย่างนั้นแล้ว พระศาสดาตรัสกะอินทก-

เทพบุตรว่า " อินทกะ เธอนั่งข้างขวาของเรา. ไฉนจึงไม่ต้องร่นออก

ไปนั่งเล่า ? " อินทกเทพบุตรกราบทูลว่า " พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ได้

ทักขิไณยสมบัติแล้ว ดุจชาวนาหว่านพืชนิดหน่อยในนาดี " ดังนี้แล้ว

เมื่อจะประกาศทักขิไณยบุคคล จึงกราบทูลว่า :-

" พืชแม้มาก อันบุคคลหว่านแล้วในนาดอน

ผลย่อมไม่ไพบูลย์ ทั้งไม่ยังชาวนาให้ยินดี ฉันใด,

ทานมากมาย อันบุคคลตั้งไว้ในหมู่ชนผู้ทุศีล ผล

ย่อมไม่ไพบูลย์ ทั้งไม่ยังทายกให้ยินดี ฉันนั้น

เหมือนกัน; พืชแม้เล็กน้อย อันบุคคลหว่านแล้วในนา

ดี เมื่อฝนหลั่งสายน้ำถูกต้อง (ตามกาล) ผลก็ย่อม

ยังชาวนาให้ยินดีได้ ฉันใด, เมื่อสักการะแม้เล็กน้อย

อันทายกทำแล้วในเหล่าท่านผู้มีศีล ผู้มีคุณคงที่

ผลก็ย่อมยังทายกให้ยินดีได้ ฉันนั้นเหมือนกัน."

๑. เทพบุตรอันบุคคลพึงบูชา.

ทานที่ให้ในทักขิไณยบุคคลมีผลมาก

ถามว่า " บุรพกรรมของอินทกเทพบุตรนั้น เป็นอย่างไร ? "

แก้ว่า " ได้ยินว่า อินทกเทพบุตรนั้นได้ให้ถวายภิกษาทัพพีหนึ่ง

ที่เขานำมาแล้วเพื่อตน แก่พระอนิรุทธเถระผู้เข้าไปบิณฑบาตภายในบ้าน.

บุญของเธอนั้น มีผลมากกว่าทานที่อังกุรเทพบุตร ทำแถวเตาไฟยาวตั้ง

๑๒ โยชน์ ให้แล้วตั้งหมื่นปี, เพราะเหตุนั้น อินทกเทพบุตรจึงกราบทูล

อย่างนั้น. " เมื่ออินทกเทพบุตรกราบทูลอย่างนั้นแล้ว พระศาสดาตรัสว่า

" อังกุระ การเลือกเสียก่อนแล้วให้ทานจึงควร, ทานนั้นย่อมมีผลมากด้วย

อาการอย่างนี้ ดุจพืชที่เขาหว่านดีในนาดีฉะนั้น; แต่เธอหาได้ทำอย่าง

นั้นไม่, เหตุนั้น ทานของเธอจึงไม่มีผลมาก " เมื่อจะทรงประกาศเนื้อ

ความนี้ให้แจ่มแจ้งจึงตรัสว่า :-

" ทานอันบุคคลให้แล้วในเขตใด มีผลมาก,

บุคคลพึงเลือกให้ทานในเขตนั้น; การเลือกให้ อัน

พระสุคตทรงสรรเสริญแล้ว, ทานที่บุคคลให้แล้วใน

ทักขิไณยบุคคลทั้งหลาย ที่มีอยู่ในโลกคือหมู่สัตว์

ที่ยังเป็นอยู่นี้ มีผลมาก เหมือนพืชที่บุคคลหว่านแล้ว

ในนาดีฉะนั้น. "

เมื่อจะทรงแสดงธรรมให้ยิ่งขึ้นไป ได้ตรัสพระคาถาเหล่านั้นว่า:-

" นาทั้งหลายมีหญ้าเป็นเครื่องประทุษร้าย หมู่

สัตว์นี้มีราคะเป็นเครื่องประทุษร้าย, เพราะเหตุนั้นแล

ทานที่บุคคลให้แล้ว ในท่านที่มีราคะไปปราศแล้ว

ทั้งหลาย จึงมีผลมาก. นาทั้งหลายมีหญ้าเป็นเครื่อง

ประทุษร้าย หมู่สัตว์นี้มีโทสะเป็นเครื่องประทุษร้าย

เพราะเหตุนั้นแล ทานที่บุคคลให้แล้วในท่านผู้มีโท

สะไปปราศแล้วทั้งหลาย จึงมีผลมาก. นาทั้งหลาย

มีหญ้าเป็นเครื่องประทุษร้าย หมู่สัตว์นี้มีโมหะเป็น

เครื่องประทุษร้าย. เพราะเหตุนั้นแล ทานที่บุคคล

ให้แล้วในท่านผู้มีโมหะไปปราศแล้วทั้งหลาย จึงมี

ผลมาก. นาทั้งหลายมีหญ้าเป็นเครื่องประทุษร้าย

หมู่สัตว์นี้มีความอยากเป็นเครื่องประทุษร้าย เพราะ

เหตุนั้นแล ทานที่บุคคลให้แล้ว ในท่านผู้มีความ

อยากไปปราศแล้วทั้งหลาย จึงมีผลมาก. "

ในกาลจบเทศนา อังกุรเทพบุตรและอินทกเทพบุตร ดำรงอยู่แล้ว

ในโสดาปัตติผล. (ธรรมเทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่มหาชนแล้ว).