ไปหน้าแรก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1

พระอภิธรรมปิฎก

เล่มที่ ๕

ภาคที่ ๑ ตอนที่ ๒

ขอนอบน้อมแด่

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น

อนุสยยมกที่ ๗

ปริจเฉทวาระ

อนุสัย ๗ คือ :-

๑. กามราคานุสัย ๕. วิจิกิจฉานุสัย

๒. ปฏิฆานุสัย ๖. ภวราคานุสัย

๓. มานานุสัย ๗. อวิชชานุสัย

๔. ทิฏฐานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 2

ปริจฉินนุทเทสวาระ

[๑๒๒๑] กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ไหน ?

กามราคานุสัย นอนเนื่อง อยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ.

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ไหน ?

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา.

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ไหน ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ไหน ?

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ธรรมอันนับเนื่องด้วย

สักกายทิฏฐิทั้งหมด.

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ไหน ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ธรรมอันนับเนื่อง

ด้วยสักกายทิฏฐิทั้งหมด.

ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ไหน ?

ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ไหน ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ธรรมอันนับเนื่อง

ด้วยสักกายทิฏฐิทั้งหมด.

๑. บาลีเล่มที่ ๓๘ หน้า

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 3

อนุสยวาระ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ อนุโลม

กามรานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๒๒๒] กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด มานานุสัย ก็นอน

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 4

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่กามราคานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ และ

กามราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก.

จบกามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล ทิฏฐานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย ก็นอน

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก แต่ทิฏฐานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น, กามราคานุสัย นอน

เนื่องอยู่ และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

ก็หรือว่า ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่อง อยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 5

กามราคานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, วิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก แต่วิจิกิจฉานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น, กามราคานุสัยก็นอนเนื่อง และ

วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ภวราคานุสัย ก็

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 6

ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่กามราคานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น ภวราคานุสัย นอนเนื่อง

และกามราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, อวิชชานุสัย ก็

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่กามราคานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่และ

กามราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 7

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๒๓] ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, มานานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ และ

ปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ

วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก แต่วิจิกิจฉานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น, ปฏิฆานุสัย นอนเนื่อง

อยู่ และวิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 8

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่ปฏิฆานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่

และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 9

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๒๔] มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย

ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก แต่วิจิกิจฉานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น, มานานุสัย นอนเนื่อง

อยู่ และวิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, มานานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, มานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 10

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๒๕] ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, วิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 11

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก แต่ทิฏฐานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น, อวิชชานุสัย นอนเนื่อง

อยู่ และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

จบ ทิฏฐานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๒๖] วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคา-

นุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, วิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก แต่วิจิกิจฉานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 12

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น. อวิชชานุสัย นอน

เนื่องอยู่ และวิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๒๗] ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, อวิชชานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 13

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๒๘] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลใด, มานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, มานานุสัย

นอนเนื่องอยู่ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคล ๓ จำพวก.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด

ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒

จำพวก แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 14

เหล่านั้น กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ และวิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่อง อยู่แก่ปุถุชน.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด,

กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภว-

ราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัยและปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, อวิชชานุสัย

นอนเนื่องอยู่ กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

๓ จำพวก.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 15

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๒๒๙] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคล ๒ จำพวก แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒

จำพวกเหล่านั้น กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 16

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี

แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี

นั้น อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๓๐] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-

นุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 17

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ใช่ไหม ?

ใช่

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฎฐานุสยมูละ ภว-

ราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ก็นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี

แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

พระอนาคามีนั้น, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 18

มานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก แต่ทิฏฐานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น อวิชชานุสัย กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล-

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๓๑] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี

แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 19

นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก แต่ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น.

อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่แก่ปุถุชน.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูละ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

-วิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๓๒] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, อวิชชานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 20

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

พระอนาคามี แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น. อวิชชานุสัย กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก

แต่ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก

เหล่านั้น. อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่ปุถุชน.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภรวาราสุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 21

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม.

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๒๓๓] กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 22

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, มานานุสัย นอนเนื่อง

และกามราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคาสุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ

วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 23

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอน-

เนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 24

อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย

และกามราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๓๔] ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจ-

ฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 25

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ที่นั้น, วิจิกิจ-

ฉานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยาทิมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็นอน-

เนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 26

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๓๕] มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 27

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

มานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตู อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น. มานานุสัย และ

ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 28

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

มานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น. อวิชชานุสัย และมานานุสัย

ก็นอนเนื่อง อยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๓๖] ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด วิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 29

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ เวทนา ๓ ในกามธาตุ

แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ทิฏฐานุสัย และภว-

ราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ทิฏฐานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 30

ทิฏฐานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ทิฏฐานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๓๗] วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๓ ใน

กามธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 31

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด วิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอน-

เนื่องอยู่ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 32

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๓๘] ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๓ ใน

กามธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย

และภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 33

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๓๙] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่ใด, มานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, มานานุสัย

และกามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย และมานานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐา-

นุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 34

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

เเละปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, วิจิ-

กิจฉานุสัย และกามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย

และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่กาม-

ราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภว-

ราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 35

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด,

อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, อวิชชา-

นุชัย และกามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น. อวิชชานุสัย

และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่กาม-

ราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ วิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยะ ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 36

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๒๔๐] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย นอน-

เนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่รูปธาตุ ที่รูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย และมานานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 37

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่อง

อยู่ ที่นั้น, กามราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้

ืคือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่

ทุกขเวทนา แต่ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 38

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่

ที่นั้น, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่

ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๔๑] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏ-

ฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 39

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย

และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย

และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคา-

นุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ ภวราคา-

นุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอน-

เนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 40

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่

นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่

ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ภวราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย แต่ทิฏฐา-

นุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่ภวราคานุสัย กาม-

ราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย ทิฏฐานุสยมูละ

ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ อวิชชา-

นุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอน-

เนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 41

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้

คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น. อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย

และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคา-

นุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสัย จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 42

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๔๒] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นั้น, ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอน-

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒

กามธาตุ แต่ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น

ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 43

ที่ทุกขเวทนา แต่ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐินุสย - วิจิกิจฉานุ-

สยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิ-

กิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอน-

เนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 44

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่

ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

จักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

- วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๔๓] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 45

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย เเละภวราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภว-

ราคานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย และภวราคา-

นุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น. อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 46

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระอนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๒๔๔] กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, กาม-

ราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด. กาม-

ราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 47

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ผู้เป็น

พระอนาคามี ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคา-

นุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, มานานุสัย นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูป-

ธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น,

มานานุสัย และกามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น

คือบุคคล ๒ จำพวกนั้นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๒ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น กามราคานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลผู้เป็นปุถุชน

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 48

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

ผู้เป็นปุถุชน ที่ทุกขเวทนา รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลผู้เป็นปุถุชนนั้นแหละ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบกามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 49

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ผู้เป็น

พระอนาคามี ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคา-

นุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก ที่ทุกขเวทนา

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่า

นั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และกามราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

เหล่านั้น ณ ที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวกนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 50

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๔๕] ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

มานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ปฏิ-

ฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคล ๒ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่ทุกขเวทนา.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 51

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยนุสัย ภวราคานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด

ปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 52

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด อวิชชานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่

พระอนาคามี ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก เหล่านั้นนั่นแหละ

ที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 53

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๔๖] มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น มานา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แล่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่ปุถุชน ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่เวทนา ๒.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

มานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน

ที่ทุกขเวทนา แต่มานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 54

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

๔ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, มานานุสัย และภวราคานุสัย นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

มานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 55

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

มานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคล ๔ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่มานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๔๗] ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯ ล ฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 56

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๔๘] วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน

ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น ภวราคานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 57

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคล ๓ จำพวก ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่

ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น อวิชชานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแต่ปุถุชน ที่เวทนา ๓

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๔๙] ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 58

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคล ๔ จำพวก ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และภวราคานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๕๐] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลใด ณ ที่ใด, มานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 59

ก็หรือว่า มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

พระอนาคามี ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น,

มานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือบุคคล ๓

จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น มานานุสัย และกามราคานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

เหล่านั้น ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมุลี

กามราคานุสย - ปฎิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ

ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 60

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น. วิจิกิจฉานุสัย เเละกามราคานุสัย นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้นคือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น,

วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด

ที่ใด ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 61

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ

ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระ-

อนาคามี ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 62

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

เหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา

แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสัย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๒๕๑] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 63

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ

ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย

กามราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 64

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระ-

อนาคามี ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 65

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย

และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือบุคคล ๓

จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย

และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 66

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานาสุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๕๒] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏ-

ฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย ก็นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น วิจิกิจฉานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น วิจิกิจฉานุสัย

ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 67

แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย มานานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ ภว-

ราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น

ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น

ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 68

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ก็กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ อวิชชา-

นุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น, ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระ-

อนาคามี ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

และทิฏฐานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย

และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 69

นั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น

ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๒ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น

ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแถ่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกข-

เวทนา แต่กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ไม่ใช่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่น

แหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 70

แต่กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ

ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๕๓] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 71

ภวราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น

ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

เหล่านั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย มานานุสัย ทิฎฐานุสัย และวิจิกิจ-

ฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 72

อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระ-

อนาคามี ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น,

อวิชชานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และมานานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๒ จำพวก ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชา-

นุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น

ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา

แต่กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 73

ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลนั้น ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่

กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น,

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิกฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชา-

นุสยมูลี :-

[๑๒๕๔] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 74

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

อวิชชานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย ก็นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และมานานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ ก็บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ

ที่นั้น, อวิชชานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

นั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 75

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๒ จำพวก ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น อวิชชานุสัย กามราคา-

นุสัย และมานานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา

แก่กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคา-

นุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น,

อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย ไม่ใช่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 76

และวิจิกิจฉานุสัย นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

นั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่กามราคานุสัย มานานุสัย และ

ภวราคานุสัย ไม่ใช่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้นในภูมินั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 77

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ - ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๒๕๕] กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ปฏิ-

ฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, มานานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่มานานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 78

และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์.

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ

วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กาม-

ราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก กามราคา-

นุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น, วิจิกิจฉานุสัย ไม่

นอนเนื่อง และกามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 79

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย

ฯลฯ อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่อวิชชานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, กามราคานุสัย และอวิชชา-

นุสัยก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กาม-

ราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๕๖] ปฏิฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, มานา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่มานานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 80

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์.

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ปฏิฆานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ

วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ปฏิฆา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก แต่ปฏิฆา-

นุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น, วิจิกิจฉานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 81

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่อวิชชานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, ปฏิฆานุสัย และอวิชชานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ปฏิฆา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๕๗] มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐา-

นุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, มานา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก แต่มานา-

นุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น, วิจิกิจฉานุสัย และ

มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 82

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, มานา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๕๘] ทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, วิจิกิจ-

ฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 83

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๕๙] วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ภว-

ราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๓ จำพวก แต่อวิชชา-

นุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น, วิจิกิจฉานุสัย และ

อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์.

หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, วิจิกิจฉา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 84

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๖๐] ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, อวิช-

ชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวรา-

คานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๖๑] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลใด, มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 85

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี

แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์.

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด,

ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก แต่กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น,

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคล ๒ จำพวก.

จบ กามราคานุสย ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 86

กามราคานุสย ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด,

ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี

แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระ-

อรหันต์.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๒๖๒] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 87

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลทั้ง ๒ แต่กามราคา-

นุสัยปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น,

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

พระอนาคามี แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น,

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่พระอรหันต์.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ - ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 88

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๖๓] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฆนุสัย ก็ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 89

วิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒

จำพวก แต่กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามี แต่มานานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอนาคามีนั้น, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์

ฯ ล ฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิกฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๖๔] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, ภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 90

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย -ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๖๕] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, อวิชชา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 91

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 92

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฎิฆานุสยมูลี :-

[๑๒๖๖] กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย ไม่นอน-

เนื่อง และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ปฏิฆานุสัย

ไม่นอนเนื่อง และกามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 93

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูป-

ธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น กามราคานุสัย

ไม่นอนเนื่อง และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่

ทุกขเวทนา อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ

วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

กามราคานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่

อปริยาปันนธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 94

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย และ

ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น. ภวราคา-

นุสัย และกามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา

อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 95

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

กามราคานุสัย และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่

อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม.

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๖๗] ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 96

ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น มานานุสัย และปฏิฆานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานสุยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิ-

กิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

ปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 97

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย และ

ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่

อปริยาปันนธรรม.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 98

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

ปฏิฆานุสัย และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ปฏิฆานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆาสุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๖๘] มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, มานานุสัย และวิจิกิจ-

ฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 99

ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย

และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา อปริยา-

ปันนธรรม.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูล อวิชชานุสยมูลี :-

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 100

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น มานานุสัย และอวิชชา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๖๙] ทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯ ล ฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 101

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๗๐] วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย

ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๓ ใน

กามธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 102

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๗๑] ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ภวราคานุสัย

และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๗๒] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

ณ ที่ใด, มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 103

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น.

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้

คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย และกามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, มานานุสัย

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่

อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด,

ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่นี้ คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 104

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด,

ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่นี้ คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย และกามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ภว-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ภว-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 105

ราคานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้

คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด,

อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้

คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 106

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๒๗๓] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอน-

เนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 107

ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่

ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 108

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๗๔] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯ ล ฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 109

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๗๕] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็ไม่นอน

เนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่อง

อยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ภวราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอน

เนื่องอยู่ ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 110

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นี้ คือ ที่

อปริยาปันนธรรม ฯ ล ฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัยก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่

นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 111

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๗๖] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย เเละภวราคา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่ ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 112

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๒๗๗] กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น

คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ และ

ปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ อปริยาปันนธรรม กามราคา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒

จำพวก ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่

บุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องแก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 113

และกามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ อปริยาปันนธรรม ปฏิฆานุสัย

และกามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก ณ ที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูล ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, มานานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่อง

และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม กามราคา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอน-

เนื่องอยู่ ก็บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่อง และ

มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, คือแก่บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม กามราคานุสัย

และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องแก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 114

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ทิฏฐา-

นุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ

ปุถุชน ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

อปริยาปันนธรรม กามราคานุสัย แต่วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่อง-

อยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก ที่ทั้งปวง.

หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด

กามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๒ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 115

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และกามราคา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้น

นั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม

วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ๒ จำพวก

ณ ที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย และภวราคา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้น

นั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม กามราคานุสัย ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่พระอนาคามี ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, กาม-

ราคานุสัย และภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

คือ แก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่อปริยา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 116

ปันนธรรม กามราคานุสัย และภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย และกาม-

ราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคล

นั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม ภวราคานุสัย และ

กามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูล ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่ บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น

คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่ทุกขเวทนา รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่อวิชชานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย และ

อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 117

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่พระอนาคามี ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย และอวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม กามราคา-

นุสัย และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๗๘] ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 118

แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ปฏิ-

ฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น

คือ แก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม ปฏิฆานุสัย

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่พระอนาคามี ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา

ที่อปริยาปันนธรรม, ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, มานานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลเหล่านั้นนั่น

แหละ ที่อปริยาปันนธรรม มานานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 119

ปฏิฆานุสยมูล ทิฎฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่

ปุถุชน ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ

ที่อปริยาปันนธรรม ปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคล ๒ จำพวก ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๒ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่อง และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคล ๒ จำพวก ณ ที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 120

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลเหล่านั้นนั่น

แหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม ปฏิฆานุสัย ไม่

นอนเนื่องอยู่ ก็บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้นคือ แก่พระอนาคามี ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น,

ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่ปริยาปันน-

ธรรม ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์

ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอน-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 121

เนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม ภวราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่

บุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ปฏิฆา-

นุสัย และอวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม ปฏิฆานุสัย ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่พระอนาคามี ที่เวทนา ๓ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย และอวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม

ปฏิฆานุสัย และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ที่

ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 122

หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั่น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ - อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๗๙] มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่ปุถุชน

ที่ทุกขเวทนา แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น, มานานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น, คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม มานานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 123

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉา-

นุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม วิจิ-

กิจฉานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่

ทั้งปวง.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๔ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย และมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 124

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ

ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม ภวราคานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๔ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, มานานุสัย และอวิชชานุสัย ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ที่อปริยาปันนธรรม มานานุสัย และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 125

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๘๐] ทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ทิฏฐานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯ ล ฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี -

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๘๑] วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล ณ ที่ใด,

ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 126

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และภวราคา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่น

แหละ ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่ปุถุชน ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือ แก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

อปริยาปันนธรรม ภราคานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 127

อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉา-

นุสัย และอวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคลเหล่านั้นนั้นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม วิจิกิจฉานุสัย และ

อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๘๒] ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคล ๔ จำพวก ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น ภวราคานุสัย และอวิช-

ชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

นั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม ภวราคานุสัย และอวิชชานุสัย ก็

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 128

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูลี

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๘๓] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, มานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ

ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่า

นั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 129

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้น

นั้นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า มานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

มานานุสัย และกามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่า

นั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น มานานุสัย กามรา-

คานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น

คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม มานานุสัย กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่

ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ

ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 130

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

นั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม ฯ ล ฯ แก่บุคคล ๒ จำพวก ณ ที่

ทั้งปวง.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

วิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น

ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๒ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้น

นั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม ฯ ล ฯ

แก่บุคคล ๒ จำพวก ณ ที่ทั้งปวง

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 131

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ

ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่า

นั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ภวราคา-

นุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น

ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่

พระอนาคามี ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ภวราคานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม ฯ ล ฯ แก่พระอรหันต์ ณ

ที่ทั้งปวง

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่

นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย และกามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

เหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 132

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือ

แก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม ฯ ล ฯ แก่พระอรหันต์

ณ ที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด

ณ ที่ใด อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่า

นั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่อวิชชา-

นุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และอวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น

คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี

ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 133

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และอวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล

นั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม ฯ ล ฯ แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๒๘๔] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 134

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๒ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่

ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉา

นุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ที่นั้น,

คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคา-

นุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น,

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

เหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิ-

กิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริ-

ยาปันนธรรม วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 135

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกข-

เวทนา ที่อปริยาปันนธรรม ฯ ล ฯ แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๓ จำพวก ที่ทุกขเวทนา

แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ภว-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น

คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เวทนา ๒ ในกามธาตุ แก่กามราคา-

นุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น,

ภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 136

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริ-

ยาปันนธรรม ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น.

ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยา-

ปันนธรรม, ฯ ล ฯ แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ

ที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี ที่ทุกขเวทนา แต่อวิชชานุสัย

ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และอวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม, ฯลฯ แก่พระอรหันต์

ณ ที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 137

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๘๕] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-

นุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ก็ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 138

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฎฐานุสัย ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคล ๒ จำพวก ที่

ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ

ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แก่กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอน-

เนื่อง กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่อปริยา-

ปันนธรรม วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย

ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่

แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่อง กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย เละทิฏฐานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

เหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยา-

ปันนธรรม วิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่อง กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 139

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๒๘๖] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด, ภวราคานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 140

ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่ปุถุชน ที่ทุกขเวทนา แต่ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น,

ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ

ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ไม่ใช่ไม่นอน-

เนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่อง กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ก็ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่อปริ-

ยาปันนธรรม ภวราคานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคล ๒ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่อง

อยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น, ภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น คือแก่

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย

และมานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ ที่นั้น ภว-

ราคานุสัย ไม่นอนเนื่อง กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลเหล่านั้น ณ

ที่นั้น คือแก่บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ, ที่อปริยาปันนธรรม ภวราคา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 141

นุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่

นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระอนาคามี ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่มานานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น,

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่อง กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น

คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม ฯ ล ฯ

แก่พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชา-

นุสยมูลี :-

[๑๒๘๗] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

อวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 142

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น คือแก่พระ-

อนาคามี ที่ทุกขเวทนา แต่อวิชชานุสัย ไม่ใช่ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

บุคคลนั้น ณ ที่นั้น กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย ภวราคานุสัย และอวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคล

นั้น ณ ที่นั้น คือแก่บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่อปริยาปันนธรรม กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย ไม่นอนเนื่อง และอวิชชานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่

พระอรหันต์ ณ ที่ทั้งปวง ฯ ล ฯ

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลใด ณ ที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย ก็ไม่นอนเนื่องอยู่แก่บุคคลนั้น ณ ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานุสย- ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย-

ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อัปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 143

สานุสยวาระ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๒๘๘] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย,-

บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย บุคคลนั้นก็มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 144

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย แต่ไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย, บุคคล ๓ จำพวก ผู้มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย, บุคคลนั้นก็มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย แต่

ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยกามราคานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 145

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย, บุคคลนั้นก็มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย แต่ไม่ใช่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย บุคคล ๓ จำพวก มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๒๘๙] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 146

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย แต่ไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุคคล ๓ จำพวก ผู้มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้นก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย แต่ไม่

ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยปฏิฆานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 147

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย แต่ไม่ใช่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุคคล ๓ จำพวก มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลิ

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๙๐] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 148

บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย แต่ไม่

ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยมานานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, บุคคลนั้นก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 149

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๙๑] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๙๒] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย,

บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 150

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย แต่ไม่

ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยอวิชชานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๒๙๓] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูล อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 151

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล มานานุสยมูลี :-

[๑๒๙๔] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย แต่ไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคล ๓ จำพวก

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย,

บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 152

บุคคล ๒ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, ปุถุชนมี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย,

บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย แต่ไม่ใช่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคล ๓ จำพวก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 153

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๒๙๕] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย และมานานุสัย, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย

ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย และมานานุสัย แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย,

ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานา-

นุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 154

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามรานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และมานา-

นุสัย แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มีความนอน-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 155

เนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ - ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๒๙๖] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

และทิฏฐานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 156

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๒๙๗] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้นก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และมานา-

นุสัย แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย แต่ไม่ใช่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฎฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, ปุถุชนมีความ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 157

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานสุยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสย-

มูลี :-

[๑๒๙๘] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 158

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มานานุสัย

และภวราคานุสัย แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคล ๒ จำพวก มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

และภวราคานุสัย แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มีความ

เนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิ-

กิจฉานุสัย และภวราคานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระอนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 159

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๒๙๙] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จาก

ที่ใด ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, ก็มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

หมายเหตุ คำว่า จากที่ใด หมายความว่า เกิดจากที่ใด จากที่นั้น หมายความว่า

เกิดจากที่นั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 160

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือรูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และมีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัยจากที่ใด, ก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย จากที่นั้น. บุคคลมิความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 161

และมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด ก็มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, ก็มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 162

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย

และมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๐๐] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 163

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฎฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉา-

นุสัย และมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือทุกข์

เวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 164

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฎิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ก็มีความ

นอนเนื่อง อยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย และมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 165

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๐๑] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ

ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และมีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด, ก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 166

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และมีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด, ก็มีความ

นอนเนื่อง อยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม,

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือ

ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัยจากที่นั้น, บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 167

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และมีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

มานานุสัย ณ ที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฎฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๐๒] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 168

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๐๓] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่

ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และมีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือรูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๐๔] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่

ใด, ก็ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 169

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และมีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๐๕] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 170

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และกาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด, มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 171

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

และด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่

ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือทุกขเวทนา

แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 172

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือรูป-

ธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และ

กามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 173

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๐๖] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย

ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 174

คือทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

๑. บาลีปรากฏเพียงเท่านี้ พึงแก้ให้บริบูรณ์อย่างนี้ว่า " บุคคลมีความนอนเนื่อง

ด้วยภวราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือรูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะมีความ

นอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากนั้นก็หาไม่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 175

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยอวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 176

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๐๗] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 177

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ ภวราคา-

นุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลผู้มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และทิฏฐานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ อวิชชา-

นุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

๑. บาลีปรากฏเพียงเท่านี้ พึงแก้ให้บริบูรณ์อย่างนี้ว่า " บุคคลมีความนอนเนื่อง

ด้วยภวราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น คือรูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 178

นุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-

นุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย

ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 179

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๐๘] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

๑. บาลีปรากฏเพียงเท่านี้ พึงแก้ให้บริบูรณ์อย่างนี้ ว่า " บุคคลมีความนอนเนื่อง

ด้วยภวราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 180

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด,

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลมีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสยมูล อวิชชานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 181

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๐๙] บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด, ก็

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่

นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 182

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย-

ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 183

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูล - ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๑๐] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด ?

บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 184

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่อง

อยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่นั้น ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปุถุชนนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 185

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และมีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ปุถุชนนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่ปุถุชน

นั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

แหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นมีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 186

ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย

จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอน-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 187

เนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๑๑] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 188

บุคคล ๒ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคล

เหล่านั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่า

นั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, ปุถุชนมี

ความนอนเนื่องอยู่ในทุกขเวทนาปุถุชนนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ ปุถุชนนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

แต่ปุถุชนนั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้น

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 189

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่

ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย

จากที่นั้น แก่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 190

อยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอน-

เนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูลี จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๑๒] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น, ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปุถุชนนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และ

ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 191

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา ปุถุชนนั้นมีความนอน

เนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แก่ปุถุชนนั้นไม่ใช่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอน-

เนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นมีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานา-

นุสัย จากที่นั้น.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๔ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคล ๔ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่

นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่อง อยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 192

อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และก็

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๔ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคล

๔ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 193

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

[๑๓๑๓] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย จากที่นั้น,

ใช่ไหม ?

ใช่ ฯ ล ฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 194

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๑๔] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น,

ใช่ไหม ?

ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ปุถุชนนั้น

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แก่ปุถุชนนั้น ไม่ใช่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ

มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นมีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่

ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่นั้น, แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น, ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปุถุชนนั้น มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 195

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่เวทนา ๓

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปุถุชนนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย และก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 196

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๑๕] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๔ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

บุคคล ๔ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 197

อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และก็

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๑๖] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น, ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 198

จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคล ๓ จำพวก มีความนอนเนื่อง

อยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่น

แหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้น คือ

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลเหล่านั้น ก็ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 199

ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปุถุชนนั้น มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่ปุถุชนนั้นไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย จาก

ที่นั้น แก่บุคคลนั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้น มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลนั้น ก็ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่

ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 200

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอนาคามี มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย

จากที่นั้น แก่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคล ๓ จำพวก มีความ

นอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล จำพวกเหล่านั้น มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น, ไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 201

เหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และกามราคานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา

บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ก็ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๑๗] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องด้วย

ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 202

ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปุถุชนนั้น มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่

ปุถุชนนั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ บุคคลนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่

ทุกขเวทนา บุคคลนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลนั้น ก็ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภว-

ราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 203

และมานานุสัย จากที่นั้น, ใช่ไหม ?

บุคคลนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอนาคามีมีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา พระอนาคามีนั้น

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้น

๑. บาลีปรากฏเพียงเท่านี้ พึงแก้ให้บริบูรณ์อย่างนี้ว่า " บุคคล ๔ จำพวก มีความ

นอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๔ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยภวราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 204

ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้นไม่ใช่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคล ๓

จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวก

เหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่

นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่อง

อยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

วิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น

ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้น

นั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้น มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลนั้น

ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 205

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย -ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๑๘] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ปถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปุถุชนนั้นมี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จาก

ที่นั้น แต่ปุถุชนนั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉา-

นุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคล

นั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้นก็มีความนอน-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 206

เนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลนั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น ฯ ล ฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏาฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๑๙] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิภิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 207

บุคคล ๓ จำพวกมีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล

๓ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และมานา-

นุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปุถุชนนั้นมีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น แต่ปุถุชนนั้น ก็ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 208

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอนาคามีมีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา พระอนาคามีนั้น

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้น

ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความ

นอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลนั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏ-

ฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล ๒ จำพวก มีความ

นอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

เหล่านั้น ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้น มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

แก่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอน-

เนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนาบุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 209

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย มานานุสัย ปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น, แก่ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ปุถุชนนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่อง

อยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคล

นั้น มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, แต่บุคคลนั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 210

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๒๐] บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใดมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้น ก็มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอนาคามีมีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา พระอนาคามีนั้น

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้น

ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 211

นั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

นั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ มี

ความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยอวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

นั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล ๒ จำพวก มีความนอนเนื่องอยู่

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยอวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย แต่บุคคลเหล่านั้น

ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่อง

อยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่า

นั้นไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ มีความนอน-

เนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้น มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 212

และภวราคานุสัย จากที่นั้น, ปุถุชนมีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ ปุถุชนนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น, แต่ปุถุชนนั้น

ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้นมีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลนั้นไม่ใช่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้นมีความ

นอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น แก่บุคคลนั้น ก็ไม่ใช่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

มานานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยส - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐาน ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 213

อุปปัตติฏฐานะปุคคลวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๒๑] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย,

บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย บุคคล

นั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย, บุคคลนั้น

ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย แต่

๑. บาลีพึงเป็น โน จ โส ฯ ปุคคโลกาสวาระ ซึ่งจะกล่าวข้างหน้า ก็เป็นตัวอย่าง

ในข้อนี้ เพราะว่า ในพระบาลีนั้น ท่านกล่าวไว้ว่า โน จ โส ตโต ดังนี้ เป็น

อาทิแม้ในคำว่า โน จ เต นี้ ก็นัยนี้เหมือนกัน.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 214

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, พระอรหันต์ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานา-

นุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, บุคคล

นั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย, บุคคลนั้น

ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย แต่

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย, บุคคล ๒ จำพวก ไม่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 215

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย, บุคคลนั้นก็

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย แต่

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย พระอรหันต์ ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๒๒] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุค-

คลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 216

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย แต่ไม่ใช่

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, พระอรหันต์ ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, บุคคล

นั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้นก็ไม่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย แต่

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุคคล ๒ จำพวก ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 217

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้นก็ไม่

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย แต่ไม่ใช่

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, พระอรหันต์ไม่มีความนอน

เนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย,

บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๒๓] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, บุค-

คลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย

ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 218

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย แต่

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย พระอรหันต์ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานา-

นุสัย.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย,

บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 219

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๒๔] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย, บุค-

คลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่ ฯ ล ฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๒๕] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 220

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย แต่

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, พระอรหันต์ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๒๖] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 221

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๒๗] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ใช่

ไหม ?

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, พระอรหันต์

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 222

นั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆนุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย, บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉา-

นุสัย ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย แต่

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคล

๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 223

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัยและปฏิฆา-

นุสัย, บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชา-

นุสัย ใช่ไหม ?

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, พระ-

อรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และ

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 224

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๒๘] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย, บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย แต่

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย, พระอนาคามีไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานา-

นุสัย, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 225

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ

อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย, บุคคล

นั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานา-

นุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๒๙] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 226

อยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย และทิฏฐานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย และมานานุสัย, พระอนาคามีไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉา-

นุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย แต่ไม่ใช่ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

วิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

๑. ควรจะวาง ฯ ล ฯ ไว้เหมือน ติกมูลกะ แต่พระบาลีท่านวางไว้อย่างนี้ ผู้แปลยัง

ไม่เข้าใจลึกซึ้ง จึงวางไว้อย่างพระบาลีตามเดิม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 227

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๓๐] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้นก็ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย,

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 228

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

-วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมุละ อวิชชานุสย -

มูลี :-

[๑๓๓๑] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย บุคคล

นั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฐาน ปุคคลวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 229

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๒๒] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 230

กามราคานุสยมูล มานานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, ก็

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จาก

ที่นั้น. บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, ก็

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 231

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่

อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, ก็

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่

อปริยาปันนธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 232

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และ

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด, ก็

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยา-

ปันนธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 233

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๓๓] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 234

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ก็ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอน

เนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 235

ที่ใด ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ก็ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 236

อยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ก็ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มี นอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 237

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๓๔] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่

นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ที่ใด, ก็ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 238

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่อปริยา-

ปันนธรรม.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด, ก็ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 239

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมุลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๓๕] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯ ล ฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 240

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๓๖] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ก็

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 241

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๓๗] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 242

ที่ใด ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๓๘] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่

นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 243

ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และกามราคานุสัย

จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

คือที่อปริยาปันนธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 244

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย แต่ปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ภวราคานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 245

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลที่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานสุยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 246

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๓๙] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

มานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐา-

นุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 247

มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมุลี :-

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย กามราคานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 248

อยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือที่

อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ฝึกความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่ใด ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 249

กามราคานุสย - ปฏิฆนุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๔๐] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย และปิฏฐานุสัย จากที่ใด ก็ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด. ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 250

กามราคานุสย - ปฏิฆนุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๔๑] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ก็ไม่

มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย กามราคานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่

นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกาม-

ราคานุสัย มานานุสัย ทิฎฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 251

บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจ-

ฉานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฎฐานุสย

-วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสย -

มูลี :-

[๑๓๔๒] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 252

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อัปปัตติฏฐานโอกาสวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 253

อุปปัตติฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๔๓] บุคคลไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา บุคคล ๓

จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่อปริยา-

ปันนธรรม ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 254

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอปริ-

ยาปันนธรรม ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด

บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 255

ปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, พระอนาคามีไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ พระ-

อนาคามีนั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่

พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และ

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น พระอรหันต์ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานา-

นุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย, จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด

บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯ ล ฯ วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 256

ปุถุชนไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา รูปธาตุ อรูปธาตุ

ปุถุชนนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่

ปุถุชนนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่อปริยาปันนธรรม บุคคล

นั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ใน

ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจ-

ฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ อปริยาปันนธรรม บุคคล

เหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคล ๒ จำพวก ไม่มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 257

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น,

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย ภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกข-

เวทนา อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น,

พระอนาคามีไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามี

นั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้น

นั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 258

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่

เวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

จากที่นั้น พระอรหันต์ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และ

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 259

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

กามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 260

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๔๔] บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น,

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฎิฆานุสัย

จากที่นั้น แก่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานา-

นุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฎิฆานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 261

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

มานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคล

๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

แก่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยปฎิฆานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ใน

ที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 262

ปุถุชนไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ ปุถุชนนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

แต่ปุถุชนนั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่อปริยาปันนธรรม บุคคล

นั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ในที่

ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคล

เหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

เหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจ-

ฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 263

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น. บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกข-

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ภวราคานุสัย จากที่นั้น พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น แต่พระอนาคามึนั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย, วราคา-

นุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓

ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

ปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น

พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 264

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคล

๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัยจากที่นั้น,

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภว-

ราคานุสัย ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, พระ-

อรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

อวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนืองอยู่ด้วยปฏิ-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 265

ฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น, พระ-

อนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชา

นุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆนุสยมูละ อวิชชนุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 266

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๔๕] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ปุถุชนไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา ปุถุชนนั้นไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

มานานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

จากที่ใด บุคคลนั้นก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 267

อยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วย

มานานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจ-

ฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคล ๔ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคล ๔ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 268

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคา-

นุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่

ด้วยมานานุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่ใด บุคคล

นั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๔ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่ทุกขเวทนา บุคคล

๔ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่

นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหล่ะไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ณ

ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 269

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมุละ วิจิกิจฉานุสยมมูลี :-

[๑๓๔๖] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

จากที่ใด บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยทิฏฐานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่ ฯ ล ฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 270

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๔๗] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓

ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่นั้น. พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ปุถุชนไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ปุถุชนนั้น

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่ปุถุชนนั้น ไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 271

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยภวาราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย และ

ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ไม่มีความนอน-

เนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความ

นอนเนื่องอยู่ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

อยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มี

ความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย ณ ที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 272

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๔๘] บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยภวราคานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ก็ไม่มีความนอนเนื่องอยู่ด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๔ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องในเวทนา ๓ ในกามธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย จากที่

นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องในอปริยาปันน-

ธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย และไม่มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 273

ความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น พระอรหันต์ไม่มีความนอน

เนื่องด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย ในที่

ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่

ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูละกะ - กามราคานุสย - ปฎิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๔๙] บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

และด้วยปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น, ไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 274

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอน-

เนื่องในอปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกาม-

ราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น. พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยกาม-

ราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัยจากที่นั้น แก่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่มีความนอนเนื่องในทุกขเวทนา ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นไม่

มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วย

มานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย จากที่ใด

บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องในทุกขเวทนา บุคคล

๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย และด้วยกาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วย

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 275

ในอปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย จากที่

นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย และไม่มีความ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วย

ปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยทิฏฐานุสัย

ฯลฯ ด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ปุถุชนไม่มีความนอนเนื่องในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ ปุถุชนนั้น

ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

แต่ปุถุชนนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องในอปริยาปันนธรรม บุคคล

นั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคล ๒ จำพวก ไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 276

ก็หรือว่า บุคคลใดไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา บุคคล

๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และด้วย

กามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอน-

เนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วย

วิจิกิจฉานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่

ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้นนั่น

แหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคล ๒

จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฎิฆานุสัยในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 277

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฎิ-

ฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และ

ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความ

นอนเนื่องในอปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วย

ภวราคานุสัย จากที่นั้น. พระอนาคามีไม่มีความนอนเนื่องที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

และด้วยปฏิฆานุสัย แต่พระอนาคามีไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภว-

ราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอน

เนื่องด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วย

ภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 278

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วย

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา บุคคล

๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย และด้วย

กามราคานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอน-

เนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วย

ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอน

เนื่องด้วยกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ไม่มีความนอนเนื่องที่อปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอน

เนื่องด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และ

ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคา-

นุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมุละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 279

กามราคานุสย - ปฎิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิ-

ฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และ

ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอน-

เนื่องด้วยอปริยาปันนธรรมบุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยกาม-

ราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย

จากที่นั้น, พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคา-

นุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความ

นอนเนื่อง ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วย

กามราคานุสัยและด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และ

ด้วยปฏิฆานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 280

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่

ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยปฏิฆา

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๕๐] บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 281

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา บุคคล ๒

จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอน-

เนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น

ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยมานานุสัย จากที่นั้นก็

หาไม่ บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยอปริยาปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น, พระอนาคามี ไม่มีความนอน

เนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น

ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น แก่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น. บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และ

ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 282

จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ในที่

ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย จากที่

ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

มานานุสัย จากที่นั้นใช่ไหม ?

บุคคล ๓ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องในทุกขเวทนา บุคคล

๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย กามราคา-

นุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอน

เนื่องด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความ

นอนเนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 283

เนื่องด้วยภวราคานุสัย และด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่า

นั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยมานานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัยและ

ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

พระอนาคามีนั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอน-

เนื่องที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องด้วย

ภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 284

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอนาคามีไม่มีความนอนเนื่องทุกขเวทนา พระอนาคามี

นั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานา-

นุสัย จากที่นั้น แต่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วย

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย

จากที่นั้น, พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย และมานานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย ใน

ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่

ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 285

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๕๑] บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องในทุกขเวทนา บุคคล ๒

จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย

มานานุสัย และทิฎฐานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้น ไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

เหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และด้วยมานา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 286

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉา-

นุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องในอปริยาปันนธรรม

บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น, พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ พระอนาคามีนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วย

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น

แต่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันน-

ธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น, พระอรหันต์ ไม่มีความนอนเนื่องด้วยวิจิกิจฉานุสัย และไม่

มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย ในที่ทั้งปวง ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 287

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๕๒] บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด

บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ปุถุชนไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา ปุถุชนนั้นไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่ปุถุชนนั้น

ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกาม-

ราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่อปริยาปันธรรม บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 288

นั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่นั้น บุคคล ๒ จำพวก ไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา บุคคล

๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย กามราคา-

นุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

เหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลเหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่ไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่อปริยาปันนธรรม บุคคล

เหล่านั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ พระอนาคามีนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

แต่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยมานานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันน-

ธรรม บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยภวราคานุสัย ไม่มีความ

นอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 289

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ ไม่มีความนอนเนื่องด้วย

ภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมุละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา -

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอนาคามีไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา พระอนาคามี

นั้นไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แก่พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่

ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่มีความนอนเนื่องที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นไม่มีความนอนเนื่อง

ด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น แล่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชานุสัย จากที่นั้น,

พระอรหันต์ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 290

อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูลจบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๕๓] บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 291

พระอนาคามี ไม่มีความนอนเนื่องที่ทุกขเวทนา พระอนาคามี

นั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่พระอนาคามี

นั้น ไม่ใช่ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่มีความนอนเนื่องที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ไม่มี

ความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย และไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น, พระอรหันต์ ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ภวราคานุสัย

และไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่มีความนอนเนื่องด้วยอวิชชานุสัย จากที่

ใด บุคคลนั้น ไม่มีความนอนเนื่องด้วยกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อัปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก จบ.

สานุสยวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 292

ปชหนวาระ

อุปปัตติฏฐานปุคควาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๕๔] บุคคลใด ละกามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละ

ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกามราคา-

ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละมานานุสัย

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 293

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกับกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละมานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกามราคา-

นุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกาม-

ราคานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละภวราคานุสัย

ฯ ล ฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 294

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกาม-

ราคานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๕๕] บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละ

มานานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่าบุคคลใด ละมานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละปฏิฆานุสัย

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 295

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละ

ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละภวราคานุสัย ฯลฯ

อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมละปฏิฆา-

นุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 296

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๕๖] บุคคลใด ละมานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละมานา-

นุสัยใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ มานานุสยมุละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละมานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละภวราคานุสัย ฯลฯ

อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมละกามราคา-

นุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 297

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๕๗] บุคคลใด ละทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละ

วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละทิฏฐา-

นุสัยใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๕๘] บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละ

ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 298

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละวิจิกิจฉา-

นุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๕๙] บุคคลใด ละภวราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมละ

อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละภวราคา-

นุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 299

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๖๐] บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมละมานานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละมานานุสัย บุคคลนั้น ย่อมละกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละ

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 300

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมการละกาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 301

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๖๑] บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย, บุคคลนั้นย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกาม.

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย, บุคคล

นั้น ย่อมละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 302

ย่อมละมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุยมูลี :-

[๑๓๖๒] บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

และทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าบุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละทิฏฐานุสัย ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานสุยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 303

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๖๓] บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละภวราคานุสัย ฯลฯ

อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

ใช่ไหม ?

ย่อมละมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 304

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๖๔] บุคคลใด ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ละภวราคานุสัย บุคคลนั้น

ย่อมละอวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าบุคคลใด ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมละกามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคา-

นุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมละมานานุสัย และภวราคานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ อนุโลม จบ

ปชหนวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 305

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๖๕] บุคคลละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 306

ก็หรือว่า บุคคลละมานานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

จากที่นั้น, ใช่ไหม ?

บุคคลละมานานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลละมานานุสัย และละกาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยทิมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมละกามราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละ

วิจิกิจฉานุสัย และละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 307

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมละกามราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลย่อมละ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 308

อวิชชานุสัย และย่อมละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๖๖] บุคคลละปฎิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมละมานานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละมานานุสัย จากที่ใด, ย่อมละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี:-

บุคคลละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 309

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย ละย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกข-

เวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 310

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมละอวิชชานุสัย และย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกข-

เวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๖๗] บุคคลละมานานุสัย จากที่ใด, ย่อมละทิฏฐานุสัย

ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 311

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมละมานานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือในทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่

ย่อมละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละวิจิกิจฉานุสัย และย่อมละ

มานานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลละมานานุสัย จากที่นั้น ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลละมานานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่ไม่ใช่ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลละมานานุสัย และย่อม

ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า บุคคลละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละมานานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 312

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดละมานานุสัย จากที่ใด, ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่

นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมละมานานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่

ย่อมละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละอวิชชานุสัย และย่อมละ

มานานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๖๘] บุคคลละทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ย่อมละวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 313

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมละทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๖๙] บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมละภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

แต่ไม่ใช่ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละวิจิกิจฉานุสัย

และย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 314

ก็หรือว่า บุคคลละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 315

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๗๐] บุคคลละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละอวิชชานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมละภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือในเวทนา ๓ ในกามธาตุ

แต่ไม่ใช่ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละอวิชชานุสัย

และย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 316

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๗๑] บุคคลละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

ย่อมละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมละกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละมานานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่

ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลย่อมละ

มานานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี:-

บุคคลละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมละ

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 317

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละ

วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย

จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมละ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 318

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฎิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละ

อวิชชานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลย่อมละอวิชชานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ย่อมละกามรา-

คานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 319

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๗๒] บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานา-

นุสัย จากที่ใด, ย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมละกามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 320

กามราคานุสย - ปฎิฆานุสย - มานานุสยมูล ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด,

ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมละมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย เเละมานานุสัย จากที่ใด,

ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละอวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 321

บุคคลละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคล

ละอวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่

ย่อมละกามราคานุสัย ละมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๗๓] บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

และทิฏฐานุสัย จากที่ใด ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 322

จากที่นั้น, บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่

นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวรานุสยมูลี :-

[๑๓๗๔] บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมละภวราคานุสัย จาก

นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 323

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิกฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมละมานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลละกามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลละอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 324

ย่อมละกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย-ปฏิฆานุสย-มานานุสย-ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๗๕] บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมละอวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 325

บุคคลละอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละอวิชชานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย และภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่ย่อมละกาม-

ราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 326

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๗๖] บุคคลใด ละกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละ

กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ นานานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้นย่อมละมานา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 327

ก็หรือว่า บุคคลใด ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละ

กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฆานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย จากที่ใด. บุคคลนั้นย่อมละทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละ

กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น

ไม่ใช่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ละวิจิกิจฉานุสัย

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

และละกามราคานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 328

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละ

กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละอวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละ

กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 329

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๗๗] บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อม

ละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละทิฏฐานุสัย

ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมละ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 330

บุคคลที่ ๘ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

ที่ ๘ นั้น ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ละ

วิจิกิจฉานุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้น ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ละปฏิฆานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัย นั้น.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้นย่อมละภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อม

ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ละอวิชชานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 331

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมละกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้นย่อมละ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๗๘] บุคคลใด ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อม

ละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลที่ ๘ นั้น

ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่ละมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 332

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่นั้น ละมานานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ละมานา-

นุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้นละมานานุสัย จากที่นั้น แก่พระอริยบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ละมานานุสัย ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น

ละมานานุสัย และละภวราคานุสัย จากที่นั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นละ

มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 333

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละอวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ละ

มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ละอวิชชา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

รูปธาตุ บุคคลนั้น ละอวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๗๙] บุคคลใด ละทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 334

ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูล วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๘๐] บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ละวิจิกิจฉานุสัย เวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลที่ ๘

นั้น ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่ละภวรา-

คานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลนั้น ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น และละภวราคานุสัย

อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น จากที่นั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ละ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 335

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่ ฯลฯ

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๘๑] บุคคลใด ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ละอวิชชา-

นุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น แก่พระอริยบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอดหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมละภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ย่อมละอวิชชานุสัย ที่รูปธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 336

อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย และย่อมละภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๘๒] บุคคลใด ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จาก

ที่ใด บุคคลนั้น ย่อมละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 337

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละ

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ละวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ? ที่รูปธาตุ บุคคล

ที่ ๘ นั้น ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่

ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่น-

แหละ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นย่อมละ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ย่อมละกามราคานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกัน

กับอนุสัยนั้น แก่บุคคลนั้น ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้น ย่อม

ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ย่อมละปฏิฆานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกัน

กับอนุสัยนั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย จากที่นั้น,

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 338

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 339

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๘๓] บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล

ที่ ๘ นั้น ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ย่อมละมานานุสัย อันตั้ง

อยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น แก่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่ย่อมละกาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ละ

วิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย

และละกามราคานุสัย จากที่นั้น ย่อมละมานานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียว

กันกับอนุสัยนั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

บุคคลนั้นนั่นแหละ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้น ย่อม

ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ย่อมละปฏิฆานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกัน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 340

กับอนุสัยนั้น แต่บุคคลนั้นไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น,

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อม

ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมละมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสัยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี:-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จาก

ที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 341

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น, ใช่ไหม ?

พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ละอวิชชา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่พระอริยบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ ละอวิชชานุสัย ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมละอวิช-

ชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลนั้น ไม่ใช่ย่อมละกาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๘๔] บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 342

และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล

ที่ ๘ นั้น ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ย่อมละ

มานานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น บุคคลที่ ๘ นั้น

ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น-

นั่นแหละ ละวิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น

ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ย่อมละกามราคานุสัย

และมานานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น แต่บุคคลนั้น

ไม่ใช่ย่อมละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ละวิจิกิจฉา-

นุสัย ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น ย่อมละวิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น ย่อมละปฎิฆานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันก็บอนุสัยนั้น แต่

บุคคลนั้น ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 343

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสัย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๓๘๕] บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ที่ฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมละมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 344

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ละอวิชชา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่พระอริยบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 345

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๘๖] บุคคลใด ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น

ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ละอวิชชา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต

มรรคนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่พระอริยบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้นไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ย่อมละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้น ย่อมละอวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

นั้น ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 346

และภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ละอวิชชานุสัย ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น ละอวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่ย่อมละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐาน ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 347

อุปปัตติฏฐานปุคควาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๘๗] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่

ละปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย

ใช่ไหม ?

พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกาม-

ราคานุสัย แต่พระอริยบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ไม่ใช่ย่อมไม่ละมานานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 348

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละกามราคานุสัย และไม่

ละมานานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละมานานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย

ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่

ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย. บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย

และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 349

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย. บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อม

ไม่ละกามราคานุสัย. บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่

ละกามราคานุสัย.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิกฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคา-

นุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย.

หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ไม่ละกาม-

ราคานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 350

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ละอวิชชานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละกามราคา-

นุสัย.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๘๘] บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

มานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และปฏิฆานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

มานานุสัย บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 351

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

ปฏิฆานุสัย. บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละมานานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละปฏิฆานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่ย่อม

ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละ

วิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 352

ไม่ละปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ

ปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมาทิมูลี

ปฏิฆานุสย ละภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ไม่ละภวราคานุสัย

ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ไม่ละ

ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชา-

นุสัย บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อม

ไม่ละปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละอวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฎิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 353

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๘๙] บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย, บุคคลนั้น ไม่ละทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละมานานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่ย่อม

ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละมานานุสัย และไม่ละ

วิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

มานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

มานานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ

มานานุสัย.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 354

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย

ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

มานานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๙๐] บุคคลใด ไม่ละทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ทิฏฐานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 355

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๙๑] บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ

อวิชชานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่ย่อม

ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 356

เพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละ

วิจิกิจฉานุสัย.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๓๙๒] บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 357

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๙๓] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย,

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค

นั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละมานานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละมานานุสัย และไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 358

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ล่ะทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่บุคคลที่ ๘

นั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละกาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อม

ไม่ละ กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฎิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 359

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค

นั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 360

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆนุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๓๙๔] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย

ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่ย่อม ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย และมานานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

นั้น ไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย เเละปฏิฆานุสัย, บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่

ย่อมไม่ละมานานุสัย บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 361

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย,

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชา-

นุสัย และมานานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

นั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ไม่ละ

อวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 362

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย- มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๓๙๕] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย และทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย บุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฎฐานุสัย บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรค ไม่ใช่ย่อมไม่ละมานานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ๒ จำพวก และ

บุคคลที่ ๘ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 363

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๓๙๖] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย

ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้นไม่ใช่ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย. บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชา

นุสัย มานานุสัย ทิฎฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 364

มรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัยไม่ละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

[๑๓๙๗] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่ละอวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 365

บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และภวราคานุสัย แต่บุคคลที่ ๘ นั้นไม่ใช่ย่อมไม่ละทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

ไม่ละอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคา-

นุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ใช่ย่อม

ไม่ละกามราคานุนัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘

ไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 366

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๓๙๘] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่จะ

ไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละกามราคานุสัย และ

ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม.

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละ

ปฏิฆานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น. คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 367

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละมานานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่จะไม่ไช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันน-

ธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกามราคา -

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 368

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่

อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปปธาตุ

แต่ละไม่ใช่ไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่จะไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 369

และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือในทุกขเวทนา ในอปริยา-

ปันนธรรม.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 370

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๓๙๙] บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละมานา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่

ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละ

ปฎิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 371

บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่

อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่จะไม่ใช่ไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย

และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่

อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 372

บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือในทุกขเวทนา แต่

จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลไม่ละภวราคานุสัย และไม่

ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่อปริยาปันน-

ธรรม.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยา-

ปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 373

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๐๐] บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่

ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละมานานุสัย และ

ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละมานา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละมานา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 374

บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากนั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่

อปริยาปันนธรรม.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่

ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละมานานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 375

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูล วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๐๑] บุคคลไม่ละทิฏฐานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละทิฏฐา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๐๒] บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 376

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๓ ใน

กามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันน-

ธรรม.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 377

ภวราคานุสยมูล

วราคานสุยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๐๓] บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

แต่จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย

และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยสมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๐๔] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 378

ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อม

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละมานานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย, จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละ

มานานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละ

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 379

คือปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบกามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

ละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น

คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละภรราคานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ที่

ทุกขเวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลไม่ละ

ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 380

แต่จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย

ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันน-

ธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่ บุคคล

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น

คือในอปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่าบุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 381

กามราคานุสย ปฏิฆานุสยมูล มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล ทิฏฐา

นุสยาทิมูลี :-

[๑๔๐๕] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานา-

นุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯล ฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จาก

ที่ใด, ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าบุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 382

บุคคลไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ที่เวทนา

๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย และมานานุสัย จาก

ที่นั้น. บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฎิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่ใด

ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าบุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย ปฎิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย มานานุสยมูล จบ.

ติกมูลกะ จบ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 383

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๐๖] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ.

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๐๗] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จาก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 384

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าบุคคลไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่

นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จาก

ที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่ละกาม-

ราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ ที่อปริยาปันน-

ธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 385

ใช่.

หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละกามราคา.

นุสัย ปฎิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ วิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๐๘] บุคคลไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่ละกามราคา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 386

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชนุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคนุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ.

อุปปัตติฏฐาน โอกาสวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 387

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๔๐๙] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละกามราคา-

นุสัย ในทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่น

แหละ ไม่ละกามราคานุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันน-

ธรรม บุคคลนั้นย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรค ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละปฏิฆานุสัย ในที่

ทั้งปวง.

ก็หรือว่าบุคคลจะไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 388

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่ละปฏิฆา-

นุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละกาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่ละปฎิฆานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคา-

นุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่

ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 389

ที่ทุกขเวทนา ทื่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นย่อมไม่ละกามราคานุสัย

และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และ

ไม่ละมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

นั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่ละมานานุสัย ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละ

กามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละ

กามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 390

บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย

จากที่นั้น แก่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคล

นั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลทั้งหลายที่เหลือเว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ใน

ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั้นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่ทุกขเวทนา

ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

วิจิกิจฉานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 391

ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่

ละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ไม่ละกามราคา-

นุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละ

ภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภวราคา-

นุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 392

อนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัยจาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่ทุกขเวทนา ที่

รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่

เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่

ละภวราคานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ไม่ละกามราคา-

นุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จาก

ที่นั้น แด่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่

ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 393

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และไม่ละ

อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชา-

นุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จาก

ที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่ทุกขเวทนา ที่

รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๑๐] บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 394

ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง ด้วยอรหัตตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละมานา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ที่ทุกขเวทนา

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ ปฏิฆานุสัย และไม่ละ

มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย

ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อม

ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่ละมานานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ล่ะมานานุสัย และไม่ละ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 395

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละ

ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละปฏิฆานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคล

ที่ ๘ ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 396

วิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และ

ไม่ละปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย

ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย

จากที่นั้น. บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

มรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย ใน

ที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 397

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภวราคา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย

และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และ

ไม่ละปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละปฏิฆานุสัย

ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 398

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละอวิชา-

ชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละปฏิฆานุสัย ในอปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

มรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ใน

ที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม,

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั้นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย

และไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และ

ไม่ละปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 399

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๑๑] บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ละมานานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละมานานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคล

ที่ ๘ ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละมานา-

นุสัย จากที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่ทุกขเวทนา

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 400

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ

มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

และไม่ละมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละภวราคานุสัย

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค

นั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ในทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 401

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค

ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละมานานุสัย

ในทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อม

ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่ละมานานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย

และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงก็ด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละ

อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 402

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๑๒] บุคคลใด ไม่ละทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย จากที่นั้น.

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๑๓] บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 403

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๓ ที่กามธาตุ ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

และไม่ละภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละภวราคานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละวิจกิจฉานุสัยจากที่นั้น, บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคล

ที่ ๘ ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 404

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น, ย่อมไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย, ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ

อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่

ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และไม่ละ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 405

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย

ในที่ทั้งปวง

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๙๑๔] บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละภวราคา-

นุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม

ไม่ละภวราคานุสัย และไม่ละฉวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลาย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 406

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น, ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๑๕] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคา-

นุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น แต่0บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 407

จะไม่ใช่ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกาม-

ราคานุสัย ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ๒

จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละมานานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละมานานุสัย

ในทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อม

ไม่ละมานานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละมานานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคล

นั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่ละมานานุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคล

นั้น ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 408

มรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละมานานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

บุคคลใดนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 409

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ บุคคลนั้น ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่น

แหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้นบุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย และ

ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย

ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 410

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย และไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภรราคา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่ละภวราคานุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 411

มรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย

ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละ

กามราคานุสัย ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 412

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่ละอวิชชานุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

มรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง ?

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 413

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๔๑๖] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิ-

กิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละกามราคานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย ละมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้นไม่ใช่ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย และไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย และไม่ละวิจิ-

กิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 414

นั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิ-

ฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จาก

ที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่รูปธาตุ ที่

อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น แก่บุคคลผู้มีความพร้อมเพียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่

ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ, เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก

และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 415

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าบุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละภวราคา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ละภวราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 416

ด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ใช่ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ทุกขเวทนา อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย

ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อม

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัยจาก

ที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย และ

ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 417

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย และมานานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ละอวิชชานุสัย

ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อม

ไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ บุคคลนั้นย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละไม่ละอวิชชานุสัย ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ.

ติกมูลกะ จบ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 418

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยามูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๑๗] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละวิจิกิจฉา-

นุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่

ไม่ละ ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้นจะไม่ใช่ไม่ละกาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ที่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 419

รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

วิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น, บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค

ไม่ละวิจิกิจฉานุสัยที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แก่บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละมานานุสัย จาก

ที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละวิจิกิจฉานุสัยที่ทุกขเวทนา ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก

และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ในที่ทั้งปวง ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ.

จตุกกมูลกะ จบ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 420

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๑๘] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละภวราคานุสัยในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ ที่อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น

จะไม่ใช่ไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัยในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม

ไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 421

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรค ไม่ละภวราคานุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้นย่อมไม่ละภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามรา-

คานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัย ที่รูปธาตุ

ที่อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละ

ภวราคานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่ละภวราคานุสัยในทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้นย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 422

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละภวราคานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย

ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อม

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละ

กามราคานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย และไม่ละ

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 423

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละกามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย และ

ไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น

จะไม่ใช่ไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม

ไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรค ไม่ละอวิชชานุสัย ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, แต่บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 424

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามรา-

คานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละกามราคานุสัย ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฎฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละ

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ.

ปัญจกมูลกะ จบ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 425

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสย-

มูลี :-

[๑๔๑๙] บุคคลใด ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่ละกามราคานุสัย

ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อม

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่ละกามราคานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละกาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภว-

ราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อม

ไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

ภวราคานุสัย และไม่ละอวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 426

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่ละอวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจ-

ฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่ละทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละไม่ละอวิชชานุสัย ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย เเละภวราคานุสัย จากที่นั้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่ละที่ทุกขเวทนา

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่

ใช่ไม่ละปฎิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จาก

ที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่ละกามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่ละอวิชชานุสัย ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกามราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 427

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

มรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่ละอวิชชานุสัย ไม่ละกาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบกามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ.

ฉักกมูลกะ จบ.

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก จบ.

ปชหนวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 428

ปริญญาวาระ

อุปปัตติฏฐานปุคควาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๔๒๐] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนด

รู้กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

มานานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 429

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนด

รู้กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่ ?

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 430

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๒๑] บุคคลใด กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

กำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 431

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 432

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๒๒] บุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้มานานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้มานานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 433

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๒๓] บุคคลใด กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจนุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๒๔] บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 434

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๒๕] บุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ ภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 435

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๒๖] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย,

บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนด

รู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น กำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 436

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

กำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๒๗] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น กำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 437

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย,

บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 438

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุ -

สยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๒๘] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย มานานุสัย และกิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 439

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา -

นุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุ -

สย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๒๙] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย

ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ.

ปัญจกมูลกะ จบ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 440

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย- มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๓๐] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย, และภวราคานุสัย บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉา-

นุสัย และภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย และภวราคานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย- มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐาน ปุคคลวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 441

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๔๓๑] บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อม

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด กำหนดรู้กาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้มานา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 442

มานานุสัย และย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้ภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมกำหนด

รู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 443

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้อวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 444

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๓๒] บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนด

รู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย

ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

คือที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 445

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าบุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 446

จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น คือในทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๓๓] บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนด

รู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจ-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 447

ฉานุสัย และกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฎฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อม

กำหนดรู้นานานุสัย และย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

มานานุสัย, จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 448

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่

ไม่ใช่จะกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย

และกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๓๔] บุคคลกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 449

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๓๕] บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อม

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๓

ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อม

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 450

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๓๖] บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนด

รู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๓

ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อม

กำหนดรู้อวิชชานุสัย และย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 451

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๓๗] บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

บุคคลย่อมกำหนดรู้มานานุสัย กามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 452

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนครู้

กามราคานุสัย และ.ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อม

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 453

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อม

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น. ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 454

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา -

สยาทิมูลี :-

[๑๔๓๘] บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 455

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จาก

ที่ใด, ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่โด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จาก

ที่ใด, ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 456

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่กามธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ไช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และปฎิฆานุสัย

จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - ทิฏฐา -

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๓๙] บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยปฎิฆานุสัย มานา-

นุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 457

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น, ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กาม-

ราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนด

รู้วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฎฐานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

แต่ไม่ใช่จะกำหนดดรู้กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ.

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๔๐] บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้ภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 458

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนด

รู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 459

บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้

อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น.

บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้

กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ.

ปัญจกมูลกะ จบ.

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

- วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๔๑] บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 460

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมกำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิ-

กิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคล

ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ไม่ใช่จะ

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้

อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

คือที่ทุกขเวทนา แต่ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย มานานุสัย และ

ภวราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูล จบ.

ฉักกมูลกะ จบ.

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม จบ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 461

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๔๔๒] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด บุคคล

นั้น ย่อมกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใด ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 462

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘

นั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น, กำหนดรู้กามราคานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับ

อนุสัยนั้น.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 463

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย ทุกที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 464

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๔๓] บุคคลใด กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 465

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัย

นั้น.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 466

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๔๔] บุคคลใด ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 467

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อม

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้

มานานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ กำหนดรู้ คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิ-

กิจฉานุสัย จากที่นั้น กำหนดรู้มานานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับ

อนุสัยนั้น.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค กำหนดรู้ที่เวท-

นา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้น

นั่นแหละ กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนด

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 468

รู้มานานุสัย และกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นกำหนด

รู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้นใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค กำหนดรู้ที่ทุกข-

เวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมกำหนด

รู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 469

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๔๕] บุคคลใด กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๔๖] บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 470

บุคคลที่ ๘ กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น

ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่จะกำ

หนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ กำหนดรู้ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น และ

กำหนดรู้ภวราคานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่าบุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้กิเลสอันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้นใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 471

ภรวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๔๗] บุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค กำหนดรู้ที่เวท-

นา ๓ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้อวิชชานุสัย และกำหนดรู้ ราคานุสัย จากที่นั้น.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูละ จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 472

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๔๘] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าบุคคลใด กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 473

นั้น ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้นใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น

ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่จะกำ

หนดรู้ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย และย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัย

นั้น จากที่นั้น บุคคลนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

บุคคลนั้นนั่นแหละ กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย และย่อมกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับ

อนุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย

จากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 474

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 475

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา -

นุสยาทิมูลี :-

[๑๔๔๙] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิ-

กิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด, กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น

ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และกำหนดรู้มานานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียว

กันกับอนุสัยนั้น จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ กำหนดรู้

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

กำหนดรู้กามราคานุสัย และมานานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัย

นั้น จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ กำหนดรู้ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย และกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 476

นั้น จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 477

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค กำหนดรู้ที่ทุกข-

เวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมกำหนด

รู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๕๐] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 478

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าบุคคลใด กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ กำหนดรู้ที่รูปธาตุ รูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น

ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย และกำหนดรู้มานานุสัย

อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น ไม่ใช่

จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้น

นั่นแหละ กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย กำหนดรู้กามราคานุสัย และมานานุสัย

อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่จะ

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ กำหนดรู้ที่ทุกข์

เวทนา บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย และ

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย อันตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น จากที่นั้น แต่

บุคคลนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 479

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิหานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๕๑] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มา-

นานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย ละวิจิ-

กิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ย่อมกำหนดรู้มานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา -

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 480

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อม

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรคนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ

กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น

ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา

นุสัยจากที่นั้น.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ.

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 481

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสย ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๕๒] บุคคลใด กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภรราคานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้นย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าบุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจ-

ฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค กำหนดรู้ที่ทุกข-

เวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมกำหนด

รู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้นไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

อวิชชานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 482

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ กำหนดรู้ในรูปธาตุ ใน

อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย มานานุสัย และภว-

ราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น ไม่ใช่จะกำหนดรู้กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย -ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 483

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๔๕๓] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนด

รู้มานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้กาม-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 484

ราคานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

มานานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่

เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานสุยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนด

รู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และ

ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 485

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้วิจิ-

กิจฉานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่

เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่

๘ ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย.

จบกามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนด

รู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้กาม-

ราคานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 486

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย. บุคคลทั้งหลายที่

เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๕๔] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้มานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ปฏิ-

ฆานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 487

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้

มานานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

มานานุสัย และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น, ย่อมไม่กำหนด

รู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิ-

กิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และ

ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลทั้งหลายที่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 488

เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่

๘ ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานสุยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมกำหนดรู้

อวิชชานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 489

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๕๕] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย

และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด. ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้มานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลที่ทั้งหลายที่

เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่

๘ ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย.

จบ มานานุสยมูล ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้น, ย่อมไม่กำหนดรู้ภว-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 490

ราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้มานานุสัยใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๕๖] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 491

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๕๗] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่

เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่

๘ ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม-

เพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย.

จบ วิจิกิจฉานุสมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 492

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๕๘] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๕๙] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 493

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำ

พวก ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้

มานานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมกำหนดรู้

มานานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย,

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒

จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่

จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 494

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิ.

มรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสย, บุคคล

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย,

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒

จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนด

รู้อวิชชานุสัย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 495

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย,

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒

จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๔๖๐] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจ-

ฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

และมานานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 496

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย,

และ ปฏิฆานุสัย บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่จะ

ไม่กำหนดรู้มานานุสัยก็หาไม่ บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนด

รู้วิจิกิจฉานุสัย ละไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานา-

นุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย

ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 497

ก็หรือว่าบุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย และมานานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมกำหนดรู้อวิชชานุสัย และไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย- ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๖๑] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 498

ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย, บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรค ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก แต่บุคคลที่ ๘

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๖๒] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 499

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนด

รู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘

ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย และจะไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานสุย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 500

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๖๓] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย-

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจ-

ฉานุสัย และภวราคานุสัย.

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐา

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย, บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

และภวราคานุสัย แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 501

จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย และไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐาน ปุคคลวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 502

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๔๑๖] บุคคลไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ที่ทุกข์

เวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฎิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลย่อม

ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ถือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 503

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้

มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่กำหนดรู้

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกข-

เวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 504

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น คือ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปนนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยจากที่นั้น, บุคคลไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 505

กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น คือในทุกข-

เวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

จากที่นั้น. บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 506

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๖๕] บุคคลไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้มานา-

นุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนด

รู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้

มานานุสัย และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันน-

ธรรม.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 507

ปฏิฆานุสยมูล ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏ-

ฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจ-

ฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิ-

กิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อม

ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือ

ที่เวทนา ๒ ที่กามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 508

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชา-

นุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิช-

ชานุสัย จากที่นั้น คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 509

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๖๖] บุคคล ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือ ที่ทุกขเวทนา แต่

จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลไม่กำหนดรู้มานา-

นุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือ ที่อปริยาปันน-

ธรรม.

หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 510

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อม

กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือใน

ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้

มานานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันน-

ธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 511

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูล วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๖๗] บุคคลไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่

กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๖๘] บุคคลไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 512

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

คือที่อปริยาปันนธรรม.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 513

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๖๙] บุคคลไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๓

ในกามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น บุคคล

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น

คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 514

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๗๐] บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฎิฆา-

นุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยจากที่นั้น

คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดมานานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้

มานานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น

คือ ที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น คือปริยาปันนธรรม,

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 515

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้นใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และย่อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 516

ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้นคือที่อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และกามราคานุสัย จากที่

นั้น คือ ที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่อปริยาปันธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น คือที่ อปริยาปันนธรรม.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 517

กำหนดรู้ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๔๗๑] บุคคลไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้นใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 518

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานา-

นุสัย จากที่ใด ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยจากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานา-

นุสัย จากที่นั้น คือ ที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลย่อมกำหนดรู้ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่

นั้น คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น, คือที่

อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 519

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๗๒] บุคคล ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จาก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 520

ที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๗๓] บุคคลไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้ภว-

ราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานา-

นุสัย จากที่นั้น คือ ที่ทุกขเวทนา แต่จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 521

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

และไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิ-

กิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น คือ ที่อปริยาปันนธรรม.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคล ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนด รู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 522

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๗๔] บุคคลไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้ อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 523

นุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 524

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๔๗๕] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม-

เพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฎิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 525

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จาก

ที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 526

มานานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และ

ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

และไม่กำหนดรู้มานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลมีความพร้อมเพรียง

ด้วยอนาคามิมรรค จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย

และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้มานา-

นุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 527

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยจากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และ

บุคคลที่ ๔ ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 528

อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในที่

ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 529

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคา-

นุสัย และไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคล

ผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย

และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 530

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ ใน

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จาก

ที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 531

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย และไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในที่ทั้งปวง ?

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๗๖] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด บุคคล

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 532

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย

และไม่กำหนดรู้มานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคา-

มิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่น

แหละ ไม่กำหนดรู้ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย และไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย

และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 533

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และ

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และ

ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 534

ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนด

รู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฎิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฎิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 535

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้

ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ อรูปธาตุ

อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย

และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 536

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนด

รู้อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนา-

คามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่น

แหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย และไม่

กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

และไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 537

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี :-

[๑๔๗๗] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค

และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใดบุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 538

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 539

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย

จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรค ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใดไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้นย่อมไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้ง

หลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อมไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 540

กำหนดรู้มานานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๗๘] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯล ฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 541

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๗๙] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย และไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 542

แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

นั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และ

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 543

ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้

วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนด วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค

และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๘๐] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 544

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียง

ด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้ภวราคานสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ย่อม

ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๘๑] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 545

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และไม่กำหนด

รู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค

นั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ

ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น.

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒

จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนด

รู้มานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย, จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้มานานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 546

นั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ไม่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้มานานุสัย ไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-

นุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 547

ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคล

นั้น และปฏิฆานุสัย ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ใน ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น

จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่

กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรค และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสยมูละ - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 548

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กาม-

ราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒

จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนด

รู้ภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 549

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่ใด,

ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 550

นุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่

กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่าบุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย และกามราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลนั้น, จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 551

เพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๔๘๒] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 552

และไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย และมานานุสัย และไม่กำหนด

รู้วิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่

อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลผู้ความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 553

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น

แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

มานานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกข-

เวทนา ที่อปริยาปันนธรรมบุคคลนั้นย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก

และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 554

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราศานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ บุคคลนั่น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัยปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

จากที่นั้น. บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภว-

ราคานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย จาก

ที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยา-

ปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ไม่กำหนดรู้-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่

กำหนดรู้ภวราคานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 555

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย

จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ใน

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอหัตมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ใน

ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย และมานานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัยจากที่นั้น บุคคล

ทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย และไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น

ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 556

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้

ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ไม่กำหนด

รู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก ย่อมไม่

กำหนดรู้อวิชชานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๘๓] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 557

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ที่

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะ

ไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนด

รู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะ

ไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่

กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-

นุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 558

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนด

รู้ที่ทุกขเวทนา ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย ฆานานุสัย และทิฏฐานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ

เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘

ย่อมไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ในที่ทั้งปวง ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๔๘๔] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น ย่อม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 559

ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่

ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่น

แหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิ-

มรรค ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย มานา-

นุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้นก็หาไม่

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 560

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูป-

ธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้นไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค จะไม่ใช่ไม่

กำหนดรู้มานานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่ทุกข-

เวทนา ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้

ภวราคานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 561

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่ใด บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ใน

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิ-

กิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้นผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่น

แหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้น

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อม

ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในที่ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคลนั้น

ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 562

วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลที่ ๘ นั้น จะ

ไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย และวิกิฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้น

นั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ในอปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมกำหนดรู้

อวิชชานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย แต่วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

อนาคามิมรรคนั้น ไม่กำหนดรู้ที่ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อม

เพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ

บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลนั้นนั่นแหละ จะไม่ใช่ไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

อวิชชานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความ

พร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 563

อวิชชานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๔๙๕] บุคคลใด ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่ใด,

บุคคลนั้น ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรค ไม่กำหนดรู้ใน

ทุกขเวทนา บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคนั้น ย่อมไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

๑. ข้อนี้ ตัวเลขในฉบับบาลีข้ามเป็น ๑๔๙๕ ที่ถูกเป็น ๑๔๘๕ และข้อต่อ ๆ ไป

ก็คลาดเคลื่อนไปตาม ๆ กัน แต่จะแก้ในชั้นนี้ไม่ได้ จะทำให้ยุ่งยากแก่การ

ตรวจสอบฉบับภาษาบาลีกับภาษาไทย ฉะนั้น จึงต้องคงไว้ตามฉบับภาษาบาลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 564

และภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอรหัต-

มรรคนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลนั้นนั่น

แหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลาย

ที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยมรรค ๒ จำพวก และบุคคล

ที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย และไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในที่

ทั้งปวง.

ก็หรือว่า บุคคลใด ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย จากที่ใด, บุคคล

นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น ใช่ไหม ?

บุคคลที่ ๘ ไม่กำหนดรู้ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ บุคคลที่ ๘ นั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น แต่บุคคล

ที่ ๘ นั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่อปริยาปันนธรรม บุคคลนั้น ย่อม

ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัยไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย จากที่นั้น บุคคลผู้มีความ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 565

พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ไม่กำหนดรู้ในทุกขเวทนา บุคคลผู้มี

ความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคนั้น

จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย จากที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่

กำหนดรู้ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชา

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่นั้น แต่บุคคลนั้น จะไม่ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย จากที่นั้น,

บุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่กำหนดรู้ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ที่อปริยาปันน-

ธรรม บุคคลนั้น ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ไม่กำหนดรู้กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

จากที่นั้น, บุคคลทั้งหลายที่เหลือ เว้นบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วย

มรรค ๒ จำพวก และบุคคลที่ ๘ ย่อมไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ไม่

กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉา-

นุสัย และภวราคานุสัย ในที่ทั้งปวง.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย -มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก จบ

ปริญญาวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 566

ปหีนวาระ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๔๙๖] กามราคานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ปฏิฆานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, มานานุสัย เป็นอันบุคคล

นั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 567

กามราคานุสัย พระอนาคามีละได้แล้ว แต่มานานุสัย พระ-

อนาคามีนั้นยังละไม่ได้, กามราคานุสัย พระอรหันต์ละได้แล้ว และ

มานานุสัย พระอรหันต์ก็ละได้แล้ว.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิ-

กิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว กามราคานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย บุคคล ๒ จำพวกละได้แล้ว แต่กามราคานุสัย

บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย บุคคล ๒ จำพวก

ละได้แล้ว และกามราคานุสัย บุคคล ๒ จำพวกก็ละได้แล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 568

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว ภวราคานุสัย ฯลฯ

อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย พระอนาคามีละได้แล้ว แต่อวิชชานุสัย พระ-

อนาคามีนั้นยังละไม่ได้ กามราคานุสัย พระอรหันต์ละได้แล้ว และ

อวิชชานุสัย พระอรหันต์ก็ละได้แล้ว.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๔๙๗] ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว มานานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย พระอนาคามีละได้แล้ว แต่มานานุสัย พระอนาคามี

นั้นยังละไม่ได้, ปฏิฆานุสัย พระอรหันต์ละได้แล้ว และมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 569

พระอรหันต์ก็ละได้แล้ว.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ปฏิฆานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ปฏิฆานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล ๒ จำพวกละได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัย

บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้นยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย บุคคล ๒ จำพวก

ละได้แล้ว และปฏิฆานุสัย บุคคล ๒ จำพวกก็ละได้แล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 570

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย พระอนาคามีละได้แล้ว แต่อวิชชานุสัย พระ-

อนาคามีนั้นยังละไม่ได้, ปฏิฆานุสัย พระอรหันต์ละได้แล้ว และ

อวิชชานุสัย พระอรหันต์ก็ละได้แล้ว.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลละได้แล้ว ปฏิฆานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๔๙๘ ] มานานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 571

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว มานานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล ๓ จำพวกละได้แล้ว แต่มานานุสัย

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย พระอรหันต์ละ

ได้แล้ว และมานานุสัย พระอรหันต์ก็ละได้แล้ว.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, มานานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 572

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๔๙๙] ทิฏฐานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, วิจิกิจฉานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ทิฏฐานุสัย เป็น

เป็นอันบุคคลละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๐๐] วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ภวราคานุสัย

ฯลฯ อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 573

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล ๓ จำพวกละไม่ได้แล้ว แต่อวิชชานุสัย

บุคคลเหล่านั้นยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย พระอรหันต์ละได้แล้ว และ

อวิชชานุสัย พระอรหันต์ก็ละได้แล้ว.

ก็หรือว่าอวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, วิจิกิจฉานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๐๑] ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, อวิชชานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ภวราคานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 574

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๐๒] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละได้

แล้ว, มานานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย พระอนาคามีละได้แล้ว แต่

มานานุสัย พระอนาคามีนั้นยังละไม่ได้, กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

พระอรหันต์ละได้แล้ว และมานานุสัย พระอรหันต์ก็ละได้แล้ว.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย แต่

ปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 575

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย บุคคล ๒ จำพวกละได้แล้ว แต่กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้นยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย

บุคคล ๒ จำพวกละได้แล้ว กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย บุคคล ๒

จำพวกก็ละได้แล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฎิฆานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ภวราคา-

นุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย พระอนาคามีละได้แล้ว แต่

อวิชชานุสัย พระอนาคามีนั้น ยังละไม่ได้, กามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย พระอรหันต์ละได้แล้ว.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 576

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๕๐๓] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อัน

บุคคลใดละได้แล้ว, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลนั้น

ละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย บุคคล ๒ จำพวกละได้แล้ว แต่กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ยังละไม่ได้,

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย พระอนาคามีละได้แล้ว

แต่มานานุสัย พระอนาคามีนั้น ยังละไม่ได้ วิจิกิจฉานุสัย พระ-

อรหันต์ละได้แล้ว กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย พระ-

อรหันต์ละได้แล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 577

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลใดละได้

แล้ว, ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๐๔] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

อันบุคคลใด ละได้แล้ว, วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 578

ใช่ไหม ?

ใช่

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว

ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย บุคคล ๒ จำพวก ละได้แล้ว

แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคล ๒ จำพวก

เหล่านั้นยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย พระอนาคามียังละได้แล้ว แต่มานานุสัย พระอนาคามีนั้น

ยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย พระอรหันต์ละได้แล้ว กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย พระอรหันต์ก็ได้ละแล้ว ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 579

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานสุย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๐๕] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคล

นั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 580

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๐๖] กามราคนุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, อวิชชานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละได้แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 581

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๕๐๗] กามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆา-

นุสัย เป็นอันบุคคลละแล้วในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ควรกล่าวว่า ละแล้วหรือยังละไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ปฏิมานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ควรกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิมานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, มานานุสัย เป็นอัน

บุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 582

ใช่.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

กามราคานุสัย ไม่ควรกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, มานานุสัย

อันบุคคลละแล้ว และกามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้คือ ที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่ควรกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 583

ไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว และกามราคานุสัย ในที่นี้

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด ภวราคานุสัย เป็น

อันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ควรกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด กามราคานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่ควรกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็น

อันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 584

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้คือ ที่ทุกขเวทนา ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่ควรกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว และกามราคานุสัย อันบุคคล

ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๐๘] ปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, มานานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆานุสัย เป็น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 585

อันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฎิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด ปฏิฆานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว และปฏิฆานุสัย อัน

บุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 586

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด ภวราคานุสัย เป็นอัน

บุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด ปฏิฆานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น, ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็นอัน

บุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย บุคคลละแล้ว ในที่ใด ปฏิฆานุสัย เป็น

อันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ใน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 587

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว และปฏิฆานุสัย อัน

บุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๐๙] มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด มานานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา

มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อัน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 588

บุคคลละแล้ว และมานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา

๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย เป็นอัน

บุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, มานา-

นุสัย อันบุคคลละแล้ว และภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด มานานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 589

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็นอัน

บุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, มานานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา มานา-

นุสัย ไม่ควรกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย อันบุคคล

ละแล้ว และมานานุสัย ในที่นี้ คือเวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๑๐] ทิฏฐานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 590

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๕๑๑] วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ภวราคา-

นุสัย เป็นอันบุคคลละแล้วในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๓ ใน

กามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิ-

กิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว และภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว, ใน

ที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 591

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็น

อันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุยมูละ วิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๑๒ ] ภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, อวิชชา-

นุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 592

อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๓ ใน

กามธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว,

อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว และภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว

ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๑๓] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว

ในที่ใด, มานานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 593

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว, มานานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฎิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 594

ยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว

ในที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ใน

ที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

ยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด,

ภวราคานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 595

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด,

อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละได้แล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่

ละแล้ว, อวิชชานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้คือ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ

ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว,

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 596

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๕๑๔] กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย และมานานุสัย อัน

บุคคลละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคล

ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย

อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ

ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 597

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลละแล้ว

ในที่ใด, ภวราคานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลละแล้ว กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ละมานานุสัย อันบุคคลละแล้ว

ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 598

อวิชชานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย

อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฎิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย

อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และ

มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๑๕] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-

นุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว

ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 599

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว

ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลละแล้ว

ในที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่เวทนา

๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้

คือ ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า แล้วหรือยังไม่ละ

แล้ว ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 600

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๕๑๖] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย เป็นอัน

บุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย เเละวิจิกิจฉานุสัย เป็นอัน

บุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามาราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 601

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา -

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิ-

กิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลละ

แล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคา

นุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว

ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล

ละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือ ที่ทุกขเวทนา กาม-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 602

ราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๑๗] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, อวิชชา-

นุสัย เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่ใด, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 603

อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภว-

ราคานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

กามราคานุสัย และปฎิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกข-

เวทนา กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 604

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๕๑๘] กามราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ปฏิ-

ฆานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, มานานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอนาคามีละแล้ว ในที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่มานานุสัย อันเป็นบุคคลนั้นไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 605

ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้น คือ

พระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด กามราคา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว, มานานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว และกามราคานุสัย อัน

บุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ทิฏฐานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 606

ทิฏฐานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒ จำพวกละแล้ว

ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่

พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, ทิฏฐานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ แต่กามราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น,

ทิฏฐานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒ จำพวกละแล้ว ในที่นั้น

คือที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, ทิฏฐานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นละ

แล้ว และกามราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นนั้นแหละ ละแล้วที่

เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 607

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคล ๒ จำพวก ละแล้ว ใน

ที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่

พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่กามราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, วิจิกิจ-

ฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒ จำพวก ละแล้ว ในที่นั้น

คือ ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าว

ว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นละแล้ว

และกามราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 608

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย อันบุคคล คือพระอนาคามีนั้นละแล้ว ในที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นไม่ใช่ละแล้ว

ในที่นั้น, กามราคานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว เละอวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น

คือที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 609

และกามราคานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ใน

ที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี ;-

[๑๕๑๙] ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, มานา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่เป็น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 610

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒ จำพวกละแล้ว

ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิ-

ฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลเหล่านั้นละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา

แต่ปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, วิจิกิจฉา-

นุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒ จำพวกละแล้ว ในที่นั้น คือ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

ละแล้ว และปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 611

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี:-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอนาคามีละแล้ว คือที่ทุกข-

เวทนา แต่อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, ปฏิฆา-

นุสัย อันบุคคลละแล้ว และอวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอร-

หันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 612

พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว

และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น

คือที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๒๐] มานานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, มานานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๓ จำพวกละแล้ว

ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 613

ไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่น-

แหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่มานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น,

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือ

ที่ทุกขเวทนา มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว,

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว และมานานุสัย อันบุคคลนั้น คือ

บุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น

คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, มานานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว ภวราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 614

เป็นอันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, มานานุสัย

เป็นอันบุคคลละแล้ว ในที่นั้น, ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, มานานุสัย

เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น

คือที่ทุกขเวทนา มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว,

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว ละมานานุสัย อันบุคคลนั้น คือ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 615

บุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๒๑] ทิฏฐานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉา-

นุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 616

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๕๒๒] วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ภว-

ราคานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๓ จำพวกละแล้ว

ในที่นั้น คือที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

ภวราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๓ ใน

กามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิ-

กิจฉานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว และภวราคานุสัย อันบุคคล คือบุคคล

นั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉา-

นุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 617

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็น

อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๓ จำพวกละแล้ว

ในที่นั้น คือที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, วิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลนั้นละแล้ว และอวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์

ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 618

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๒๓] ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, อวิช-

ชานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ภวราคา-

นุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น

คือที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

ยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว และภวราคานุสัย

อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 619

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๒๔] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว

ในที่ใด, มานานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว มานานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคลนั้น

คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด,

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 620

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒ จำพวกละแล้ว

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกาม-

ธาตุ แต่กามราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น,

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลเหล่านั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่

ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น,

ตามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒ จำพวกละแล้ว ในที่นั้น, คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ละแล้ว ในที่นั้น คือในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 621

คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา กาม-

ราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด,

ภวราคานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น, ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด,

อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 622

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าว

ว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย และกามราคานุสัย อัน

บุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิช-

ชานุสัย ละปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น คืออันบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว

ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ทิฏฐา-

นุสยาทิมูลี :-

[๑๕๒๕] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อัน

บุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย เป็นอัน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 623

บุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒ จำพวกละแล้ว

ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

ไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่

กามราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ใน

ที่นั้น. ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจ-

ฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่

นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว

ในที่นั้น, กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอนาคามีนั้น

ละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย อันบุคคล

นั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย

อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 624

ในกามธาตุ แต่มานานุสัย อันบุคคลนั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น,

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือ

ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้น คือ

พระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจ-

ฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้น

นั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย

อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา

กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคล ละแล้ว

ในที่ใด, ภวราคานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 625

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว, กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว

ในที่ใด อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์

ละแล้ว ในที่นั้น คือที่ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย

กามราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ

ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าว

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 626

ว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคล

นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา กาม-

ราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๒๖] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย อันบุคคลใด ละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย เป็นอันบุคคล

นั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว

ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 627

วิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคล ๒

จำพวกละแล้ว ในที่นั้น ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย อัน

บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย

อันบุคคลเหล่านั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคล

เหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา แต่

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย

และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย

และทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอนาคามีละแล้ว ในที่นั้น คือ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่มานานุสัย อันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น

ก็หาไม่ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

ยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคล

นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่มานานุสัย อันบุคคลนั้นไม่ใช่ละแล้ว ในที่นั้น, ปฏิฆานุสัย ไม่

พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

ทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 628

ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคล

นั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว,

วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้น

คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย

ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละละ

แล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่

พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 629

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา -

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๕๒๗] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย เป็นอัน

บุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย เป็นอัน

บุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว

กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 630

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา-

นุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิ-

กิจฉานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย เป็นอันบุคคล

นั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย เป็นอัน

บุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น คือ

พระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคา-

นุสัย ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล

นั้น คืออันบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิช-

ชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 631

คือบุคคลนั้นนั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา และมานา-

นุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๒๘] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, อวิช-

ชานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 632

นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวรา-

คานุสัย เป็นอันบุคคลนั้นละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภว-

ราคานุสัย อันบุคคลนั้น คือพระอรหันต์ละแล้ว ในที่นั้น คือที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ

ละแล้ว ในที่นั้น คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย และภว-

ราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย ปฏิ-

ฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น คือบุคคลนั้น

นั่นแหละละแล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และ

ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - วิจิกิจฉานุสย -

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 633

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๕๒๙] กามราคานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ปฏิฆานุสัย

บุคคลนั้น ก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

อันบุคคล นั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, มานานุสัย บุคคลนั้น

ก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ได้, กามราคานุสัย อัน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 634

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

มานานุสัย พระอนาคามี ยังละไม่ได้ แต่กามราคานุสัย พระ-

อนาคามี ไม่ใช่ละไม่ได้. มานานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ยังละไม่ได้

และกามราคานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ก็ยังละไม่ได้.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูลี ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย บุคคล ๒ จำพวก ยังละไม่ได้ แต่วิจิกิจฉานุสัย

บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่ละไม่ได้ กามราคานุสัย ปุถุชนยัง

ละไม่ได้ และวิจิกิจฉานุสัย ปุถุชนก็ยังละไม่ได้.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใด ยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

บุคคลนั้น ก็ยังละไม่ได้ ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 635

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใด ยังละไม่ได้ ภวราคานุสัย ฯลฯ

อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

บุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย พระอนาคามี ยังละไม่ได้ แต่กามราคานุสัย

พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ละไม่ได้, อวิชชานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ยัง

ละไม่ได้ และกามราคานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ก็ยังละไม่ได้.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๓๐] ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละไม่ได้แล้ว, มานานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 636

ก็หรือว่ามานานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ปฏิฆานุสัย อัน

บุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

มานานุสัย พระอนาคามียังละไม่ได้ ปฏิฆานุสัย พระอนา-

คามีนั้นไม่ใช่ละไม่ได้, มานานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ยังละไม่ได้แล้ว

และปฏิฆานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ก็ยังละไม่ได้.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจ-

ฉานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย บุคคล ๒ จำพวก ยังละไม่ได้ แต่วิจิกิจฉานุสัย

บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่ละไม่ได้, ปฏิฆานุสัย ปุถุชนยังละ

ไม่ได้ และวิจิกิจฉานุสัย ก็ยังละไม่ได้แล้ว.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ปฏิฆานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 637

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ภวราคานุสัย ฯลฯ.

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้ ปฏิฆานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย พระอนาคามี ยังละไม่ได้ แต่ปฏิฆานุสัย พระ-

อนาคามีไม่ใช่ละไม่ได้, อวิชชานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ยังละไม่ได้

และปฏิฆานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ก็ยังละไม่ได้.

จบ ปฏิฆานสุยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๓๑] มานานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 638

มานานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ยังละไม่ได้ แต่วิจิกิจฉานุสัย

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่ละไม่ได้, มานานุสัย ปุถุชนยังละไม่

ได้ และวิจิกิจฉานุสัย ก็ยังละไม่ได้.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, มานานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิช-

ชานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย บุคคลใดยังละไม่ได้, มานานุสัย อัน

บุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 639

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๓๒] ทิฏฐานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ทิฏฐานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยทิมูลี :-

[๑๕๓๓] วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ภวราคานุสัย

ฯลฯ อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 640

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ยังละไม่ได้ แต่วิจิกิจฉานุสัย

บุคคล ๓ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่ละไม่ได้, อวิชชานุสัย ปุถุชนยังละ

ไม่ได้ ละวิจิกิจฉานุสัย ปุถุชนก็ยังละไม่ได้.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๓๔] ภรราคานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, อวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ภวราคานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 641

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๓๕] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดละไม่

ได้, มานานุสัย อันบุคคลนั้นยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

ละปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

มานานุสัย พระอนาคามียังละไม่ได้แล้ว, แต่กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ละไม่ได้, มานานุสัย อัน

บุคคล ๓ จำพวกยังละไม่ได้ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย บุคคล ๓

จำพวกก็ยังละไม่ได้.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 642

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย บุคคล ๒ จำพวก ยังละไม่ได้

แต่วิจิกิจฉานุสัย บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่ละไม่ได,. กามรา-

คานุสัย และปฏิฆานุสัย ปุถุชนยังละไม่ได้ และวิจิกิจฉานุสัย ปุถุชน

ก็ยังละไม่ได้.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้นยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ภว-

ราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย บุคคลนั้นยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได,้ กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย พระอนาคามียังละไม่ได้ แต่กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย พระอนาคามีนั้นไม่ใช่ละไม่ได,้ อวิชชานุสัย บุคคล ๓

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 643

จำพวกละไม่ได้แล้ว กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย บุคคล ๓ จำพวก

ก็ยังละไม่ได้.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย-ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๓๖] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อัน

บุคคลใดละไม่ได้ ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยัง

ละไม่ได้ ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคล ๒ จำพวก

ยังละไม่ได้ แต่วิจิกิจฉานุสัย บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่ละไม่ได้,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย ปุถุชนยังละไม่ได้ และ

วิจิกิจฉานุสัย ปุถุชนก็ยังละไม่ได้.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 644

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ?

ใช่.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - นานานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลใดยังละ

ไม่ได้, ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย พระอนาคามี ยังละไม่ได้ แต่

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ละไม่ได้,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 645

อวิชชานุสัย อันบุคคล ๓ จำพวก ยังละไม่ได้ กามราคานุสัย ปฏิฆา -

นุสัย และมานานุสัย บุคคล ๓ จำพวก ก็ยังละไม่ได้.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิกฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย -

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๓๗] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-

นุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 646

ปฏิฆานุสัย มานานุสัยและทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย -

ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๓๘] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิช-

ชานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 647

ก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย พระอาคามียังละไม่ได้ แต่

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย พระอนาคามี

นั้น ไม่ใช่ละไม่ได้, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ

มานานุสัย บุคคล ๒ จำพวกยังละไม่ได้ แต่ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-

นุสัย บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่ละไม่ได้, อวิชชานุสัย ปุถุชน

ยังละไม่ได้ กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย ปุถุชนก็ยังละไม่ได้.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ - อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๓๙] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ฆานานุสัย ทิฏฐานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 648

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได,้ อวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดละไม่ได้, กามราคานุสัย

ปฏิฆานุสัย มานานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ละภวราคานุสัย อันบุคคลนั้น

ก็ยังละไม่ได้ ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย ๒ มานานุสัย และภวราคานุสัย พระอนาคามียังละ

ไม่ได้ แต่กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

พระอนาคามีนั้น ไม่ใช่ละไม่ได้, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆา-

นุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย บุคคล ๒ จำพวก ยังละไม่ได้

แต่ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคล ๒ จำพวกเหล่านั้น ไม่ใช่ละ

ไม่ได้ อวิชชานุสัย ปุถุชนยังละไม่ได้ กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย ปุถุชนก็ยัง

ละไม่ได้.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 649

อุปปัตติฏฐานโอกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๕๔๐] กามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

หรือว่า ปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด กามราคา-

นุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด มานานุสัย

อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 650

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กามราคา-

นุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือไม่ละแล้ว,

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละ ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

และกามราคานุสัย ก็ยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย บุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 651

ไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว และกามราคานุสัย

อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย

อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย

อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 652

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิช-

ชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว และกามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่

ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๔๑] ปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, มานา-

นุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆา-

นุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 653

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ปฏิ-

ฆานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ?

วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว และปฏิฆานุสัย

อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย

อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 654

นุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย อัน

บุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าอวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆา-

นุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว และปฏิฆานุสัย

อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 655

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๔๒] มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด ทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย บุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด มานา-

นุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา

มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลยังไม่ละแล้ว และมานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละ แล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย อัน

บุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 656

มานานุสัย อันบุคคลยังละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ล่ะแล้ว,

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว และกามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่

ละ ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, มานา-

นุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย อัน

บุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, มานา-

นุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา

มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย อัน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 657

บุคคลยังไม่ละแล้ว และมานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๔๓] ทิฏฐานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, วิจิ-

กิจฉานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐา-

นุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 658

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๕๔๔] วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว, ในที่ใด

ภวราคานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๓

ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว,

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว และภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่

ละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจ-

ฉานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย

อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 659

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด วิจิกิจ-

ฉานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๔๕] ภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด

อวิชชานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ภว-

ราคานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, คือที่เวทนา ๓

ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 660

อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว และกามราคานุสัย บุคคลก็ยังไม่

ละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๔๖] กามราคานุสัย ละปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละ

แล้ว ในที่ใด มานานุสัย อันบุคคลที่ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า และแล้วหรือ

ยังไม่ละแล้ว, มานานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 661

ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐา-

นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่

ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย และปฏิฆานุสัย อัน

บุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 662

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ภวราคานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ใน

ที่ใด, อวิชชานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

ยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 663

ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ใน

ที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๔๗] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อัน

บุคคลยังไม่ละแล้ว, ในที่ใด ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ใน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 664

ที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า และแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และ

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย

และปฏิฆานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา

กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า และแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละ

แล้ว ในที่ใด ภวราคานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ใน

ที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 665

ภวราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าว

ว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ละมานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละ

แล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ใน

ที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้

คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และ

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว, ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, ในที่นี้ คือที่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 666

ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๔๘] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-

นุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่

ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่

ละแล้ว ในที่ นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 667

วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลยังไม่ละ

แล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิ-

ฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว

ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละ

แล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย อัน

บุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และ

มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๕๔๙] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย อัน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 668

บุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละ

แล้ว กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานสุย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉานุสยมูล

อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฎิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจ-

ฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย อันบุคคลก็ยัง

ไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 669

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฎฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล

ยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่

พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐา-

นุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา

กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละ

แล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 670

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๕๐] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

อวิชชานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย อันบุคคลก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ

ภวราคานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

ยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 671

ยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย มานา-

นุสัย และภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย-

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐาน โอกาสวาระ ปัจจนิก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 672

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๕๕๑] กามราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, มานานุสัย

อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 673

ก็หรือว่ามานานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย อันบุคคลนั้น ไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือพระอนาคามี

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว มานานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย

บุคคลนั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, มานานุสัย อันบุคคลเหล่า

นั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

มานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว และกามราคานุสัย อัน

บุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือบุคคล ๒ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 674

อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย อัน

บุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละ

แล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

กามราคานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน

ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย

อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 675

กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

กามราคานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือพระอนา-

คามี ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่

ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ

แต่กามราคานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, อวิชชา-

นุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก

ที่ทุกขเวทนา ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว

และกามราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือ

บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ.

จบ กามราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 676

ปฏิฆานุสยมูล

ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๕๒] ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

มานานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ปฏิฆา-

นุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย

ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคล ๒ จำพวก ที่ทุกขเวทนา แต่วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 677

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน

ที่ทุกขเวทนา.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน

ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่

ละแล้ว และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย

อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 678

ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด อวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือพระอนา-

คามี ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่

ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย

อันบุคคลนั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น อวิชชานุสัย อันบุคคล

นั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว และ

ปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลเหล่า

นั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา.

จบ ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ปฏิฆานุสยมูล จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 679

มานานุสยมูล

มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๕๓] มานานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ใน

ที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นี้ คือบุคคล

๓ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, มานา-

นุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว, และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น

ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ, ที่รูป-

ธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดก็ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

มานานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน

ที่ทุกขเวทนา มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว, และมานานุสัย อันบุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 680

นั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย

อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละเเล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคล ๔ จำพวก ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว มานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยัง

ไม่ละแล้ว, และภวราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่

นั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

มานานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 681

มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

มานานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด

มานานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคล จำพวก ที่ทุกขเวทนา มานานุสัย ไม่มีกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว, และ

มานานุสัย บุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลเหล่านั้น

นั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

มานานุสยมูล จบ

ทิฏฐานุสยมูล

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๕๔] ทิฏฐานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 682

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่ ฯลฯ

จบ ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี

ทิฏฐานุสยมูล จบ

วิจิกิจฉานุสยมูล

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

[๑๕๕๕] วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ภวราคานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน

ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

ยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว, และภวราคา-

นุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 683

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ภวราคานุลัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล

เหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, ภวราคานุสัย อันบุคคลนั้น

ยังไม่ละแล้ว และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคล ๓ จำพวก ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ

แต่วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น,

อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว และวิจิกิจฉานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 684

อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน ในเวทนา ๓ ใน

กามธาตุ ในรูปธาตุ ในอรูปธาตุ.

จบ วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ภวราคานุสยมูล

ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๕๖] ภวราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดก็ยัง ไม่ละแล้ว ในที่ใด,

ภวราคานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคล ๔ จำพวก ที่เวทนา ๓ ในกามธาตุ ภวราคานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 685

ละแล้ว และภวราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ.

จบ ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

ภวราคานุสยมูล จบ

เอกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล

ทุกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

[๑๕๕๗] กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่

ละแล้ว ในที่ใด มานานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า มานานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้วในที่นั้นใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือพระ-

อนาคามี ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว, มานานุสัย อันบุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 686

ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย อันบุคคลนั้น, ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ใน

ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว มานานุสัย

อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว มานานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคล

เหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้วในที่ใด,

ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, กามรา-

คานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 687

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย และกามราคานุสัย อันบุคคล

นั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือ

บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว

ในที่ใด, ภวราคานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 688

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น,

ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือพระอนา-

คามี ที่รูปธาตุ อรูปธาต ุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่

นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคา-

นุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, ปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ละ

แล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย

อันบุคคลนั้นยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย

และกามราคานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 689

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา

กามราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสยมูล จบ

ทุกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล

ติกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ทิฎฐานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๕๘] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อัน

บุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย อัน

บุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 690

ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น คือปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย

กามราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย ละปฏิฆานุสัย

อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกข-

เวทนา กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ทิฏฐานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลใดยังไม่

ละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย บุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 691

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย อันบุคคลยังไม่ละแล้ว กามราคานุสัย และปฏิฆา-

นุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลใดยังไม่

ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือพระอนาคามี ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย และมานานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 692

อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒

ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่

นั้น, ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่

ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย อันบุคคลนั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้นก็หาไม่

กามราคานุสัย, และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

อวิชชานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือบุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย

กามราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย

อันบุคคลเหล่านั้นยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ

ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูละ

อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสยมูล จบ

ติกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 693

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล

จตุกกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย -

ทิฏฐานุสยมูละ วิจิกิจฉานุสยมูลี :-

[๑๕๕๙] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐา-

นุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็

ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย บุคคลนั้นก็ยัง

ไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้น ยัง

ไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย

และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น บุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย

และทิฏฐานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 694

นั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว ฯลฯ

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูละ

วิจิกิจฉานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสยมูล จบ

จตุกกมูลกะ จบ

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล

ปัญจกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐา-

นุสย - วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยาทิมูลี :-

[๑๕๖๐] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใดยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, ภวราคานุสัย

อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า ภวราคานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 695

ภวราคานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น คือบุคคล ๓ จำพวก ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น,

กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

ภวราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น

ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคา-

นุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ ภวราคานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย - วิจิกิจฉา -

นุสยมูละ- อวิชชานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด, อวิชชานุสัย อัน

บุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 696

อันบุคคลนั้นก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น คือพระอนาคามี ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, กาม-

ราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

อวิชชานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กามราคานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ใน

ที่นั้น, ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่าละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย

อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่

ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล

นั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย และมานานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย และมานานุสัย

อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล ๒ จำพวก ที่

รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคล

เหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย

ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย กามราคานุสัย

และมานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 697

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย

และปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย

อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย และ

มานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย

มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น คือปุถุชน ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และ

ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย

กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น

ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ใน

กามธาตุ ปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชา

นุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยัง

ไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั้นแหละ ที่ทุกขเวทนา กาม

ราคานุสัย และมานานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูละ อวิชชานุสยาทิมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสยมูล จบ

ปัญจกมูลกะ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 698

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล

ฉักกมูลกะ - กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี :-

[๑๕๖๑] กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย

วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด,

อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่า อวิชชานุสัย อันบุคคลใด ยังไม่ละแล้ว ในที่ใด

กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

และภราคานุสัย อันบุคคลนั้น ก็ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น ใช่ไหม ?

อวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย อันบุคคลนั้น ยัง

ไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือพระอนาคามี ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ แต่

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ใน

ที่นั้น กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยัง

ไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย และมานานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่กาม-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 699

ราคานุสัย ทิฏฐานุสัย ละวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ใช่ไม่ละ

แล้ว ในที่นั้น, ปฏิฆานุสัย และภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, กาม-

ราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือ

ยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย อันบุคคล

เหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือบุคคล ๒ จำพวก ที่รูปธาตุ

อรูปธาตุ แต่ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น

ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึง

กล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และ

มานานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ในนั้น คือบุคคล

เหล่านั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ แต่ทิฏฐานุสัย และ

วิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น, ปฏิฆา-

นุสัย และภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว

อวิชชานุสัย และปฏิฆานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ละแล้ว ใน

ที่นั้น คือบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา แต่ทิฏฐานุสัย

และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลเหล่านั้น ยังไม่ใช่ไม่ละแล้ว ในที่นั้น,

กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้ว

หรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 700

และภวราคานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น คือปุถุชน

ที่รูปธาตุ อรูปธาตุ กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า

ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย

ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว ในที่นั้น

คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่เวทนา ๒ ในกามธาตุ ปฏิฆานุสัย และ

ภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว อวิชชานุสัย

ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันบุคคลนั้น ยังไม่ละแล้ว

ในที่นั้น คือบุคคลนั้นนั่นแหละ ที่ทุกขเวทนา กามราคานุสัย

มานานุสัย และภวราคานุสัย ไม่พึงกล่าวว่า ละแล้วหรือยังไม่ละแล้ว.

จบ กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูละ อวิชชานุสยมูลี

กามราคานุสย - ปฏิฆานุสย - มานานุสย - ทิฏฐานุสย -

วิจิกิจฉานุสย - ภวราคานุสยมูล จบ

ฉักกมูลกะ จบ

อุปปัตติฏฐานปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก จบ

ปหีนวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 701

อุปปัชชนวาระ

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ อนุโลม

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๕๖๒] กามราคานุสัย ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลใด, ปฏิฆานุสัย

ก็ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

ก็ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลใด มานานุสัย ก็ย่อม

เกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 702

ก็หรือว่า มานานุสัย ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลใด กามราคานุสัย

ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

มานานุสัย ย่อมเกิดขึ้นแก่พระอนาคามี แต่กามราคานุสัย

ก็ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่พระอนาคามีนั้น, มานานุสัย ย่อมเกิดขึ้น และ

กามราคานุสัย ก็ย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคล ๓ จำพวก ( พึงให้พิสดาร)

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

กามราคานุสยมูล จบ

(นักศึกษาพึงให้พิสดาร)

อุปปัตติฐานปุคคลวาระ อนุโลม จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 703

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ ปัจจนิก

กามราคานุสยมูล

เอกมูลกะ - กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี :-

[๑๕๖๓] กามราคานุสัย ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลใด, ปฏิฆา-

นุสัย ก็ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า ปฏิฆานุสัย ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

ก็ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

จบ กามราคานุสยมูละ ปฏิฆานุสยมูลี

กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี :-

กามราคานุสัย ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลใด, มานานุสัย ก็ย่อม

ไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

กามราคานุสัย ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่พระอนาคามี แต่มานานุสัย

ย่อมเกิดขึ้นแก่พระอนาคามีนั้น กามราคานุสัย ย่อมไม่เกิดขึ้น และ

มานานุสัย ก็ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่พระอรหันต์.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 704

ก็หรือว่า มานานุสัย ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลใด, กามราคานุสัย

ก็ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่ (พึงให้พิสดาร)

จบ กามราคานุสยมูละ มานานุสยมูลี

(นักศึกษาพึงให้พิสดาร)

อุปปัตติฏฐานปุคคลวาระ ปัจจนิก จบ

อุปปัชชนวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 705

ธาตุวาระ

ปุจฉาวาระ อนุโลม

กามธาตุมูล

เอกมูลกะ เอกมูลี - กามธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๖๔] เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงกามธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

กามธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่อง

เท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

กามธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่อง

เท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

กามธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 706

กามธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

กามธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

เอกมูลกะ ทวิมูลี - กามธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

กามธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

กามธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 707

รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร มีอนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

รูปธาตุมูล

เอกมูลกะ เอกมูลี - รูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

[๑๕๖๕] เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

รูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงกามธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

รูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่อง

เท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร.

รูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 708

รูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

รูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

เอกมูละ ทวิมูลี - รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

รูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 709

รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

อรูปธาตุมูล

เอกมุลกะ เอกมูลี - อรูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

[๑๕๖๖] เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

อรูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงกามธาตุ อนุสัยนอนเนื่อง

เท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

อรูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่อง

เท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 710

อรูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

อรูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

เอกมูลกะ ทวิมูลี - อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 711

อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ภูมิที่ไม่ใช่

รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

ปุจฉาวาระปฏิโลม

น กามธาตุมูล

เอกมูลกะ เอกมูลี - น กามธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๖๗] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงกามธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไป

เท่าไร ?

น กามธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 712

น กามธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

เอกมูลกะ ทวิมูลี - น กามธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 713

ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุมูละ น กามธาตุ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุมูล

เอกมูลกะ เอกมูลี - น รูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๖๘] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงกามธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 714

น รูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ. อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 715

เอกมูลกะ ทวิมูลี - น รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น อรูปธาตุมูล

เอกมูลกะ เอกมูลี - น อรูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๖๙] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงกามธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 716

น อรูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น อรูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ อนุสัย

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น อรูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 717

เอกมูลกะ ทวิมูลี - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 718

ปุจฉาวาระปฏิโลม

กามธาตุ - อรูปธาตุมูล

ทุกมูลกะ เอกมูลี - น กามธาตุ น อรูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๗๐] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ

เข้าถึงกามธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ น อรูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึง

รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ น อรูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึง

อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 719

น กามธาตุ น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ น อรูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

ทุกมูลกะ ทวิมูลี - น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น

อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 720

ที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ - น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

ทุกมูลกะ เอกมูลี - น รูปธาตุ - อรูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๗๑] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ

เข้าถึงกามธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 721

น รูปธาตุ น อรูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึง

รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึง

อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัย

ดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เขาถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 722

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

ทุกมูลกะ ทวิมูลี - น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น

อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น รูปธาตุ น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 723

น รูปธาตุ น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูล

ทุกมูลกะ เอกมูลี - กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๗๒] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ

เข้าถึงกามธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ

อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงอรูป-

ธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไป

เท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 724

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่นอนเนื่องเท่าไร

อนุสัยดับไปเท่าไร ?

ทุกมูลกะ ทวิมูลี - น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น

อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 725

น กามธาตุ- น รูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไป

เท่าไร ?

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร อนุสัยไม่

นอนเนื่องเท่าไร อนุสัยดับไปเท่าไร ?

จบ ปัญหาวาระ ปัจจนิก

วิสัชนาวาระอนุโลม

เอกมูลกะ เอกมูลี - กาธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๗๓] เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงกามธาตุ บางคน

มีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง อนุสัยทั้งหลาย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 726

ที่ดับไป ย่อมไม่มี.

กามธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗

นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง

อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

กามธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗

นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง

อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

กามธาตุละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ บางคน

มีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

กามธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ บางคน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 727

มีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

กามธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคน

มีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ ทวิมูลี - กามธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่

อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

กามธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุไม่ใช่อรูปธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง อนุสัยที่

ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 728

กามธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากกามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่

รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ เอกมูลี - รูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

[๑๕๗๔] เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

รูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงกามธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

รูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗

นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง

อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 729

รูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

รูปธาตุมูล น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

รูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ ทวิมูลี - รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูป-

ธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 730

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี

รูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูป-

ธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ เอกมูลี - อรูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

[๑๕๗๕] เมื่อบุคคลจุติจากรูปธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

อรูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงกามธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 731

อรูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ การเข้าถึงรูปธาตุ ย่อมไม่มี บุคคล

ผู้จุติจากรูปธาตุนั้น เมื่อเกิดในเบื้องต่ำ ย่อมเข้าถึงกามธาตุนั้น มี

อนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

อรูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ มีอนุสัย ๗

เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 732

เอกมูลกะ ทวิมูลี - อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ การเข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่

อรูปธาตุ ย่อมไม่มี บุคคลที่จุติจากอรูปธาตุนั้น เมื่อเกิดในเบื้องต่ำ

ย่อมเข้าถึงกามธาตุเท่านั้น อนุสัย ๗ เท่านั้น ย่อมนอนเนื่อง อนุสัย

ที่ดับไป ย่อมไม่มี.

อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่

อรูปธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากอรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่

รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ เอกมูลี - น กามธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๗๖] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงกามธาตุ

มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 733

น กามธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง

อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 734

น กามธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ ทวิมูลี - น กามธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อม

ไม่มี.

น กามธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 735

เอกมูลกะ เอกมูลี - น รูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๗๗] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงกามธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง อนุสัยที่

ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 736

น รูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคน

มีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคน

มีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ ทวิมูลี - น รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 737

น รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ ทวิมูลี - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

[๑๕๗๘] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงกามธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง อนุสัยที่

ดับไป ย่อมไม่มี.

น อรูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น อรูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงอรูปธาตุ บางคนมี

อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓

นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 738

น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น อรูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ

บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

เอกมูลกะ ทวิมูลี - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 739

น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ

ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ

ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

ทุกมูลกะ เอกมูลี - น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๗๙] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ

เข้าถึงกามธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อม

ไม่มี.

น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึง

รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 740

น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึง

อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕

นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕

นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ- น อรูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕

นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 741

ทุกมูลกะ ทวิมูลี - น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น

อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคน

มีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป

ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัย

ที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคน

มีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป

ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 742

ทุกมูลกะ - เอกมูลี - น รูปธาตุ - น อรุปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๘๐] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ

เข้าถึงกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึง

รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงอรูป-

ธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่กามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 743

น รูปธาตุ น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูล - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

ทุกมูลกะ ทวิมูลี - น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น

อรูปธาตุมูละ :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคน

มีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป

ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูละ น รูปธาตุ - น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 744

อนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป

ย่อมไม่มี.

น รูปธาตุ น อรูปธาตุมูละ น กามธาตุ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงอรูป-

ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป

ย่อมไม่มี.

ทุกมูลกะ เอกมูลี - น กามูธาตุ - น รูปธาตุมูละ กามธาตุมูลี :-

[๑๕๘๑] เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ

เข้าถึงกามธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อม

ไม่มี.

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ การเข้าถึง

รูปธาตุย่อมไม่มี บุคคลนั้น เมื่อเกิดในเบื้องต่ำ ย่อมเข้าถึงกามธาตุ

เท่านั้น มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 745

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงอรูป

ธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง

บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น กามธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่กามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอน

เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่อรูปธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป ย่อม

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 746

ทุกมูลกะ ทวิมูลี - น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น กามธาตุ - น

รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ การเข้าถึง

ภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ ย่อมไม่มี บุคคลนั้นเมื่อเกิดใน

เบื้องต่ำ ย่อมเข้าถึงกามธาตุนั้น มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง

อนุสัยที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ - น รูปธาตุมูละ น รูปธาตุ น อรูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิ

ที่ไม่ใช่รูปธาตุ ไม่ใช่อรูปธาตุ มีอนุสัย ๗ เท่านั้น นอนเนื่อง อนุสัย

ที่ดับไป ย่อมไม่มี.

น กามธาตุ น รูปธาตุมูละ น กามธาตุ น รูปธาตุมูลี :-

เมื่อบุคคลจุติจากภูมิที่ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ เข้าถึงภูมิที่

ไม่ใช่กามธาตุ ไม่ใช่รูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมี

อนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง อนุสัยที่ดับไป

ย่อมไม่มี.

ธาตุวาระ จบ

อนุสยยมก ที่ ๗ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 747

อรรถกถา

อนุสยยมก

บัดนี้ เป็นการวรรณนาเนื้อความแห่งอนุสยยมกเหมือนที่พระ-

ผู้มีพระภาคเจ้าทรงรวบรวมเอกเทศแห่งกุศลธรรมเป็นต้นทรงแสดงไว้

ในมูลยมกนั้นนั่นแหละ ด้วยสามารถแห่งการหยั่งเห็นได้แล้วทรงแสดง

ไว้ในลำดับแห่งสังขารยมก. บัณฑิตพึงทราบการกำหนดบาลี ในอนุสย-

ยมกก่อน เพราะว่า ในอนุสยยมกนี้พระองค์ทรงทำบาลีเทศนาไว้อีก

อย่างหนึ่ง ไม่เหมือนทำเทศนาในขันธยมก เป็นต้น.

ถามว่า ทำเทศนาอย่างไร ?

ตอบว่า ในเบื้องต้นทำเทศนาแสดงไว้ ๓ วาระ คือ ปริจเฉท-

วาระ วาระว่าด้วยการกำหนด, ปริจฉินนุทเทสวาระ วาระว่าด้วย

อุทเทสที่กำหนดไว้แล้ว, อุปปัตติฏฐานวาระ วาระว่าด้วยที่เป็นที่เกิดขึ้น

ก่อน, เพื่อจะให้ศึกษาอนุสัยทั้งหลาย โดยอาการ ๓ อย่าง คือ โดย

ปริจเฉท โดยอุทเทส และโดยอุปปัตติฏฐาน ต่อจากนั้นก็ทรงประกอบ

อนุสัยทั้งหลายทำยมกเทศนา ด้วยอำนาจแห่งมหาวาระ ๗.

ในอนุสยยมกนั้น คำว่า " สตฺต อนุสยา " นี้ ชื่อว่า

ปริจเฉทวาระ เพราะความที่อนุสัยทั้งหลาย พระองค์กำหนดจำนวน

แสดงไว้ว่า " อนุสัยนี้ มี ๗ เท่านั้น ไม่เกินกว่านี้ ไม่ต่ำกว่านี้ "

ดังนี้.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 748

คำว่า " กามราคานุสโย ฯเปฯ อวิชฺชานุสยโย " นี้ ชื่อว่า

ปริจฉินนุทเทสวาระ เพราะความที่วาระนี้ทรงยกเพียงแต่ชื่อแห่งธรรม

ที่กำหนดไว้แล้วโดยปริจเฉทวาระนั้น ขึ้นแสดงว่า " ชื่อว่า ธรรม

เหล่านี้ เป็นธรรมชนิดนั้น " ดังนี้.

ในข้อนั้น คำว่า กามราคานุสโย อนุเสติ เอตฺถ ฯเปฯ

อวิชฺชานุสโย อนุเสติ นี้ ชื่อว่า อุปปัตติฏฐานวาระ เพราะความที่

วาระนี้ ทรงแสดงที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งธรรมเหล่านั้นนั่นแหละ อย่างนี้

ว่า " อนุสัยเหล่านี้ ย่อมนอนเนื่อง ในวาระทั้งหลายชื่อนี้ " ดังนี้.

อนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ประกอบอนุสัยทั้งหลายแล้วทำยมก

เทศนา ด้วยอำนาจแห่งมหาวาระ ๗ เหล่าใด มหาวาระเหล่านั้น มีชื่อ

ดังนี้ คือ.-

๑. อนุสยวาระ ( วาระว่าด้วยอนุสัย )

๒. สานุสยวาระ ( วาระว่าด้วยผู้มีอนุสัย )

๓. ปชหนวาระ ( วาระว่าด้วยการละ )

๔. ปริญญาวาระ ( วาระว่าด้วยการกำหนดรู้ )

๕. ปหีนวาระ ( วาระว่าด้วยการละได้แล้ว )

๖. อุปปัชชนวาระ ( วาระว่าด้วยการเกิด )

๗. ธาตุวาระ ( วาระว่าด้วยธาตุ )

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 749

อธิบายอนุสยวาระ

บรรดามหาวาระเหล่านั้น วาระที่ ๑ ชื่อว่า อนุสยวาระ นั้น

มี ๒ นัย คือ ด้วยสามารถแห่งอนุโลมนัย และปฏิโลมนัย. ในนัย

ทั้ง ๒ นั้น อนุโลมนัยมีอันตรวาระ ๓ วาระ ด้วยอำนาจแห่งบุคคล

และภูมิ คือ. -

ยสฺส อนุเสติ แปลว่า . . . กำลังนอนเนื่องแก่บุคคลใด (ปุคคล-

วาระ)

ยตฺถ อนุเสติ แปลว่า . . . กำลังนอนเนื่องในภูมิใด ( โอกาส-

วาระ)

ยสฺส ยตฺถานุเสติ แปลว่า . . . กำลังนอนเนื่องแก่บุคคลใดใน

ภูมิใด ( ปุคคโลกาสวาระ )

ในอันตรวาระ ๓ เหล่านั้น ในปุคคลวาระมี ๒๑ ยมก คือ มี

กามราคานุสัยเป็นมูล ๖ ยมก โดยพระบาลีว่า :-

" ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ ตสฺส ปฏิฆานุสโย อนุเสติ

ยสฺส วาปน ปฏิฆานุสโย อนุเสติ ตสฺส กามราคานุสโย

อนุเสติ ฯ

ยสฺส กามราคานุสโย อนุเสติ ตสฺส มานานุสโย. . . .

ทิฏานุสโย ... วิจิกิจฉานุสโย ... ภวราคานุสโย . . . อวิชาชานุสโย

อนุเสติ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 750

ยสฺส วาปน อวิชฺชานุสโย อนุเสติ ตสฺส กามราคานุสโย

อนุเสติ "

ที่มีปฏิฆานุสัยเป็นมูล ๕ ยมก มีมานานุสัยเป็นมูล ๔ ยมก

มีทิฏฐานุสัยเป็นมูล ๓ ยมก มีวิจิกิจฉานุสัยเป็นมูล ๒ ยมก มีภวราคา-

นุสัยเป็นมูล ๑ ยมก ด้วยสามารถแห่งการนับแล้วไม่นับอีก วาระแม้

ทั้งหมดที่มีมูล ๑ จึงรวมเป็น ๒๑ ยมก ด้วยประการฉะนี้.

ปุคคลวาระอื่นอีก ๑๕ ยมก คือ ที่มีมูล ๒ ( ทุกมูล ) อันมา

แล้วในพระบาลีอย่างนี้ว่า ยสฺส กามราคานุสโย จ ปฏิฆานุสโย

จ อนุเสนฺติ ดังนี้ มี ๕ ยมก ที่มีมูล ๓ ( ติกมูล ) มี ๔ ยมก,

ที่มีมูล ๔ ( จตุกกมูล ) มี ๓ ยมก ที่มีมูล ๕ ( ปัญจกมูล ) มี ๒ ยมก.

ที่มีมูล ๖ ( ฉักกมูล ) มี ๑ ยมก. รวมในปุคคลวาระเป็น ๓๖ ยมก

คือ ยมกที่มีมูล ๑ มี ๒๑ ยมก ที่มีมูล ๒ เป็นต้นอีก ๑๕ ยมก

( ๒๑ + ๑๕ = ๓๖ ) ดังนี้.

ในโอกาสวาระก็เหมือนกัน คือ มี ๓๖ ในปุคคโลกาสวาระก็

เหมือนกัน คือมี ๓๖ เพราะฉะนั้น อันตรวาระแม้ทั้งหมดในอนุโลมนัย

จึงเป็น ๑๐๘ ยมก ในปฏิโลมนัยก็เหมือนกัน ( มี ๑๐๘ ) ดังนั้นใน

มหาวาระแรก คืออนุสยวาระ จึงรวมเป็น ๒๑๖ ยมก. บัณฑิตพึงทราบ

คำปุจฉาต้องคูณด้วย ๒ แต่ยมกนั้น เนื้อความคือคำวิสัชนาคูณด้วย ๒

จากคำปุจฉานั้น. ก็ในอนุสยวาระนี้ ฉันใด พึงทราบการนับยมกหนึ่ง ๆ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 751

แห่งมหาวาระทั้ง ๕ แม้เหล่านั้น สานุสยวาระ ปชหนวาระ ปริญญา-

วาระ ปหีนวาระ และ อุปปัชชนวาระ ว่า คำปุจฉาต้องคูณด้วย ๒

แต่ละยมก เนื้อความคือคำวิสัชนาต้องคูณด้วย ๒ จากคำปุจฉานั้น

ฉันนั้น. แต่ว่าในมหาวาระ ๕ นี้ มีเนื้อความที่แปลกไปจาก ๓ วาระ

แรก คือ ในโอกาสวาระ พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ตรัสคำว่า " ยตฺถ

ยตฺถ " แต่ทรงทำเทศนาด้วยพระดำรัสว่า ยโต ยโต ดังนี้. คำที่

เหลือเป็นเช่นเดียวกันนั่นแหละ.

ก็ในมหาวาระทั้งหมด วาระสุดท้าย ชื่อว่า ธาตุวาระ นั้น

ดำรงอยู่ ๒ อย่าง คือ ปุจฉาวาระ และ วิสัชนาวาระ ถามว่า เพราะ

เหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสในคำปุจฉาวาระแห่งธาตุวาระนั้นว่า

เมื่อสัตว์เข้าถึงกามธาตุ แล้วเข้าถึงกามธาตุ ดังนี้ แต่ไม่ตรัสว่า

เมื่อสัตว์เข้าถึงกามธาตุ จุติแล้วจากกามธาตุ ดังนี้ ตอบว่า เมื่อ

ว่าโดยอรรถแล้วไม่แปลกกัน เพราะคำถามแม้ทั้ง ๒ นี้ มีอรรถอย่าง

เดียวกันนั่นแหละ ฉะนั้น พระองค์จึงตรัสคำปุจฉายมกหนึ่ง ๆ นั่นแหละ

แต่ยมกหนึ่ง ๆ โดยลำดับในที่สุดแห่งคำถามทั้งหมดแล้วจึงทำคำวิสัชนาไว้

โดยนัยเป็นต้นว่า เมื่อสัตว์จุติจากกามธาตุแล้วเข้าถึงกามธาตุ อนุ-

สัย ๗ ย่อมนอนเนื่องแก่ใครบ้าง ดังนี้ ในบรรดาคำถามเหล่านั้น

อนุโลมปุจฉามีกามธาตุเป็นมูละ ๙ คือ สุทธิกปุจฉา ๖ ยมก โดย

พระบาลีว่า เมื่อสัตว์จุติจากกามธาตุ เข้าถึงกามธาตุ . . . เข้าถึงรูป

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 752

ธาตุ . . . เข้าถึงอรูปธาตุ . . . เข้าถึง น กามธาตุ . . . เข้าถึง น รูป

ธาตุ เข้าถึง น อรูปธาตุ ดังนี้ และมิสสกปุจฉาอีก ๓ คือ เมื่อสัตว์

จุติจากกามธาตุแล้ว เข้าถึง น กามธาตุ น อรูปธาตุ . . . เข้าถึง

น รูปธาตุ น อรูปธาตุ . . . เข้าถึง นกามธาตุ น รูปธาตุ ดังนี้.

อนุโลมปุจฉาที่มีรูปธาตุเป็นมูละก็มี ๙ ที่มีอรูปธาตุเป็นมูละก็มี

๙ เหมือนกัน รวมเป็นอนุโลมปุจฉา ๒๗ ปฏิโลมปุจฉาที่มีนกามธาตุ

นรูปธาตุ และนอรูปธาตุ เป็นมูละก็มี ๒๗ นั่นแหละ ๒๗ รวมคำถาม

ทั้งหมด คือ อนุโลมปุจฉา ๒๗ ปฏิโลมปุจฉา ๒๗ และคำถามที่เป็น

ทุกมูลอีก ๒๗ ดังพระบาลีว่า น กามธาตุยา น อรูปธาตุยา น

รูปธาตุยา น อรูปธาตุยา น กามธาตุยา น รูปธาตุยา ดังนี้

จึงเป็นคำปุจฉา ๑๘. บัณฑิตพึงทำการวิสัชนาปัญหาในที่นี้ด้วยสามารถ

แห่งคำถามเหล่านั้น. ข้อนี้เป็นการกำหนดบาลีในธาตุวาระ และพึง

ทราบการกำหนดบาลี ในอนุสยยมกแม้ทั้งสิ้นด้วยประการฉะนี้ก่อน.

ก็คำใด ๆ ในอนุสยยมกที่มีเนื้อความอันยาก พึงทราบการวินิจฉัย

กถาในที่นั้น ๆ ตั้งแต่ต้น.

ถามว่า คำว่า อนุสยา ชื่อว่า อนุสัยทั้งหลาย เพราะอรรถว่า

อย่างไร ?

ตอบว่า ชื่อว่า อนุสัย เพราะอรรถว่า นอนเนื่อง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 753

ถามว่า อนุสัยนั้น ชื่อว่า มีอรรถว่านอนเนื่อง อย่างไร ?

ตอบว่า ชื่ออย่างนั้น เพราะอรรถว่า ละไม่ได้.

จริงอยู่ กิเลสเหล่านี้ ชื่อว่า ย่อมนอนเนื่องในสันดาน

ของสัตว์ เพราะอรรถว่าไม่ได้ ฉะนั้น อาจารย์ทั้งหลายจึงเจริญ

กิเลสเหล่านั้นว่า อนุสัย.

คำว่า " อนุเสนฺติ " แปลว่า ย่อมนอนเนื่อง อธิบายว่า ได้

เหตุอันสมควรแล้วจึงเกิดขึ้น อนึ่ง กิเลสที่มีอาการละไม่ได้ ชื่อว่า

อนุสยัฏฐะ อรรถว่านอนเนื่อง พึงมี ก็ไม่ควรจะกล่าวว่า กิเลสมี

อาการละไม่ได้นี้ ย่อมเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นควรจะกล่าวว่า " อนุสัย

ทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้น " ดังนี้ คำว่า อนุสยา อุปฺปชฺชนฺติ นี้ ในที่

นี้เป็นคำรับรองว่า อนุสัย คือ กิเลสที่มีอาการอันละไม่ได้. ก็คำว่า

อนุสโย พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมตรัสเรียกกิเลสที่มีกำลัง เพราะอรรถ

ว่าละไม่ได้.

บัณฑิตพึงทราบว่า อนุสัยนี้ เห็นจิตตสัมปยุต เป็นไปกับ

ด้วยอารมณ์ ( รู้อารมณ์ได้ ) เป็นสเหตุกะเพราะอรรถว่ามีปัจจัย

ปรุงแต่ง และเป็นอกุศลอย่างเดียว เป็นอดีตบ้าง เป็นอนาคต

บ้าง เป็นปัจจุบันบ้าง เพราะฉะนั้น จึงควรกล่าวว่า อนุสัยย่อม

เกิดขึ้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 754

ในที่นี้ พึงทราบคำวินิจฉัยกถานี้ เป็นประมาณ.-

ในอภิธรรม ก่อนท่านปฏิเสธวาทะทั้งหมดไว้ในกถาวัตถุว่า

อนุสัยทั้งหลายเป็นอัพยากตะ เป็นอเหตุกะ เป็นจิตตวิปปยุต ดังนี้

(โปรดดูกถาวัตถุ )

ในปฏิสัมภิทามรรค ท่านได้กล่าว กระทำคำถามไว้ว่า บุคคล

ย่อมละกิเลสทั้งหลายที่เป็นปัจจุบันเท่านั้น คือว่า บุคคลย่อมละ

อนุสัยคือกิเลสที่มีกำลังได้ เพราะความที่อนุสัยเหล่านั้นเป็นปัจ-

จุบันมีอยู่.

ในธรรมสังคหะ ท่านกล่าวไว้ในบทภาชนีแห่งโมหะว่า ความ

เกิดขึ้นแห่งอวิชชานุสัยร่วมกับอกุศลจิตว่า อวิชชานุสัย อวิชชาปริยุฏ

ฐาน อวิชชาลังคิโมหะและอกุศลมูลนี้ มีอยู่ในสมัยใด โมหะก็

มีอยู่ในสมัยนั้น ดังนี้.

ในอนุสยยมกนี้นั่นแหละ ท่านกล่าวไว้ใน อุปปัชชนวาระ

แห่งมหาวาระ ๗ วาระใดวาระหนึ่งว่า กามราคานุสัย กำลังเกิดแก่

บุคคลใด ปฏิฆานุสัยก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม เป็นต้น

เพราะฉะนั้น คำใดที่ท่านอธิบายว่า คำว่า นอนเนื่อง คือได้เหตุอัน

สมควรแล้วจึงเกิดขึ้นนี้ คำนั้น พึงทราบว่า ท่านกล่าวไว้ดีแล้วด้วย

สามารถแห่งแบบแผนนี้เป็นปริมาณ. แม้คำที่กล่าวว่า อนุสัย เป็น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 755

จิตตสัมปยุต เป็นไปกับด้วยอารมณ์ ( คือรู้อารมณ์ได้ ) แม้คำนั้นท่าน

ก็กล่าวดีแล้วนั่นแหละ ดังนั้น พึงถึงความตกลงในที่นี้ว่า ชื่อว่า อนุสัย

นั้น เป็นธรรมสำเร็จแล้ว เป็นจิตตสัมปยุต และเป็นอกุศล ด้วย

ประการฉะนี้. และพึงทราบวิเคราะห์ในคำทั้งหลายซึ่งมีคำว่า กาม-

ราคานุสัย เป็นต้น ว่ากามราคะนั้นด้วย เป็นอนุสัยเพราะอรรถว่า

ละไม่ได้ด้วย ฉะนั้น จึงชื่อว่า กามราคานุสัย แม้ในบทที่เหลือก็นัย

นี้แหละ.

บัดนี้ เพื่อประกาศ อุปปัตติฏฐานวาระ คือ วาระว่าด้วยที่เป็น

ที่เกิดขึ้นแห่งอนุสัย แห่งอนุสัยเหล่านั้น ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

ตตฺถ กามราคานุสโย อนุเสติ เป็นต้น.

คำว่า ตตฺถ กามธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ ได้แก่ กาม-

ราคานุสัยเกิด ในเวทนาทั้ง ๒ คือ สุขเวทนา และอุเบกขาเวทนาใน

กามาวจรภูมิ.

คำว่า เอตฺถ กามราคานุสโย อนุเสติ ได้แก่ กามราคานุสัย

ย่อมนอนเนื่องในเวทนาทั้ง ๒ เหล่านี้. อธิบายว่า กามราคานุสัยนี้

ย่อมนอนเนื่องด้วยอาการ ๒ อย่าง คือ ด้วยสามารถแห่งการเกิดร่วม

๑. คำว่า กามาวจรภูมิ และกามธาตุ มีอรรถอย่างเดียวกัน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 756

และด้วยสามารถแห่งอารมณ์ในสุขเวทนาและอุเบกขาเวทนาแห่งอกุศล

ทั้งหลาย. ก็อนุสัยนั้นเป็นธรรมเกิดพร้อมกับสุขเวทนาและอุเบกขา

เวทนาแห่งอกุศลบ้าง ย่อมทำเวทนาทั้ง ๒ ให้เป็นอารมณ์เกิดขึ้นบ้าง

และทำเวทนาในกามาวจรกุศล วิบาก กิริยาที่เหลือให้เป็นอารมณ์อย่าง

นั้นแหละเกิดขึ้นบ้าง อนึ่งอนุสัยนั้น เมื่อนอนเนื่องในเวทนาที่ ๒

ในกามธาตุ ย่อมนอนเนื่องแม้ในสัญญา สังขารและวิญญาณที่สัมปยุต

ด้วยเวทนาทั้ง ๒ นั้น. แต่ว่าอนุสัยที่นอนเนื่องอยู่ในเวทนาทั้งสอง ไม่

อาจเพื่อจะเกิดร่วมกับปัญญาเป็นต้นที่สัมปยุตด้วยเวทนานั้น หรือว่าไม่

กระทำปัญญาเป็นที่สัมปยุตด้วยเวทนานั้นแล้วเกิดขึ้น.

ก็ครั้นเมื่อความเป็นอย่างนั้นมีอยู่ เวทนาทั้งสองจึงเป็นประธาน

ในสัมปยุตธรรมที่เหลือ เพราะความเกิดขึ้นแห่งกามราคานุสัยเพราะ

อรรถว่าชอบใจโดยความเป็นสุขที่มีความยินดีและความสงบ ฉะนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า กามราคานุสัย ย่อมนอนเนื่องใน

เวทนาทั้งสองเหล่านี้ เป็นต้น. จริงอยู่ สุขเวทนาในเวไนยสัตว์ที่

จะรู้ธรรม เพื่อความรู้ธรรมด้วยสามารถแห่งสภาวะที่โอฬาร คือ

อย่างหยาบ.

อนึ่ง กามราคานุสัยนี้ เมื่อนอนเนื่องด้วยสามารถแห่งอารมณ์

ย่อมนอนเนื่องในเวทนาทั้งสอง และในธรรมที่สัมปยุตด้วยเวทนาทั้งสอง

เพียงเท่านั้นก็หาไม่ ย่อมนอนเนื่องแม้ในรูปเป็นต้นที่ปรารถนาด้วย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 757

ทีเดียว แม้คำนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสไว้ในวิภังคปกรณ์ว่า รูป

อันใด เป็นที่รัก (ปิยรูป) เป็นที่ชอบใจ (สาตรูป ) มีอยู่ใน

โลก กามราคานุสัยของสัตว์ทั้งหลาย ย่อมนอนเนื่องในปิยรูปและ

สาตรูปนี้ ดังนี้ มิใช่หรือ แม้ในคัมภีร์ยมกนี้ ก็ตรัสไว้ในปฏิโลมนัย

แห่งอนุสยวาระว่า กามราคานุสัย ย่อมไม่นอนเนื่องในภูมิใด

ทิฏฐานุสัย ก็ย่อมไม่นอนเนื่องในภูมินั้น ใช่ไหม ดังนี้. ก็กาม-

ราคานุสัยนั้น ย่อมไม่นอนเนื่องในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ

เหล่านี้ แต่ทิฏฐานุสัย ย่อมไม่นอนเนื่องในที่นั้นก็หาไม่ ในที่เป็นที่

ไม่เนื่องกับกามราคานุสัยก็ไม่นอนเนื่อง ทิฏฐานุสัยก็ไม่นอนเนื่อง.

จริงอยู่ ในข้อนี้ กามราคานุสัย เว้นทุกขเวทนาพร้อมทั้งสัม-

ปยุตตธรรม เว้นรูปาวจรธรรมที่เป็นไปในภูมิ และเว้นโลกุตธรรม ๙

เพราะได้ตรัสไว้ว่า กามราคานุสัย ไม่นอนเนื่องในทุกขเวทนา และ

ในรูปธาตุเป็นต้น จึงเป็นอันว่า ย่อมนอนเนื่องในรูป เสียง กลิ่น รส

และโผฏฐัพพะที่เหลือ.

ถามว่า เพราะเหตุไร จึงไม่ตรัสถ้อยคำนั้นในปกรณ์นี้ ?

ตอบว่า เพราะความที่สภาวะเหล่านั้นเป็นของละเอียด.

จริงอยู่ พระองค์ไม่ตรัสว่า กามราคานุสัย ย่อมนอน

เนื่องในรูปเหล่านี้ เป็นต้น เพราะความที่เวทนาทั้งสองเท่านั้นเป็น

ประธาน คือเป็นอารมณ์ชัด และเพราะความที่รูปเหล่านี้เป็นอารมณ์

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 758

ละเอียด คือปรากฏไม่มาก โดยนัยที่ได้กล่าวไว้แล้วในหนหลัง แต่ว่า

เมื่อว่าโดยอรรถแล้ว ย่อมเป็นได้ ฉะนั้น พึงทราบว่า กามราคานุสัย

ย่อมนอนเนื่องแม้ในรูปทั้งหลายเหล่านั้นนั่นแหละด้วย.

จริงอยู่ พระศาสดา ย่อมไม่ตรัสถึงธรรมทั้งปวงในที่ทั้งปวง

เว้นแต่ธรรมใดย่อมหยั่งเห็นได้ด้วยอำนาจแห่งสัตว์ที่พระองค์ทรงแนะ

นำเพื่อให้รู้ธรรม ก็ย่อมตรัสธรรมนั้นทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ตรัส

ในที่บางแห่ง. จริงอย่างนั้นแหละคำใดที่พระองค์ตรัสปุจฉาว่า ทิฏฐา-

นุสัย ย่อมนอนเนื่องในที่ไหน ดังนี้ ย่อมได้คำวิสัชนาอย่างนี้ว่า

ทิฏฐานุสัย ย่อมนอนเนื่องในธรรมทั้งหลายที่นับเนื่องด้วย

สักกายะทั้งปวง ดังนี้ ธรรมทั้งหมดนั้นพระองค์ตรัสไว้แล้ว.

ในที่อื่นอีก คำใดย่อมได้คำวิสัชนาอย่างนี้ว่า วิจิกิจฉานุสัย

มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ย่อมนอนเนื่องในรูปธาตุและอรูปธาตุนี้

และวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย ย่อมนอน

เนื่องในเวทนาทั้ง ๒ ในกามธาตุ และวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย

ทิฏฐานุสัย อวิชชานุสัย ย่อมนอนเนื่องในทุกขเวทนานี้ ดังนี้ พระองค์

มิได้ตรัสคำนั้นทั้งหมด ตรัสเพียงเวทนา ๓ กับรูปธาตุ อรูปธาตุเท่านั้น.

ก็อรูปธรรมที่สัมปยุตด้วยเวทนา และรูปทั้งหมด มิได้ตรัสไว้. มิได้

ตรัสไว้แม้ก็จริง ถึงอย่างนั้นทิฏฐานุสัย ก็ย่อมนอนเนื่องในที่นั้นนั่น

แหละ ข้อนี้ฉันใดในที่นี้มิได้ตรัสอิฏฐารมณ์มีรูปเป็นต้นไว้ ถึงอย่างนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 759

กามราคานุสัย ก็ย่อมนอนเนื่องในรูปที่เป็นอิฏฐารมณ์ ฉันนั้นนั่นแหละ

บัณฑิตพึงทราบที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งกามราคานุสัย ดังพรรณนามาฉะนี้

ก่อน.

บัณฑิตพึงทราบที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งปฏิฆานุสัยโดยพระบาลีว่า

ทุกฺขาย เวทนาย เป็นต้น ว่า ได้แก่เวทนาทั้ง ๓ คือ โทมนัสส-

เวทนา ๒ และทุกขเวทนาที่สัมปยุตด้วยกายวิญญาณ ๑ นี้ ชื่อว่า

อนุสยนัฏฐาน คือที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งปฏิฆานุสัย. ก็ปฏิฆานุสัยนั้น

ย่อมนอนเนื่องในโทมนัสสเวทนา ด้วยอาการ ๒ อย่าง คือ ด้วยสามารถ

แห่งการเกิดขึ้นพร้อมกัน และด้วยสามารถแห่งอารมณ์ด้วย และย่อม

นอนเนื่องในทุกขเวทนาที่เหลือด้วยสามารถแห่งอารมณ์. ก็ปฏิฆานุสัย

นั้น เมื่อนอนเนื่องในเวทนาเหล่านั้น ย่อมนอนเนื่องแม้ในสัญญา

สังขาร และวิญญาณเป็นต้นที่สัมปยุตด้วยเวทนาเหล่านั้น. จริงอยู่

ปฏิฆานุสัยนี้เกิดร่วมกับเวทนาใด ก็เป็นสภาพเกิดร่วมกับธรรมทั้งหลาย

แม้มีสัญญาเป็นต้นที่สัมปยุตด้วยเวทนานั้นนั่นแหละ หรือว่า ย่อม

กระทำเวทนาใดให้เป็นอารมณ์ ก็ย่อมทำแม้ธรรมทั้งหลายมีสัญญา

เป็นต้นที่สัมปยุตด้วยเวทนานั้นเหมือนกัน. ก็ครั้นเมื่อความเป็นอย่าง

นั้นแม้มีอยู่ ทุกขเวทนาเทียวจึงเป็นใหญ่ในสัมปยุตธรรมที่เหลือ เพราะ

ความเกิดขึ้นแห่งปฏิฆานุสัยโดยอรรถว่าไม่ชอบใจและเพราะความที่ตน

เสวยทุกข์ในธรรมที่ไม่ชอบใจ ฉะนั้น พระองค์จึงตรัสคำนี้ว่า ปฏิฆา-

นุสัย ย่อมนอนเนื่องในทุกขเวทนานี้ ดังนี้ จริงอยู่ ความสุข

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 760

คือสุขเวทนา ในเผ่าพันธุ์แห่งสัตว์ที่พระองค์ทรงแนะนำในการรู้ธรรม

เพื่อความรู้ธรรมด้วยสามารถแห่งสภาวะที่เป็นโอฬาร มีอยู่.

อนึ่ง ปฏิฆานุสัย เมื่อนอนเนื่องด้วยสามารถ แห่งอารมณ์ ย่อม

ไม่นอนเนื่องในทุกขเวทนา และในสัมปยุตตธรรมแห่งเวทนาเท่านั้น

ย่อมนอนเนื่องแม้ในธรรมทั้งหลายมีรูปเป็นต้น ที่ไม่น่าปรารถนาด้วย.

ดังคำที่ตรัสไว้ในคัมภีร์วิภังคปกรณ์ว่า รูปอันใดอันไม่เป็นที่รัก ไม่

เป็นที่ชอบใจมีอยู่ในโลก ปฏิฆานุสัยของสัตว์ทั้งหลาย ย่อม

นอนเนื่องในรูปที่ไม่น่ารัก ไม่น่าชอบใจนี้ ดังนี้ มิใช่หรือ. แม้

ในปกรณ์แห่งยมกนี้ ในปฏิโลมนัยแห่งอนุสยวาระก็ตรัสไว้ว่า ปฏิฆา-

นุสัย ย่อมไม่นอนเนื่องในเวทนาทั้งสองในกามธาตุนี้ แต่กาม-

ราคานุสัย ย่อมไม่นอนเนื่องในที่นั้นก็หาไม่ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ

ที่ไม่เนื่องกันนี้ ปฏิฆานุสัยก็ไม่นอนเนื่อง กามราคานุสัยก็ไม่

นอนเนื่อง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอธิบายไว้ว่า ปฏิฆานุสัย ย่อม

นอนเนื่องในธรรมทั้งหลายที่เหลือมีรูปเป็นต้น โดยเว้นเวทนา ๒ คือ

สุข อุเบกขา พร้อมทั้งสัมปยุตตธรรม เว้นรูปาวจรธรรมที่เป็นไปใน

ภูมิ และเว้นโลกุตตรธรรม ๙ เพราะความที่เทศนานั้น พระองค์

ตรัสว่า ปฏิฆานุสัย ย่อมไม่นอนเนื่องในกามาวจรเวทนาทั้ง ๒ และ

ในรูปธาตุเป็นต้น ดังนี้.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 761

ถามว่า เพราะเหตุไร จึงไม่ตรัสไว้ ?

ตอบว่า เพราะเป็นสภาวะละเอียด.

จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ปฏิฆานุสัย ย่อมนอน

เนื่องแก่ธรรมเหล่านี้ เพราะความที่ทุกขเวทนาเป็นใหญ่โดยนัยที่

กล่าวแล้วนั่นแหละ และในธรรมทั้งหลายมีรูปเป็นต้น เพราะ

ความเป็นธรรมละเอียด ดังนี้ แต่เมื่อว่าโดยอรรถแล้วย่อมเป็นได้

เพราะฉะนั้น พึงทราบว่า ปฏิฆานุสัย ย่อมนอนเนื่องแม้ในธรรม

ทั้งหลายมีรูปเป็นต้นเหล่านั้นนั่นแหละ ดังนี้.

ถามว่า เวทนาทั้งสองนอกนี้ เป็นอิฏฐารมณ์ของปฏิฆะ หรือ

ไม่ ?

ตอบว่า เวทนาทั้งสองนอกนี้ ไม่เป็นอารมณ์ของปฏิฆะ ก็

หาไม่.

จริงอยู่ โทมนัสของผู้มีฌานเสื่อมแล้ว ย่อมเกิดเพราะ

ปรารภเวทนาเหล่านั้นอันเป็นไปกับด้วยสัมปยุตตธรรม ด้วย

สามารถแท่งความเดือดร้อน คือโทมนัส ย่อมเกิดเพราะตามระลึก

ถึงความเสื่อมของผู้ได้อิฏฐารมณ์บ้าง ย่อมเกิดเพราะตามระลึกถึง

สิ่งที่ไม่ได้ของผู้ไม่ได้อิฏฐารมณ์บ้าง ก็ข้อนี้เป็นเพียงโทมนัส

เท่านั้น ไม่เป็นปฏิฆานุสัย เพราะปฏิฆานุสัยนั้น เป็นกิเลสที่มีกำลัง

เกิดขึ้นด้วยสามารถแห่งการกระทบในอนิฏฐารมณ์ ฉะนั้น ปฏิฆะแม้

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 762

เกิดร่วมกับโทมนัสในที่นี้ ย่อมไม่เป็นปฏิฆานุสัย เพราะไม่ทำปฏิฆกิจ

ของตน ย่อมถึงความเป็นอัพโพหาริก คือ ถึงการกล่าวอ้างไม่ได้.

พยาบาทแม้เกิดร่วมกับเจตนาในปาณาติบาต ย่อมไม่ชื่อว่า เป็น

มโนกรรม ฉันใด ข้อนี้ก็ฉันนั้น ไม่เป็นปฏิฆานุสัย คือว่าย่อมถึงการ

กล่าวอ้างไม่ได้ สมจริงดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า บุคคลย่อมละปฏิฆะ คือ

โทมนัสเห็นปานนี้ โดยหมายเอาโทมนัสอันอาศัยเนกขัมมะอัน

เป็นอิฏฐารมณ์บางอย่างโดยสภาวะนั้น ปฏิฆานุสัย ก็ย่อมไม่

นอนเนื่องในที่นั้น ดังนี้. บัณฑิตพึงทราบที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่ง

ปฏิฆานุสัย ดังพรรณนามาฉะนี้.

ก็ที่เป็นที่นอนเนื่องแห่ง มานานุสัย โดยพระบาลีว่า กาม-

ธาตุยา ทฺวีสุ เวทนาสุ เป็นต้น มี ๓ คือ กามาวจรเวทนา ๒

รูปธาตุและอรูปธาตุ ๑. บัณฑิตพึงทราบความนอนเนื่องแห่งมานานุสัย

อันเป็นสหชาตะเหมือนกามราคานุสัยในอกุศลเวทนาทั้งหลาย. ก็มานา-

นุสัยย่อมนอนเนื่องในกามาวจรแม้ทั้งหมด พร้อมทั้งสัมปยุตตธรรมใน

สุขทุกข์ อทุกขมสุขเวทนาทั้งหลาย และในรูปธาตุทั้งหลายด้วยสามารถ

แห่งอารมณ์. ในปฏิโลมนัยแห่งอนุสยวาระ มานานุสัยนี้ เว้นทุกข-

เวทนา และโลกุตตรธรรม ๙ ย่อมนอนเนื่องในรูปและอรูปธาตุที่เหลือ

เท่านั้น เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า กามราคานุสัย ย่อมไม่

นอนเนื่อง มานานุสัยก็ย่อมไม่นอนเนื่องในธรรมที่เนื่องด้วย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 763

ทุกขเวทนานี้ ดังนี้. พึงทราบที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งมานานุสัยดัง

พรรณนามาฉะนี้.

ก็ ทิฏฐานุสัย และ วิจิกิจฉานุสัย ย่อมไม่นอนเนื่องใน

โลกุตตรธรรมอย่างเดียวเท่านั้น แท้จริงยังนอนเนื่องแม้ในธรรมทั้งปวง

ทีเดียวที่เป็นไปกับภูมิ ๓ เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่า

ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย ย่อมนอนเนื่องในธรรมทั้งหลายที่นับเนื่อง

ด้วยสักกายะทั้งปวง ดังนี้. ก็ในบทเหล่านั้น บทว่า สพฺพสกฺกาย-

ปริยาปนฺเนสุ ได้แก่ ในธรรมทั้งปวงที่นับเนื่องด้วยสักกายะ

เพราะอรรถว่า อาศัยสังสารวัฏ ดังนี้. ในข้อนั้น บัณฑิตพึงทราบว่า

ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยเหล่านี้ ย่อมนอนเนื่องในจิตตุปบาท ๕ ดวง

คือ โลภสัมปยุตตจิต ๔ วิจิกิจฉาสัมปยุตตจิต ๑ ด้วยสามารถแห่งการ

นอนเนื่องที่เป็นสหชาตะ ก็หรือว่า ธรรมที่ ๒ นั้น ย่อมนอนเนื่อง

ด้วยสามารถแห่งการนอนเนื่องในอารมณ์ในปวัตติกาล เพราะปรารภ

จิตตุปบาท ๕ เหล่านี้ หรือธรรมอื่นอันเป็นไปกับภูมิ ๓ ดังนี้. บัณฑิต

พึงทราบที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย ดังพรรณนา

มาฉะนี้.

ก็ ภวราคานุสัย บัณฑิตพึงกล่าวว่า ย่อมนอนเนื่องใน

เวทนา ๒ ในกามธาตุ เพราะความเกิดขึ้นในทิฏฐิวิปปยุตตจิต ๔ ดวง

แม้ก็จริง ถึงอย่างนั้น ภวราคานุสัยนั้น เมื่อเกิดกับเวทนาทั้งปวงใน

กามธาตุ ย่อมได้เฉพาะในรูปาวจร อรูปาวจรเท่านั้น และย่อมไม่ทำ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 764

ธรรมแม้อันหนึ่งซึ่งเนื่องด้วยกามธาตุให้เป็นอารมณ์ เพราะฉะนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ภวราคานุสัย ย่อมนอนเนื่องในรูปธาตุ

และอรูปธาตุนี้ โดยกำหนดไว้ด้วยสามารถแห่งการนอนเนื่องใน

อารมณ์ ดังนี้. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า ราคะนี้ มี ๒ ด้วยสามารถแห่ง

กามราคะและภวราคะ.

ใน ๒ อย่างนั้น กามราคะ ท่านกล่าวว่า ย่อมนอนเนื่อง

ในเวทนาทั้ง ๒ แห่งกามธาตุ ดังนี้.

ก็ถ้าว่า แม้ภวราคะพึงเป็นดุจกามราคะอย่างนี้ไซร้ การแสดง

ภวราคะกับด้วยกวมราคะก็พึงเป็นเหมือนการคาบเกี่ยวกัน เพราะฉะนั้น

พระองค์ทรงแยกกิเลสมีราคะเป็นต้นไว้ เพื่อต้องการแสดงความแตก

ต่างกันของกามราคะกับภวราคะแล้ว จึงทรงแสดงเทศนาอย่างนี้. บัณฑิต

พึงทราบที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งภวราคานุสัย ดังพรรณนามาฉะนี้.

ก็ อวิชชานุสัย ย่อมนอนเนื่องในธรรมที่เป็นไปในภูมิ ๓

ทั้งหมด. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า อวิชชานุสัย

ย่อมนอนเนื่องในธรรมทั้งหลายที่นับเนื่องด้วยสักกายะทั้งปวงไว้

ในที่นี้ ดังนี้. บัณฑิตพึงทราบความที่อวิชชานุสัยเป็นธรรมนอนเนื่อง

อันเป็นสหชาตะในจิตตุปบาท ๑๒ ดวง. ก็เมื่อว่าด้วยสามารถแห่งการ

กระทำอารมณ์แล้ว อวิชชานุสัยไม่ปรารภธรรมอะไร ๆ อันเป็นไปใน

ภูมิ ๓ แล้วเป็นไปหามีไม่. บัณฑิตพึงทราบที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่ง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 765

อวิชชานุสัย ดังพรรณนามาฉะนี้. นี้เป็นวินิจฉัยกถาในปริจเฉทวาระ

ปริจฉินนุทเทสวาระ อุปปัตติฏฐานวาระก่อน.

มหาวาระ ๗

ก็ในอนุสยวาระที่หนึ่งแห่งมหาวาระ ๗ คำใดที่กล่าวไว้ว่า

กามราคานุสัย กำลังนอนเนื่องแก่บุคคลใด ปฏิฆานุสัยก็กำลัง

นอนเนื่องแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ดังนี้ ตอบรับคำว่า อามนฺตา

แปลว่า ใช่ ดังนี้ คำนั้น ย่อมปรากฏราวกะว่าให้คำตอบที่ไม่ดี.

ถามว่า เพราะเหตุไร ?

ตอบว่า เพราะกามราคะและปฏิฆะไม่เกิดในขณะเดียวกัน

เหมือนอย่างว่ามนายตนะ ธัมมายตนะ กายสังขาร วจีสังขาร ย่อม

เกิดขึ้นในขณะเดียวกันในคำว่า มนายตนะกำลังเกิดแก่บุคคลใด

ธัมมายตนะก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ดังนี้.

ท่านตอบรับว่า ใช่ ( อามนฺตา) ในขณะแห่งการเกิดขึ้น

แห่งอัสสาสะ ปัสสาสะ กายสังขารของบุคคลเหล่านั้นกำลัง

เกิดขึ้น วจีสังขารของบุคคลเหล่านั้นก็กำลังเกิดขึ้น เป็นต้น

ฉันใด กามราคะ และปฏิฆะ ย่อมเกิดฉันนั้นหามิได้. เพราะกามราคะ

ย่อมเกิดในโลภสหคตจิตตุปบาท ๘ ดวง ส่วนปฏิฆะย่อมเกิดใน

โทมนัสสหคตจิตตุปบาท ๒ ดวง ด้วยประการฉะนี้ ความเกิดขึ้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 766

ในขณะเดียวกันของธรรมเหล่านั้น ( กามราคะ ปฏิฆะ ) จึงไม่มี

เพราะฉะนั้น บัณฑิตพึงทำคำปฏิเสธในที่นี้ว่า โน ดังนี้. ก็ในที่นี้

ท่านไม่ถือเอาโวหารอันกำลังเป็นไป ด้วยสามารถแห่งปัจจุบันขณะราวกะ

ในยมกทั้งหลายในหนหลัง เพราะเนื้อความนั้นไม่ปฏิเสธ ก็ต้องตอบ

รับรองว่า อามนฺตา ดังนี้ จึงควรถือเอาโดยประการอื่น ๆ.

ถามว่า ควรถือเอาด้วยอาการอย่างไร ?

ตอบว่า ด้วยสามารถแห่งกิเลสที่ละไม่ได้.

จริงอยู่ โวหารที่กำลังเป็นไปว่า อนุเสติ นี้ ท่านกล่าวหมาย

เอากิเลสที่ยังละไม่ได้. มิได้หมายเอาความเป็นปัจจุบันขณะ. เพราะ

ท่านกล่าวหมายเอากิเลสที่เป็นสภาวะที่ละไม่ได้ ฉะนั้น บัณฑิตพึงทราบ

เนื้อความอย่างนี้ว่า กามราคานุสัย อันบุคคลใดยังละไม่ได้ แม้

ปฏิฆานุสัยของบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ จึงเป็นสภาวะให้ถึงความ

เป็นธรรมนอนเนื่อง ในคำปุจฉาว่า กามราคานุสัย กำลังนอนเนื่อง

แก่บุคคลใด ปฏิฆานุสัยก็กำลังนอนเนื่องแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม

ดังนี้.

อนึ่ง ในอนุสัยเหล่านั้น อนุสัยหนึ่งอันบุคคลใดยังมิได้ละ

อนุสัยนอกนี้ของบุคคลนั้นก็ยังละไม่ได้ นั่นแหละ ฉะนั้น จึงกล่าวว่า

อามนฺตา ดังนี้. ผิว่า คำใดท่านรับรองว่า อามนฺตา ในอุปปัชชนวาระ

ข้างหน้า เพราะคำถามอย่างนี้ว่า กามราคานุสัย กำลังเกิดแก่บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 767

ใด ปฏิฆานุสัย ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ดังนี้. ในข้อนี้

พึงถือเอาเนื้อความอย่างไร แม้ในข้อนั้น ท่านก็ถือเอาด้วยสามารถ

แห่งการที่กิเลสนั้นยังละไม่ได้ ก็หรือ ครั้นเมื่อปัจจัยคือการเกิดขึ้นมีอยู่

ก็พึงถือเอาด้วยสามารถแห่งการไม่ปฏิเสธความเกิด.

เหมือนอย่างว่า ช่างเขียนเป็นต้น เริ่มจิตกรรมมีการวาดเขียน

เป็นต้น เมื่อการงานยังไม่เสร็จ ถูกมิตรสหายเป็นต้นถามว่า ท่านทำ

อะไรในวันเหล่านี้ที่เราเห็นแล้ว ๆ แม้ในขณะที่ยังไม่ทำการงานเหล่านั้น

ก็ย่อมกล่าวว่า เรากำลังทำจิตกรรม กำลังทำกัฏฐกรรม แม้ขณะนั้น

ไม่ได้ทำจิตกรรมเป็นต้น ก็จริง ถึงอย่างนั้น ก็ชื่อว่า กำลังทำอยู่

นั่นแหละ เพราะอาศัยขณะที่ทำแล้ว และขณะที่ควรจะที่ต่อไป ฉันใด

อนุสัยทั้งหลายในสันดานใดที่ยังละไม่ได้ ก็ฉันนั้นนั่นแหละ ก็หรือว่า

เมื่อปัจจัยให้เกิดอนุสัยเหล่านั้นมีอยู่ในสันดานใด การเกิดขึ้นแห่งอนุสัย

เหล่านั้นอันธรรมดามิได้ห้ามไว้ ในข้อนั้นบัณฑิตพึงทราบเนื้อความแห่ง

อนุสัย แม้ในขณะที่ยังไม่เกิดขึ้น อย่างนี้ว่า กามราคานุสัยกำลัง

เกิดขึ้นแก่บุคคลใด เพราะอาศัยกาลที่เคยเกิดแล้วด้วย และจะ

เกิดขึ้นในกาลอื่นด้วย ปฏิฆานุสัยของบุคคลนั้น ก็ชื่อว่า กำลัง

เกิดขึ้นนั่นแหละ ดังนี้ ในการวิสัชนาแม้อื่นจากนี้ก็ดี ที่มีรูปอย่างนี้

ก็ดี ก็นัยนี้แหละ.

คำว่า โน จ ตสฺส นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ เพราะ

ความที่กามราคะและพยาบาทเป็นสภาวะ อันพระอนาคามีละได้แล้วโดย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 768

ไม่เหลือ.

คำว่า ติณฺณ ปุคฺคลาน ได้แก่ ปุถุชน พระโสดาบัน และ

พระสกทาคามี.

คำว่า ทฺวินฺน ปุคฺคลาน ได้แก่ พระโสดาบัน และพระ-

สกทาคามี. ในฐานะทั้งหลายที่มีรูปอย่างนี้แม้ข้างหน้า ก็นัยนี้แหละ.

ในคำถามที่หนึ่งและที่สองแห่งโอกาสวาระ ท่านทำการ

ปฏิเสธว่า โน ดังนี้ เพราะกามราคานุสัย ย่อมนอนเนื่องในเวทนา ๒

แห่งกามธาตุ ปฏิฆานุสัยย่อมนอนเนื่องในทุกขเวทนา ฉะนั้น จึง

ปฏิเสธว่า โน.

ในคำถามที่ ๓ ท่านกล่าวรับรองว่า อามนฺตา เพราะการ

นอนเนื่องแม้แห่งธรรมทั้งสองในเวทนาทั้งสองแห่งกามธาตุ ฐานะคือ

ที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งมานานุสัยในรูปธาตุ อรูปธาตุกับด้วยกามราคานุสัย

นั้นเป็นที่ที่ไม่ทั่วไป เพราะฉะนั้น จึงตรัสว่า " อนึ่ง กามราคานุสัย

ย่อมไม่นอนเนื่องในรูปธาตุนั้น " ดังนี้. โดยนัยนี้ บัณฑิตพึงตรวจดู

วาระว่าด้วยที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งอนุสัยทั้งปวง แล้วจะพึงทราบที่เป็นที่

เกิดขึ้นแห่งอนุสัยทั้งปวง แล้วจะพึงทราบที่เป็นที่เกิดขึ้นอันเป็น

สาธารณะ และอสาธารณะ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 769

ในคำถามที่มีมูล ๒ เพราะกามราคานุสัย ย่อมไม่เกิดในที่

เดียวกัน และย่อมไม่ทำธรรมหนึ่งให้เป็นอารมณ์ ฉะนั้น จึงทำปฏิเสธ

ว่า นตฺถิ ดังนี้. ก็ในที่นี้พึงทราบว่า อนุสัยทั้ง ๒ เหล่านี้ พึงนอน

เนื่องในที่ใด ที่นั้นย่อมไม่เป็นที่ ๆ เดียวกัน เพราะฉะนั้น คำถามนี้ว่า

มานานุสัย ย่อมนอนเนื่องในที่นั้น ดังนี้ ชื่อว่า ย่อมไม่เป็นคำ

ปุจฉาเลย. ในอนุสัยแม้อื่น ๆ ที่มีรูปอย่างนี้ ก็นัยนี้แหละ.

คำว่า จตุนฺน ในปุคคโลกาสวาระ ได้แก่บุคคล ๔ จำพวก

คือ ปุถุชน พระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี.

ในปฏิโลมนัย พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือเอาเนื้อความนี้แล้ว

จึงตรัสถามว่า กามราคานุสัย ย่อมไม่นอนเนื่องแก่บุคคลใด เป็นต้น.

ทรงถือเอาพระอนาคามีและพระอรหันต์ จึงตรัสถามว่า กามราคานุสัย

ย่อมไม่นอนเนื่องแก่บุคคลทั้งสองในภูมิทั้งปวง ดังนี้. บัณฑิต

พึงถือเอา กามาวจรธรรมแม้ทั้งหมดอันสัมปยุตด้วยเวทนา ในพระบาลี

ว่า กามธาตุยา ตีสุ เวทนาสุ ดังนี้บ้าง และถือเอาวัตถุและอารมณ์

แห่งธรรมเหล่านั้นบ้าง.

อนุสยวารกถา จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 770

สานุสยวารกถา

ก็ใน สานุสยวาระ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า โย กามราคา-

นุสเยน สานุสโย นี้ อธิบายว่า เปรียบเหมือนบุคคลผู้มีอาพาธด้วย

โรคอย่างใดอย่างหนึ่งมีโรคชราอันแน่นอนเป็นต้น ตราบใดโรคทั้งหลาย

ยังไม่พ้นไปจากบุคคลนั้น ผู้นั้น ย่อมชื่อว่าเป็นผู้มีโรค แม้ในขณะ

แห่งโรคนั้นยังไม่เกิด ฉันใด ข้อนี้ก็ฉันนั้น อนุสัยทั้งหลายแห่งสัตว์

ผู้มีปกติไปตามวัฏฏะ ผู้มีกิเลสยังไม่ถึงการถอนขึ้นด้วยอริยมรรคเพียง

ใด แม้ในขณะที่อนุสัยทั้งหลายยังไม่เกิดขึ้น เขาก็ชื่อว่า เป็นผู้เป็นไป

กับด้วยอนุสัย คือ มีอนุสัยนั่นแหละ เพราะอาศัยความที่สัตว์เป็นผู้มี

อนุสัยเห็นปานนี้ จึงรับรองด้วยคำว่า อามนฺตา ดังนี้. คำที่เหลือในที่นี้

เช่นกับอนุสยวาระนั่นแหละ.

ก็ใน โอกาสวาระ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า รูปธาตุยา

อรูปธาตุยา เอตฺถ มานานุสเยน สานุสโย อธิบายว่า ในธาตุ

ทั้งหลายเหล่านั้น ความที่บุคคลเป็นไปกับด้วยอนุสัย คือ มีอนุสัย พึง

ปรากฏ แต่ที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งอนุสัยไม่พึงปรากฏ ก็เพื่อแสดงที่เป็นที่

เกิดขึ้นแห่งอนุสัยนั้น พระองค์จึงเริ่มวาระนี้ เพราะฉะนั้น จึงตรัสว่า

มานานุสเยน สานุสโย เป็นต้นจากวาระนั้น ฯ ก็เมื่อเป็นอย่างนั้น จึง

ตรัสว่า บุคคลผู้เป็นไปกับด้วยมานานุสัย คือ มีมานานุสัย เกิดขึ้น

แต่ธาตุทั้งสองนั้น ดังนี้. ก็เมื่อพระองค์ไม่ตรัสอรรถแห่งปัญหาแรก

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 771

ย่อมจะไม่ปรากฏ ฉะนั้น จึงไม่ตรัสอรรถปัญหาแรก พึงทราบเนื้อความ

แห่งปัญหานี้ อย่างนี้.

คำว่า ยโต กามราคานุสเยน ได้แก่ กามราคานุสัยเกิดขึ้น

แล้วแต่ที่ใด.

คำว่า สานุสโย ได้แก่ บุคคลชื่อว่า ผู้เป็นไปกับด้วยอนุสัย

คือ มีอนุสัย แม้ด้วยปฏิฆานุสัยก็เกิดขึ้นแต่ที่นั้น ดังนี้. แต่เพราะ

อนุสัยทั้งสอง คือ กามราคะ ปฏิฆะ นั้นไม่เกิดแต่ที่เดียวกัน ฉะนั้น

จึงปฏิเสธว่า โน ดังนี้.

คำว่า อรหา สพฺพตฺถ นี้ ท่านทำสัตตมีวิภัตติ ในที่แสดงอรรถ

โดยสิ้นเชิง ด้วยสามารถแห่งอรรถนี้ว่า พระอรหันต์ เป็นผู้ไม่มีอนุสัย

อย่างใดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในธรรมทั้งปวง ดังนี้. พึงทราบวินิจฉัย

อรรถในคำทั้งปวงโดยอุบายนี้.

สานุสยวารกถา จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 772

ปชหนวารกถา

ใน ปชหนวาระ บทว่า ปชหติ ได้แก่ ย่อมละอนุสัยด้วยมรรค

นั้น คือว่า ย่อมทำให้ถึงความเป็นธรรมชาติไม่เกิดขึ้นต่อไป ด้วยอำนาจ

แห่งปหานปริญญา.

คำว่า อามนฺตา เป็นคำรับรอง โดยหมายเอาพระอริยบุคคล

ผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิมรรค.

คำว่า ตเทกฏฺ ปชหติ นี้ ตรัสหมายเอาความที่บุคคลนั้นเป็น

ผู้ตั้งอยู่ในปริญญาอันเลิศ คือ ปหานะ.

คำว่า โน นี้ ปฏิเสธหมายเอาพระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอรหัต-

มรรค.

คำว่า ยโต กามราคานุสย ปชหติ ได้แก่ ย่อมละกามราคานุสัย

ซึ่งเกิดขึ้นแต่ที่ใด.

คำว่า อฏฺมโก ได้แก่ พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติ-

มรรค โดยนับตั้งแต่พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตผล เป็นที่หนึ่ง

พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรคนั้น จึงชื่อว่า เป็นพระอริย-

บุคคลที่ ๘. จริงอยู่ พระอรหันต์ เป็นพระอริยบุคคลที่หนึ่ง เพราะ

ความที่ท่านเป็นพระทักขิไณยบุคคลผู้เลิศ โดยการนับตามลำดับพระ-

ทักขิไณยบุคคล. พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอรหัตมรรคเป็นที่ ๒ พระ-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 773

อริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิผลเป็นที่ ๓ พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ใน

อนาคามิมรรคเป็นที่ ๔ ฯ ล ฯ พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค

เป็นที่ ๘. พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตตมรรคนั้น ตรัสว่าเป็น

บุคคลที่ ๘. อีกอย่างหนึ่ง คำว่า อฏฺมโก นี้ เป็นนามสัญญาของท่าน.

คำว่า อนาคามิมคฺคสมงฺคิญฺจ อฏฺมกญฺจ เปตฺวา อวเสสา

ได้แก่ พระเสขะและอเสขะทั้งหลายกับด้วยปุถุชน. จริงอยู่ ในบุคคล

เหล่านั้น ปุถุชน ย่อมละกามราคานุสัยไม่ได้ เพราะความที่ปุถุชนนั้น

ไม่มีปหานปริญญา. อธิบายว่า เว้นบุคคลที่เหลือ คือผู้ถึงพร้อมด้วย

มรรคทั้ง ๒ ได้แก่ โสดาปัตติมรรค อนาคามีมรรค เพราะความที่อนุสัย

เหล่านั้นท่านละได้แล้ว. พึงทราบวินิจฉัยในบททั้งปวง โดยนัยนี้.

ปชหนวารกถา จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 774

ปริญญาวารกถา

ใน ปริญญาวาระ คำว่า ปริชานาติ ได้แก่ ย่อมรู้แจ้งปริญญา

ทั้ง ๓ คำที่เหลือในที่นี้ มีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลัง. จริงอยู่ แม้วาระ

นี้ พระองค์ก็ทรงวิสัชนาด้วยอำนาจแห่งพระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในมรรค

เท่านั้น ราวกะปชหนวาระ.

ปริญญาวารกถา จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 775

ปหีนวารกถา

พระองค์ทรงเริ่มเทศนาใน ปหีนวาระ ไว้ ด้วยอำนาจแห่งพระ-

อริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในผล. เพราะว่า อนุสัยเหล่านี้แม้ทั้งสองอันพระ-

อนาคามีละได้แล้ว ฉะนั้น จึงรับรองว่า อามนฺตา ดังนี้.

ใน โอกาสวาระ ท่านกล่าว เพราะคำถามว่า " กามราคานุสัย

ที่ละได้แล้ว ในภูมิใด ปฏิฆานุสัย ก็ละได้แล้วในภูมินั้น ใช่

ไหม " ดังนี้ ไม่สมควรจะกล่าว คำว่า ละได้แล้ว หรือว่า ละไม่ได้

แล้ว ดังนี้

ถามว่า เพราะเหตุไร ?

ตอบว่า เพราะความที่ภูมินั้นเป็นที่เกิดขึ้นอันไม่ทั่วไป.

จริงอยู่ ที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งกามราคานุสัยก็เป็นอย่างหนึ่ง ของ

ปฏิฆานุสัยก็เป็นอย่างหนึ่ง, คือว่า อนุสัยของมรรคบุคคลผู้ไม่เจริญ

แล้ว ย่อมเกิดขึ้นในภูมิใด ครั้นท่านเจริญมรรคให้เกิดขึ้นแล้ว ก็ชื่อว่า

ละได้แล้วในที่นั้นนั่นแหละ. ก็ในบรรดาอนุสัยทั้งสองนั้น ปฏิฆานุสัย

ย่อมไม่เกิดขึ้นในที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งกามราคานุสัย แม้กามราคานุสัย

ก็ไม่เกิดขึ้นในที่เป็นที่เกิดขึ้นแห่งปฏิฆานุสัย ฉะนั้น จึงไม่ควร

กล่าวว่า อนุสัยนั้น ท่านละได้แล้ว หรือว่าละยังไม่ได้ในที่ ( ภูมิ )

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 776

นั้น เพราะว่า กามราคานุสัยนั้น ท่านละได้แล้วในที่เป็นที่เกิดของตน

จึงไม่ควรกล่าวว่า อนุสัยนั้น ท่านละได้แล้วในที่นั้น เพราะความที่

ท่านละยังไม่ได้. ที่ใด เป็นที่เกิดขึ้นแห่งกามราคานุสัย ไม่ควรกล่าว

ท่านละไม่ได้แล้วในที่นั้น เพราะความที่กามราคานุสัยนั้นไม่ได้อยู่ใน

ที่นั้น.

ก็ในคำนี้ว่า ยตฺถ กามราคานุสโย ปหีโน ตตฺถ มานา -

นุสโย ปหีโน นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าหมายเอาที่เป็นที่สาธารณะ

จึงตรัสว่า อามนฺตา. เพราะว่า กามราคานุสัยย่อมนอนเนื่องในเวทนา

ทั้ง ๒ ในกามธาตุ มานานุสัยย่อมนอนเนื่องในเวทนาทั้ง ๒ เหล่านั้น

ด้วย ในรูปธาตุและอรูปธาตุทั้งหลายด้วย แต่มานานุสัยนั้น เว้นที่เป็นที่

อสาธารณะ ในที่เป็นที่สาธารณะ ย่อมชื่อว่า ท่านละได้แล้วกับทั้งกาม-

ราคานุสัย ฉะนั้น จึงรับรองว่า อามนฺตา ดังนี้. บัณฑิตพึงทราบความ

เป็นผู้ละได้แล้ว และคำอันไม่พึงกล่าวในโอกาสวาระแม้ทั้งปวงโดยนัย

นี้.

ก็คำว่า นตฺถิ ในอาคตสถานทั้งหลาย บัณฑิตพึงทราบวินิจฉัย

เช่นกับคำที่กล่าวแล้วในหนหลัง. ปุคคโลกาสวาระมีคติอย่างโอกาสวาระ

นั่นแหละ ในปฏิโลมนัย คำว่า ยสฺส กามราคานุสโย อปฺปหีโน

นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามด้วยอำนาจแห่งความเป็นปุถุชน พระ-

โสดาบัน และพระสกทาคามี. จริงอยู่ อนุสัยทั้ง ๒ เหล่านี้ บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 777

๖ จำพวก ตั้งแต่ปุถุชนจนถึงพระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิมรรค

ละยังไม่ได้ แม้ก็จริง ถึงอย่างนั้น ในที่นี้ ประสงค์เอาพระอริยบุคคล

ผู้ตั้งอยู่ในมรรค เพราะพระบาลีว่า ปรโต ติณฺณ ปุคฺคลาน ทฺวินฺน

ปุคฺคลาน เป็นต้น เพราะฉะนั้น จึงตรัสว่า อามนฺตา โดยหมาย

เอาปุถุชน พระโสดาบัน และพระสกทาคามีเท่านั้น.

คำว่า ทฺวินฺน ปุคฺคลาน ได้แก่ พระโสดาบัน และพระ-

สกทาคามี. พึงทราบวินิจฉัยในปุคคลวาระโดยนัยนี้. ก็โอกาสวาระ

และปุคคโลกาสวาระ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในหนหลังนั่นแหละ.

ปหีนววรกถา จบ

ในอุปัชชนวาระ เช่นกับอนุสัยวาระนั่นแหละ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 778

ธาตุวารกถา

บัณฑิตพึงทราบ ธาตุวาระ ก่อน ว่า กติ อนุสยา อนุเสนฺติ

ได้แก่ อนุสัยเท่าไร ที่เป็นสภาพไปตามสันดานแล้วอาศัยอยู่.

คำว่า กติ อนุสยา นานุเสนฺติ อนุสัยเท่าไรไม่ไปตามสันดาน

แล้วอาศัยอยู่.

คำว่า กติ อนุสยา ภงฺคา ความว่า บัณฑิตพึงจำแนกอย่างนี้

ว่า อนุสัยเท่าไรย่อมนอนเนื่อง อนุสัยเท่าไรย่อมไม่นอนเนื่อง

ดังนี้. คำที่เหลือในที่นี้คำใดที่ควรกล่าว คำนั้นท่านก็กล่าวแล้วในที่

เป็นที่กำหนดพระบาลีในหนหลังนั่นแหละ. แต่ในนิเทสวาระ ท่าน

กล่าวไว้ด้วยสามารถแห่งปุถุชนว่า อนุสัย ๗ ย่อมนอนเนื่องแก่ใคร

ดังนี้.

คำว่า กสฺสจิ ปญฺจ นี้ ท่านกล่าวไว้ด้วยสามารถแห่งพระโสดาบัน

และพระสกทาคามี. จริงอยู่ ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย อันท่าน

เหล่านั้นละได้แล้ว เพราะเหตุนั้น อนุสัยทั้ง ๕ เท่านั้น จึงนอน

เนื่อง ดังนี้.

บัณฑิตพึงทราบวินิจสัยในข้อนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง

ถือเอาเนื้อความในบทว่า อุปฺปชฺชนฺติ แห่งบทว่า อนุเสนฺติ ใน

อนุสยวาระ ฉันใด ในธาตุวาระนี้ พึงทราบว่า ไม่พึงถือเอา ฉันนั้น,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 779

ถามว่า เพราะเหตุไร ?

ตอบว่า เพราะความที่อนุสัยนั้นไม่เกิดขึ้นในขณะนั้น.

จริงอยู่ เมื่อบุคคลกำลังเข้าถึงกามธาตุ วิบากจิต และรูปที่มี

กรรมเป็นสมุฏฐานย่อมเกิด แต่อกุศลจิตย่อมไม่เกิดในขณะนั้น. ก็อนุสัย

ทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้นในขณะแห่งอกุศลจิต ย่อมไม่เกิดขึ้นในขณะแห่ง

วิบากจิต เพราะเหตุนั้น เพราะความไม่เกิดในขณะดังกล่าวแล้วนั้น

จึงไม่ควรถือเอา.

ถามว่า พึงถือเอาอย่างไร ?

ตอบว่า ย่อมหยั่งเห็นได้โดยประการใด ก็พึงถือเอาโดยประ-

การนั้น.

ถามว่า ย่อมหยั่งเห็นได้อย่างไร ?

ตอบว่า ย่อมหยั่งเห็นได้ เพราะอรรถว่าเป็นกิเลสที่ยังละไม่ได้.

เหมือนอย่างว่า บุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยกุศลและอัพยากตจิต

เพราะความที่ราคะโทสะและโมหะอันตนละยังไม่ได้ ท่านก็เรียกว่า ผู้มี

ราคะ โทสะ และโมหะ ฉันใด ข้อนี้ก็ฉันนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า

ตรัสว่า อนุสัยเหล่านั้น ย่อมนอนเนื่องแก่บุคคลนั้น ๆ แม้ในขณะแห่ง

ปฏิสนธิ เพราะความที่มรรคภาวนายังมิได้ละ ดังนี้. พระผู้มีพระภาค-

เจ้ามิได้ตรัสว่า อนุสัยเหล่านั้นย่อมนอนเนื่องอย่างเดียว แต่พึงทราบว่า

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 780

อนุสัยเหล่านั้น ชื่อว่า นอนเนื่องเพราะความเป็นสภาวะที่ยังละไม่ได้

นั่นแหละด้วย ดังนี้.

คำว่า อนุสยา ภงฺคา นตฺถิ อธิบายว่า ก็ชื่อว่า อนุสัย อัน

บัณฑิตพึงจำแนกอย่างนี้ ว่า อนุสัยใดกำลังนอนเนื่องแก่บุคคลใด

อนุสัยนั้นเท่านั้นย่อมนอนเนื่อง, อนุสัยใดมิได้กำลังนอนเนื่อง อนุสัย

นั้นเท่านั้น ก็ย่อมไม่นอนเนื่อง, อนุสัยนี้ย่อมนอนเนื่องและย่อมไม่

นอนเนื่อง, อนุสัยนี้พึงนอนเนื่องด้วยไม่พึงนอนเนื่องด้วย ดังนี้ ย่อม

ไม่มี.

คำว่า รูปธาตุ อุปปชฺชนฺตสฺส กสฺสจิ ตโย นี้ ตรัสไว้

ด้วยสามารถแห่งพระอนาคามี. จริงอยู่ กามราคะ ปฏิฆะ ทิฏฐิ และ

วิจิกิจฉานุสัยแม้ทั้ง ๔ ท่านละได้แล้วโดยไม่เหลือ อนุสัย ๓ นอกนี้ท่าน

ยังละไม่ได้ ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า กสฺสจิ ตโย

อนุสยา อนุเสนฺติ แปลว่า อนุสัย ๓ ย่อมนอนเนื่องแก่ใคร ดังนี้.

คำว่า น กามธาตุ อธิบายว่า เมื่อเข้าถึงธาตุทั้ง ๒ ที่เหลือ

เพราะความที่ท่านปฏิเสธกามธาตุ.

คำว่า สตฺเตว นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกำหนดแล้วตรัสว่า

ชื่อว่า การเกิดในกามธาตุของพระอริยสาวกผู้จุติจากรูปธาตุย่อมไม่มี มี

อยู่แต่ปุถุชนเท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงตรัสว่า สตฺเตว ดังนี้. แม้ใน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 781

คำว่า สตฺเตว แห่งบุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วเข้าถึงกามธาตุนี้ ก็นัย

นี้แหละ.

ถามว่า เพราะเหตุไร คำว่า ความเกิดขึ้นในรูปธาตุย่อมไม่มี

ดังนี้.

ตอบว่า เพราะความไม่มีรูปาวจรฌานอันเป็นธรรมให้สำเร็จใน

การเกิดนั้นไม่มี.

จริงอยู่ บุคคลนั้นเข้าถึงธาตุนั้น เพราะก้าวล่วงรูปสัญญาโดย

ประการทั้งปวง เพราะฉะนั้น รูปาวจรฌานของท่านจึงไม่มีอยู่ในที่นั้น

เพราะความไม่มีรูปาวจรฌานนั้น บัณฑิตพึงทราบว่า การเกิดขึ้นนั้น

รูปธาตุจึงไม่มี ดังนี้.

ในข้อว่า อรูปธาตุยา จตสฺส น กามธาตุ นี้ ทรงประสงค์

เอาในอรูปธาตุเท่านั้น. พึงทราบเนื้อความในวิสัชนาทั้งปวง โดยนัยนี้

ดังนี้แล.

ธาตุวารกถา จบ

อรรถกถาอนุสยยมก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 782

จิตตยมกที่ ๘

ปุคคลวารุทเทส

อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาระ :-

[๑] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคล

นั้นจักดับ ไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ ไม่ใช่จักเกิด, จิตของบุคคลนั้น

กำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใด ไม่ใช่กำลังเกิด กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้น

จักไม่ดับ จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จักเกิด, จิตของบุคคลนั้น

กำลังเกิด กำลังดับ ใช่ไหม ?

อุปปาทุปปันนวาระ :-

[๒] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 783

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

นิโรธุปปันนวาระ :-

[๓] จิตของบุคคลใดกำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดขึ้น

แล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

อุปปาทวาระ :-

[๔] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 784

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยเกิด

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักเกิด, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดเคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักเกิด, จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

เคยเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 785

นิโรธวาระ :-

[๕] จิตของบุคคลใดกำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นเคยดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเคยดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตของนั้นไม่ใช่กำลังดับ

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดกำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดเคยดับ จิตของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ, จิตของบุคคลนั้นเคยดับใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 786

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

ดับ ใช่ไหม ?

อุปปาทนิโรธวาระ :-

[๖] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นเคยดับ ใช่-

ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเคยดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่เคยดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำ-

ลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 787

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคย

เกิด ใช่ไหม ?

อุปปัชชมานนิโรธวาระ :-

[๗] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

ดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดกำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 788

อุปปัชชมานุปปันนวาระ :-

[๘] จิตของบุคคลใดกำลังเกิดอยู่, จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นกำลัง

เกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่

ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

นิรุชฌมานุปปันนวาระ :-

[๙] จิตของบุคคลใดกำลังดับอยู่, จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

อยู่ ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับอยู่ จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใด, ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่

ใช่กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 789

อุปปันนุปปาทวาระ :-

[๑๐] จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักเกิด จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยเกิด

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 790

อตีตานาคตวาระ :-

[๑๑] จิตของบุคคลใดเคยเกิดแต่จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดขึ้น

แล้ว จิตของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักเกิดแต่จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดขึ้น

แล้ว จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิดแต่จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว, จิต

ของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิดแต่จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

อุปปันนุปปัชชมานวาระ :-

[๑๒] จิตที่เกิดขึ้นแล้ว, กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตที่กำลังเกิดอยู่, เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตที่ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, ไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตที่ไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

นิรุทธนิรุชฌมานวาระ :-

[๑๓] จิตที่ดับแล้ว, กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 791

จิตที่กำลังดับอยู่, ดับแล้ว ใช่ไหม ?

จิตที่ไม่ใช่ดับแล้ว, ไม่ใช่กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

จิตที่ไม่ใช่กำลังดับอยู่, ไม่ใช่ดับแล้ว ใช่ไหม ?

อติกกันตวาระ :-

[๑๔] จิตของบุคคลใดมีกาลก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นอุปปา

ทะขณะ จิตของบุคคลนั้นมีกาลก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นนิโรธขณะ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดมีกาลก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นนิโรธ

ขณะ จิตของบุคคลนั้นมีกาลก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นอุปปาทขณะ

ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่มีกาลก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นอุปปาท-

ขณะ จิตของบุคคลนั้นมีกาลก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นนิโรธขณะ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่มีกาลก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นนิโรธ-

ขณะ, จิตของบุคคลนั้นไม่มีกาลก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นอุปปาทะ

ขณะ ใช่ไหม ?

จบ ปุคคลวารุทเทส

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 792

ธรรมวารุทเทส

อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาระ :-

[๑๕] จิตใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ

ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิดกำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่จักดับจักเกิด ใช่-

ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับจักเกิด, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิดกำลังดับ

ใช่ไหม ?

อุปปาทุปปันนวาระ :-

[๑๖] จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า จิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 793

นิโรธุปปันนวาระ :-

[๑๗] จิตใดกำลังดับ, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

อุปปาทวาระ :-

[๑๘] จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดเคยเกิด, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักเกิด, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดเคยเกิด จิตนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักเกิด, จิตนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 794

นิโรธวาระ :-

[๑๙] จิตใดกำลังดับ, จิตนั้นเคยดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดเคยดับ, จิตนั้นกำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่เคยดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดกำลังดับ, จิตนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักดับ, จิตนั้นกำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดเคยดับ, จิตนั้นจักดับใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักดับ, จิตนั้นเคยดับ ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นไม่ใช่เคยดับ ใช่ไหม ?

อุปปาทนิโรธวาระ :-

[๒๐] จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นเคยดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดเคยดับ, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เคยดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 795

จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักดับ, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดเคยเกิด, จิตนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักดับ, จิตนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

อุปปัชชมานนิโรธวาระ :-

[๒๑] จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นกำลังดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดกำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

อุปปัชชมานุปปันนวาระ :-

[๒๒] จิตใดกำลังเกิดอยู่, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 796

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่

ใช่ไหม ?

นิรุชฌมานุปปันนวาระ :-

[๒๓] จิตใดกำลังดับอยู่ จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดเกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นกำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังดับอยู่ จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่

ใช่ไหม ?

อุปปันนุปปาทวาระ :-

[๒๔] จิตใดเกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดเคยเกิด จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดเกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักเกิด จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เคยเกิด จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 797

อตีตานาคตวาระ :-

[๒๕] จิตใดเคยเกิด แต่จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นจัก

เกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดจักเกิด แต่จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นเคย

เกิด ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่เคยเกิด แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักเกิด แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นไม่ใช่

เคยเกิด ใช่ไหม ?

อุปปันนุปปัชชมานวาระ :-

[๒๖] จิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตใดกำลังเกิดอยู่, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

นิรุทธนิรุชฌมานวาระ :-

[๒๗] จิตใดดับแล้ว, จิตนั้นกำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

จิตใดกำลังดับอยู่, จิตนั้นดับแล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 798

จิตใดไม่ใช่ดับแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่, ใช่ไหม ?

จิตใดไม่กำลังดับอยู่, จิตนั้นไม่ใช่ดับแล้ว ใช่ไหม ?

อติกกันตวาระ :-

[๒๘] จิตใดก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังเกิดอยู่ มี

กาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังดับอยู่ มี

กาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังดับอยู่ มี

กาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะกำลังเกิดอยู่ มีกาลก้าวล่วง

แล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังเกิดอยู่ ไม่มีกาล

ก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังดับอยู่ ไม่

มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังดับอยู่ ไม่

มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังเกิด

อยู่ ไม่มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

ธรรมวารุทเทส จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 799

ปุคคลธรรมวารุทเทส

อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาระ :-

[๒๙] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นของ

บุคคลนั้นจักดับ ไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นของบุคคล

นั้นกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิดกำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่จักดับจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับจักเกิด, จิตนั้นของ

บุคคลนั้นไม่ใช่กำลังเกิดกำลังดับ ใช่ไหม ?

อุปปาทุปปันนวาระ :-

[๓๐] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้น

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 800

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคล

นั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

นิโรธุปปันนวาระ :-

[๓๑] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้น

กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นของบุคคล

นั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

อุปปาทวาระ :-

[๓๒] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคย

เกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 801

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เคยเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่

ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จัก

เกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด, จิตนั้น ของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่

ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยเกิด

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 802

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จัก

เกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

นิโรธวาระ :-

[๓๓] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคย

ดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลัง

ดับ ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เคยดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นจักดับ ใช่

ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 803

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จัก

ดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดเคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยดับ

ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่เคยดับ ใช่ไหม ?

อุปปาทนิโรธวาระ :-

[๓๔] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคย

ดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เคยดับ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 804

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักดับ ใช่

ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

จักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยเกิด

ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จัก

ดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 805

อุปปัชชมานนิโรธวาระ :-

[๓๕] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังดับ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดกำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

อุปปัชชมานุปปันนวาระ :-

[๓๖] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิดอยู่, จิตนั้นของบุคคลนั้น

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้น

กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 806

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคล

นั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

นิรุชฌมานุปปันนวาระ :-

[๓๗] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับอยู่, จิตนั้นของบุคคลนั้น

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้น

กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับอยู่, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือ ว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคล

นั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

อุปปันนุปปาทวาระ :-

[๓๘] จิตใดของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้น

เคยเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 807

จิตใดของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่

ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เคยเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

อตีตานาคตวาระ :-

[๓๙] จิตใดของบุคคลใดเคยเกิดแต่จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักเกิดแต่จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิดแต่จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 808

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิดแต่จิตนั้นของบุคคลนั้น

เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

อุปปันนุปปัชชมานวาระ :-

[๔๐] จิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดกำลังเกิดอยู่, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่

ไหม ?

นิรุทธนิรุชฌมานวาระ :-

[๔๑] จิตใดดับแล้ว, จิตนั้นกำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดกำลังดับอยู่, จิตนั้นดับแล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดไม่ใช่ดับแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่กำลังดับอยู่, จิตนั้นไม่ใช่ดับแล้ว ใช่ไหม ?

อติกกันตวาระ :-

[๔๒] จิตใดของบุคคลใดก้าวล่วงแล้ว ซึ่งขณะอันเป็นขณะ

กำลังเกิดอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นล่วงแล้ว ซึ่งขณะ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 809

อันเป็นขณะกำลังดับอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดก้าวล่วงแล้ว ซึ่งขณะอันเป็นขณะ

กำลังดับอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นก้าวล่วงแล้ว ซึ่ง

ขณะอันเป็นขณะกำลังเกิดอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตใดของบุคคลใดไม่ก้าวล่วงแล้ว ซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังเกิด

อยู่ มีกาลกำลังล่วงแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ก้าวล่วงแล้ว ซึ่งขณะ

อันเป็นขณะกำลังดับอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ก้าวล่วงแล้ว ซึ่งขณะอันเป็นขณะ

กำลังดับอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ก้าวล่วงแล้ว ซึ่ง

ขณะอันเป็นขณะกำลังเกิดอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

ปุคคลธรรมวารุทเทส จบ

มิสสกวารุทเทส

[๔๓] จิตมีราคะของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตมี

ราคะของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตมีราคะของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตมีราคะ

ของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

๑. ในมิสสกวารุทเทส บาลีท่านย่อไว้, แต่แปลไม่ย่อ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 810

จิตปราศจากราคะของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตปราศ-

จากราคะของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตปราศจากราคะของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตมี

ราคะของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตมีโทสะของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตมีโทสะของ

บุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตมีโทสะของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตมีโทสะ

ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตปราศจากโทสะของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิต

ปราศจากโทสะของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตปราศจากโทสะของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิต

ปราศจากโทสะของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม ?

จิตมีโมหะของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ. จิตมีโมหะของ

บุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตมีโมหะของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตมีโมหะ

ของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตปราศจากโมหะของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตปราศ-

จากโมหะของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 811

ก็หรือว่าจิตปราศจากโมหะของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิต

ปราศจากโมหะของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตหดหู่ของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตหดหู่ของบุคคล

นั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตหดหู่ของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด จิตหดหู่ของ

บุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตฟุ้งซ่านของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตฟุ้งซ่านของ

บุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตฟุ้งซ่านของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตฟุ้งซ่าน

ของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตเป็นมหัคคตะของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตเป็น

มหัคคตะของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตเป็นมหัคคตะของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตเป็น

มหัคคตะของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตไม่เป็นมหัคคตะของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตไม่

เป็นมหัคคตะของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตไม่เป็นมหัคคตะของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิต

ไม่เป็นมหัคคตะของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 812

สอุตตรจิตของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, สอุตตรจิตของ

บุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าสอุตตรจิตของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, สอุตตรจิต

ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

อนุตตรจิตของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, อนุตตรจิตของ

บุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าอนุตตรจิตของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, อนุตตรจิต

ของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตไม่หลุดพ้นของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตไม่หลุด

พ้นของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า จิตไม่หลุดพ้นของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด จิตไม่

หลุดพ้นของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

กุศลจิตของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, กุศลจิตของบุคคล

นั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า กุศลจิตของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, กุศลจิตของ

บุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

อกุศลจิตของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, อกุศลจิตของ

บุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 813

ก็หรือว่า อกุศลจิตของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, อกุศลจิต

ของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

อัพยากตจิตของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, อัพยากตจิต

ของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อัพยากตจิตของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, อัพยากต-

จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

สุขายเวทนายสัมปยุตตจิตของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ,

สุขายเวทนายสัมปยุตตจิตของบุคคลนั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า สุขายเวทนายสัมปยุตตจิตของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จัก

เกิด, สุขายเวทนายสัมปยุตตจิตของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ

ใช่ไหม ?

( ตั้งแต่นี้จนถึง สรณจิตและอรณจิตในทุกมาติกาก็พึงยกขึ้น

แสดงตามอุบายนี้ )

อรณจิตของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, อรณจิตของบุคคล

นั้นจักดับไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ก็หรือว่า อรณจิตของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, อรณจิตของ

บุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

มิสสกวารุทเทส จบ

อุทเทสวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 814

นิทเทสวาระ

ปุคคลวาระนิทเทส

อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาระ :-

[๔๔] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคล

นั้นจักดับ จักไม่เกิด ใช่ไหม ?

ในอุปปาทักขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด ไม่ใช่

กำลังดับ จักดับไม่ใช่จักเกิด, ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลนอกจาก

นี้ จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ จักดับด้วยเกิดด้วย

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ จักไม่เกิด จิตของบุคคลนั้นกำลัง

เกิดไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิดกำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นจักไม่

ดับจักเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักไม่ดับจักเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังเกิดกำลังดับ ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 815

อุปปาทุปปันนวาระ :-

[๔๕] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นเกิดแล้ว

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้ว นี้จิตของ

บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด, ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่า

นั้นเกิดแล้วด้วยกำลังเกิดด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว

ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดแล้ว บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคล

ผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดด้วย

ไม่ใช่เกิดแล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 816

นิโรธุปปันนวาระ :-

[๔๖] จิตของบุคคลใดกำลังดับ จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว

ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

ในอุปปาทักขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ, ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคล

เหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังดับด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดแล้ว

ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว, บุคคลผู้เข้าอยู่ซึ่งนิโรธสมาบัติก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ

ด้วย ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใด ไม่ใช่จักเกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 817

อุปปาทวาระ :-

[๔๗] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้าอยู่ซึ่งนิโรธสมาบัติก็ดี บุคคลผู้

เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่จิตของ

บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด, ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคล

เหล่านั้นเคยเกิดแล้วด้วย กำลังเกิดด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่เคยเกิด

ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

ไม่มี.

จิตของบุคคลใดกำลังเกิด จิตของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต, จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 818

แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นจักไม่เกิด, ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคล

นอกนั้น จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดด้วย จักเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักเกิด, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้

เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จิตของ

บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด, ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคล

เหล่านั้นจักเกิดด้วย กำลังเกิดด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิด

อยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิต

ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่า

นั้นไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่จักเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่

จักเกิดแต่จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต

จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 819

จิตของบุคคลใดเคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด จิตของบุคคลที่เหลือนอกนั้นเคยเกิด

ด้วย จักเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักเกิด, จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด ใช่

ไหม ?

ใช่.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

เคยเกิด ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

นิโรธวาระ :-

[๔๘] จิตของบุคคลใดกำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นเคยดับ

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเคยดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 820

ในอุปปาทขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคล

ผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่จิตของ

บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ, ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่า

นั้นเคยดับด้วย กำลังดับด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยดับ

ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่เคยดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

ดับ ใช่ไหม ?

ไม่มี.

จิตของบุคคลใดกำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต, จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ, ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคล

นอกนั้น จิตของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับด้วย จักดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ ใช่

ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคล

ผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่จิตของ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 821

บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ, ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่า

นั้นจักดับด้วย กำลังดับด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ

ใช่ไหม ?

จักดับ.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

ดับ ใช่ไหม ?

กำลังดับ.

จิตของบุคคลใดเคยดับ, จิตของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ, จิตของบุคคลที่เหลือนอกนั้นเคยดับ

ด้วย จักดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ, จิตของบุคคลนั้นเคยดับใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดไม่เคยดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่-

ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคย

ดับ ใช่ไหม ?

เคยดับ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 822

อุปปาทนิโรธวาระ :-

[๔๙] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นเคยดับ

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเคยดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่

เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี, จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่จิตของ

บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคล

เหล่านั้นเคยดับด้วย กำลังเกิดด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยดับ

ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่เคยดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

ไม่มี.

จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 823

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลังเกิด

ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้

เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่จิตของ

บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด, ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคล

เหล่านั้นจักดับด้วย กำลังเกิดด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ

ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลผู้

เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคล

เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่จักดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตของบุคคลใดเคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ, จิตของบุคคลที่เหลือนอกนั้นเคยเกิด

ด้วย จักดับด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 824

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักดับ, จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด ใช่

ไหม ?

ใช่.

จิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่

ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่เคย

เกิด ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

อุปปัชชมานนิโรธวาระ :-

[๕๐] จิตของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

ดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นกำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

ก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่

กำลังเกิด, ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลัง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 825

ดับด้วย กำลังเกิดด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตต

ภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตของบุคคลเหล่านั้น

ไม่ใช่กำลังดับ, ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลัง

เกิดด้วย กำลังดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดกำลังดับ, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

อุปปัชชมานุปปันนวาระ :-

[๕๑] จิตของบุคคลใดกำลังเกิดอยู่, จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นกำลัง

เกิดอยู่ ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว แต่จิต

ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, ในอุปปาทะขณะแห่งจิต จิตของ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 826

บุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังเกิดอยู่ด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่

แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว, บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลัง

เกิดอยู่ด้วย ไม่ใช่เกิดแล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นไม่

ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

ใช่.

นิรุชฌมานุปปันนวาระ :-

[๕๒] จิตของบุคคลใดกำลังดับอยู่, จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นกำลังดับ

อยู่ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 827

ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว แต่

จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่, ในภังคขณะแห่งจิต จิตของ

บุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังดับด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับอยู่, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่

แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว, บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่กำลังดับอยู่

ด้วย ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตของบุคคลนั้นไม่

ใช่กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

ใช่.

อุปปันนุปปาทวาระ :-

[๕๓] จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดเคยเกิด จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 828

บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

ก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยจิตเหล่านั้น จิตของบุคคลเหล่านั้นเคย

เกิดแล้วด้วย เกิดขึ้นแล้ว.

จิตของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้น

แล้ว แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยจิตที่

เหลือนอกนั้น จิตของบุคคลเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้วด้วย จักเกิดด้วย

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักเกิด, จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว

ใช่ไหม ?

บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

ก็ดี จิตของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จิตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว, บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยจิต จิตของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดด้วย

เกิดขึ้นแล้วด้วย.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นไม่เคยเกิด

ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่เคยเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 829

ไม่มี.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

จักเกิด.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

เกิดขึ้นแล้ว.

อตีตานาคตวาระ :-

[๕๔] จิตของบุคคลใดเคยเกิดแต่จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดขึ้น

แล้ว จิตของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดจักเกิดแต่จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เกิดขึ้น

แล้ว จิตของบุคคลนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

จิตของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิดแต่จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้นแล้ว,

จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิดแต่จิตของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว, จิตของบุคคลนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 830

อุปปันนุปปัชชมานวาระ :-

[๕๕] จิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่ดับแล้ว แต่กำลังดับอยู่ จิตในอุปปาทขณะ

ก็ดี จิตที่เป็นอนาคตก็ดีไม่ใช่ดับแล้วด้วย ไม่ใช่กำลังดับอยู่ด้วย.

จิตใดกำลังเกิดอยู่, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

ใช่.

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่กำลังเกิดอยู่แต่เกิดขึ้นแล้ว, จิตที่เป็นอดีต

และจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ด้วย ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วด้วย.

นิรุทธนิรุชฌมานวาระ :-

[๕๖] จิตใดดับแล้ว, จิตนั้นกำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดกำลังดับอยู่, จิตนั้นดับแล้ว ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่ดับแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 831

จิตในภังคขณะไม่ใช่ดับแล้ว แต่กำลังดับอยู่ จิตในอุปปาท-

ขณะก็ดี จิตที่เป็นอนาคตก็ดีไม่ใช่ดับแล้วด้วย ไม่ใช่กำลังดับอยู่ด้วย.

จิตใดไม่ใช่กำลังดับอยู่, จิตนั้นไม่ใช่ดับแล้ว ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับอยู่ แต่ดับแล้ว จิตในอุปปาทขณะ

ก็ดี จิตที่เป็นอนาคตก็ดี ไม่ใช่กำลังดับอยู่ด้วย ไม่ใช่ดับแล้วด้วย.

อติกกันตวาระ :-

[๕๗] จิตของบุคคลใดก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลัง

เกิดอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตของบุคคลนั้นก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอัน

เป็นขณะกำลังดับอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะก้าวล่วงแล้วซึ่งอุปปาทขณะ ไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่ง

ภังคขณะจิตที่เป็นอดีต ก้าวล่วงแล้วซึ่งอุปปาทขณะด้วย ก้าวล่วงแล้ว

ซึ่งภังคขณะด้วย.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลัง-

ดับอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตของบุคคลนั้นก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็น

ขณะกำลังเกิดอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีต.

จิตของบุคคลใดไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังเกิดอยู่

มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตของบุคคลนั้นไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 832

กำลังดับอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคต.

ก็หรือว่าจิตของบุคคลใดไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลัง

ดับอยู่ มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตของบุคคลนั้นไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอัน

เป็นขณะกำลังเกิดอยู่ มีกาล ก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งภังคะขณะ แต่ก้าวล่วงแล้ว

ซึ่งอุปปาทขณะ, จิตในอุปปาทขณะก็ดี จิตที่เป็นอนาคตก็ดี ไม่ก้าว

ล่วงแล้วซึ่งภังคะขณะด้วย ไม่ก้าวล่วงแล้วซึ่งอุปปาทขณะด้วย.

ปุคคลวารนิเทส จบ

ธรรมวารนิทเทส

อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาระ :-

[๕๘] จิตใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นจักดับไม่ใช่จัก

เกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักดับไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ

ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 833

ใช่.

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด กำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่จักดับจักเกิด

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับจักเกิด, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด กำลัง

ดับ ใช่ไหม ?

ไม่มี.

อุปปาทุปปันนวาระ :-

[๕๙] จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

ในภังคขณะ จิตเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด, ใน

อุปปาทขณะจิตเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังเกิดด้วย.

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว จิตที่เป็น

อดีตและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 834

นิโรธุปปันนวาระ :-

[๖๐] จิตใดกำลังดับ, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ จิต

ในภังคขณะเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังดับด้วย.

จิตใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว จิตที่

เป็นอดีตและจิตที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังดับด้วย ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว

ด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

อุปปาทวาระ :-

[๖๑] จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดเคยเกิด, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่เคยเกิด ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 835

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตนั้นเคยเกิด จิตในภังคขณะ

และจิตที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่เคยเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เคยเกิด จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทะขณะไม่ใช่เคยเกิด แต่จิตนั้นกำลังเกิด จิตใน

ภังคขณะและจิตที่เป็นอนาคต ไม่เคยเกิดด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดด้วย.

จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักเกิด จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตนั้นจักเกิด, จากในภังค-

ขณะ และจิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่จักเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทะขณะไม่ใช่จักเกิดแต่จิตนั้นกำลังเกิด จิตในภังค-

ขณะและจิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักเกิดด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดด้วย.

จิตใดเคยเกิด, จิตนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักเกิด, จิตนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 836

จิตใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอนาคตไม่เคยเกิดแต่จิตนั้นจักเกิด, จิตที่เป็นปัจจุบัน

ไม่ใช่เคยเกิดด้วย ไม่ใช่จักเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักเกิดแต่จิตนั้นเคยเกิด จิตที่เป็นปัจจุบัน

ไม่ใช่จักเกิดด้วย ไม่ใช่เคยเกิดด้วย.

นิโรธวาระ :-

[๖๒] จิตใดกำลังดับ, จิตนั้นเคยดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดเคยดับ, จิตนั้นกำลังดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับแต่จิตนั้นเคยดับ, จิตในอุปปาทขณะ

และจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังดับ ไม่ใช่เคยเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่เคยดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่เคยดับ แต่จิตนั้นกำลังดับ, จิตในอุปปาท-

ขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่เคยดับด้วย ไม่ใช่กำลังดับด้วย.

จิตใดกำลังดับ, จิตนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 837

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักดับ, จิตนั้นกำลังดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังดับแต่จิต

นั้นจักดับ, จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับด้วย ไม่ใช่จักดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่จักดับ แต่จิตนั้นกำลังดับ, จิตที่เป็นอดีต

ไม่ใช่จักดับด้วย ไม่ใช่กำลังดับด้วย.

จิตใดเคยดับ, จิตนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักดับ, จิตนั้นเคยดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่เคยดับแต่จิตนั้นจักดับ,

จิตในภังคขณะไม่ใช่เคยดับด้วย ไม่ใช่จักดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นไม่ใช่เคยดับ ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักดับ แต่จิตนั้นเคยดับ, จิตในภังคขณะ

ไม่ใช่จักดับด้วย ไม่ใช่เคยดับด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 838

อุปปาทนิโรธวาระ :-

[๖๓] จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นเคยดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดเคยดับ จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เคยดับ ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตนั้นเคยดับ, จิตในภังคขณะ

และจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่เคยดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่เคยดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทะขณะไม่เคยดับ แต่จิตนั้นกำลังเกิด, จิตในภังค-

ขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่เคยดับด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดด้วย.

จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักดับ, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอนาคตจักดับ แต่จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด, จิตในอุปปาท-

ขณะจักดับด้วย กำลังเกิดด้วย.

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิด, แต่จิตนั้นจักดับจิตในภังคขณะ

และจิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่จักดับด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 839

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

จิตใดเคยเกิด, จิตนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักดับ, จิตนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นไม่ใช่จักดับ ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่เคยเกิด แต่จิตนั้น

จักดับ, จิตในภังคขณะไม่ใช่เคยเกิดด้วย ไม่ใช่จักดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักดับ จิตนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักดับ แต่จิตนั้นเคยเกิด จิตในภังคขณะ

ไม่ใช่จักดับด้วย ไม่ใช่เคยเกิดด้วย.

อุปปัชชมานนิโรธวาระ :-

[๖๔] จิตใดกำลังเกิด, จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นกำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตนั้นไม่ใช่

กำลังเกิด, จิตในอุปปาทขณะไม่ใช่กำลังดับด้วย กำลังเกิดด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 840

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นกำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตนั้นไม่ใช่

กำลังดับ, จิตในภังคขณะไม่ใช่กำลังเกิดด้วย กำลังดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดกำลังดับ, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

อุปปัชชมานุปปันนวาระ :-

[๖๕] จิตใดกำลังเกิดอยู่, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นกำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ จิตใน

อุปปาทขณะเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังเกิดอยู่ด้วย.

จิตใดไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว จิตที่

เป็นอดีตและจิตที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ด้วย ไม่ใช่เกิดขึ้น

แล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่

ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 841

นิรุชฌมานุปปันนวาระ :-

[๖๖] จิตใดกำลังดับอยู่, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดเกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นกำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตนั้นไม่ใช่กำลังอยู่ จิต

ในภังคขณะเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังดับอยู่ด้วย.

จิตใดไม่ใช่กำลังดับอยู่ จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะไม่ใช่กำลังดับอยู่ แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว, จิต

ที่เป็นอดีตและจิตที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังดับอยู่ด้วย ไม่ใช่เกิดขึ้น

แล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่ ใช่

ไหม ?

ใช่.

อุปปันนุปาทวาระ :-

[๖๗] จิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นเคยเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดเคยเกิด, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 842

ไม่ใช่.

จิตใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นจักเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักเกิด, จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว แต่จิตนั้นเคยเกิด, จิตที่เป็น

อนาคตไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วด้วย ไม่ใช่เคยเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่เคยเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นปัจจุบันไม่เคยเกิด แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว, จิตที่เป็น

อนาคตไม่ใช่เคยเกิดด้วย ไม่ใช่เคยเกิดขึ้นแล้วด้วย.

จิตใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว แต่จิตนั้นจักเกิด, จิตที่เป็น

อดีตไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วด้วย ไม่ใช่จักเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นปัจจุบันไม่ใช่จักเกิด แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว, จิตที่เป็น

อดีตไม่ใช่จักเกิดด้วย ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 843

อตีตานาคตวาระ :-

[๖๘] จิตใดเคยเกิด แต่จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นจัก

เกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดจักเกิด แต่จิตนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นเคย

เกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่เคยเกิด แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่จักเกิด

ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดไม่ใช่จักเกิด แต่จิตนั้นเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นไม่ใช่

เคยเกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

อุปปันนุปปัชชมานวาระ :-

[๖๙] จิตที่เกิดขึ้นแล้ว, กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะเกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, จิตในอุป-

ปาทะขณะเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังเกิดอยู่ด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 844

จิตที่กำลังเกิดอยู่, เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

จิตที่ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, ไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ ใช่ไหม ?

ใช่.

จิตที่ไม่ใช่กำลังเกิดอยู่, ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ แต่เกิดขึ้นแล้ว, จิตที่เป็นอดีต

และจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิดอยู่ด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดขึ้นแล้วด้วย.

นิรุทธนิรุชฌมานวาระ :-

[๗๐] จิตใดดับแล้ว, จิตนั้นกำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดกำลังดับอยู่ จิตนั้นดับแล้ว ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดไม่ใช่ดับแล้ว จิตนั้นไม่ใช่กำลังดับอยู่ ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่ดับแล้ว แต่จิตนั้นกำลังดับอยู่ จิตใน

อุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่ดับแล้วด้วย ไม่ใช่กำลังดับด้วย.

จิตใดไม่ใช่กำลังดับอยู่, จิตนั้นไม่ใช่ดับแล้ว ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับอยู่ แต่จิตนั้นดับแล้ว, จิตในอุปปาท-

ขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังดับอยู่ด้วย ไม่ใช่ดับแล้วด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 845

อติกกันตกาลวาระ :-

[๗๑] จิตใดก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังเกิดอยู่ (อุป-

ปาทขณะ) มีกาลก้าวล่วงแล้ว. จิตนั้นก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะกำลังดับอยู่

(ภังคขณะ) มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะก้าวล่วงแล้วซึ่งอุปปาทขณะ แต่ไม่ก้าวล่วงซึ่ง

ภังคขณะ จิตที่เป็นอดีตก้าวล่วงอุปปาทขณะด้วย ก้าวล่วงภังคขณะด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดก้าวล่วงซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังดับอยู่ (ภังค-

ขณะ) มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะกำลังเกิดอยู่

(อุปปาทขณะ) มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีต.

จิตใดก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังเกิดอยู่ (อุปปาทขณะ

ไม่มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกำลังดับ

อยู่ (ภังคขณะ) ไม่มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคต.

ก็หรือว่าจิตใดก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะกาลังดับอยู่ (ภังค-

ขณะ) ไม่มีกาลก้าวล่วงแล้ว, จิตนั้นก้าวล่วงแล้วซึ่งขณะอันเป็นขณะ

กำลังเกิดอยู่ (อุปปาทขณะ) ไม่มีกาลก้าวล่วงแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ก้าวล่วงซึ่งภังคขณะ แต่ก้าวล่วงซึ่งอุปปาทขณะ,

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคต ไม่ก้าวล่วงภังคขณะด้วย ไม่ก้าว

ล่วงอุปปาทขณะด้วย.

ธรรมวารนิทเทส จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 846

ปุคคลธรรมวารนิทเทส

อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาระ :-

[๗๒] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของ

บุคคลนั้นจักดับ ไม่ใช่จักเกิด ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักดับไม่ใช่จักเกิด. จิตนั้นของบุคคล

นั้นกำลังเกิด ไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิดกำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่จักดับจักเกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใด ไม่ใช่จักดับ จักเกิด, จิตนั้นของ

บุคคลนั้นไม่ใช่กำลังเกิด กำลังดับ ใช่ไหม ?

ไม่มี.

อุปปาทปปันนวาระ :-

[๗๓] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 847

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้น

กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่กำลัง

เกิด, จิตในอุปปาทะขณะเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังเกิดด้วย.

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิดขึ้น

แล้ว, จิตที่เป็นอดีตและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่เกิด

ขึ้นแล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

นิโรธุปปันนวาระ :-

[๗๔] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิด

ขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเกิดขึ้นแล้ว, จิตนั้นของบุคคลนั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 848

กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะเกิดขึ้นแล้ว แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังดับ, จิตในภังคขณะเกิดขึ้นแล้วด้วย กำลังดับด้วย.

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้ว ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทะขณะไม่ใช่กำลังดับ, แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นเกิด

ขึ้นแล้ว, จิตที่เป็นอดีตและจิตที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังดับด้วย ไม่ใช่

เกิดขึ้นแล้วด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เกิดขึ้นแล้ว จิตนั้นของบุคคล

นั้นไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

ใช่.

อุปปาทวาระ :-

[๗๕] จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคย

เกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 849

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

เคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตในอดีตไม่ใช่กำลังเกิด แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยเกิด, จิต

ในภังคขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่เคยเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะไม่ใช่เคยเกิดแต่จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลังเกิด,

จิตในภังคขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่เคยเกิดด้วยไม่ใช่กำลังเกิดด้วย.

จิตใดของบุคคลใดกำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่

ไหม?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลัง

เกิด ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดของบุคคล ไม่ใช่กำลังเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

จักเกิด ใช่ไหม ?

จิตในอนาคตไม่ใช่กำลังเกิด, แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นจักเกิด,

จิตในภังคขณะและจิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังเกิดด้วย ไม่ใช่จักเกิดด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 850

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังเกิด ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทะขณะไม่ใช่จักเกิด แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลัง

เกิด, จิตในภังคขณะและจิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักเกิดด้วย ไม่ใช่กำลัง

เกิดด้วย.

จิตใดของบุคคลใดเคยเกิด, แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นจักเกิด ใช่

ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยเกิด

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จัก

เกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่เคยเกิดแต่จิตนั้นของบุคคลนั้นจักเกิด จิต

ที่เป็นปัจจุบันไม่ใช่เคยเกิดด้วย ไม่ใช่จักเกิดด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่เคยเกิด ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักเกิด แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยเกิด, จิต

ที่เป็นปัจจุบันไม่ใช่จักเกิดด้วย ไม่ใช่เคยเกิดด้วย.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 851

นิโรธวาระ :-

[๗๖] จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคย

ดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดเคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลัง

ดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่เคย

ดับ ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับ แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยดับ,

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคต ไม่ใช่กำลังดับด้วย ไม่ใช่เคยดับ

ด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่เคยดับแต่จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลังดับ, จิต

ในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่เคยดับด้วย ไม่ใช่กำลังดับด้วย.

จิตใดของบุคคลใดกำลังดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักดับ ใช่

ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 852

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลังดับ

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จัก

ดับ ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่กำลังดับ แต่จิต

นั้นของบุคคลนั้นจักดับ, จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่กำลังดับด้วย ไม่ใช่จักดับ

ด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักไม่ดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่

กำลังดับ ใช่ไหม ?

จิตในภังคขณะไม่ใช่จักดับ แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นกำลัง

ดับ จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักดับด้วย ไม่ใช่กำลังดับด้วย.

จิตใดของบุคคลใดเคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นจักดับ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดจักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยดับ

ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 853

จิตใดของบุคคลใดไม่ใช่เคยดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้นไม่ใช่จัก

ดับ ใช่ไหม ?

จิตในอุปปาทขณะและจิตที่เป็นอนาคตไม่ใช่เคยดับ แต่จิตนั้น

ของบุคคลนั้นจักดับ, จิตในภังคขณะไม่ใช่เคยดับด้วย ไม่ใช่จักดับด้วย.

ก็หรือว่าจิตใดของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ, จิตนั้นของบุคคลนั้น

ไม่ใช่เคยดับ ใช่ไหม ?

จิตที่เป็นอดีตไม่ใช่จักดับ แต่จิตนั้นของบุคคลนั้นเคยดับ, จิต

ในภังคขณะไม่ใช่จักดับด้วย ไม่ใช่เคยดับด้วย.

ปุคคลธรรมวารนิทเทส จบ

มิสสกวารนิเทส

[๗๗] ในข้อที่ว่า จิตของบุคคลใด ท่านแสดงไว้โดยภาวะ

แห่งตนในข้อที่ว่า ในจิตใด และในจิตใดของบุคคลใด ท่านแสดงไว้

โดยอรรถอันเดียวกัน.

จิตมีราคะของบุคคลใด ฯลฯ กุศลธรรม อกุศลธรรม อัพยากต-

ธรรม สุขายเวทนายสัมปยุตตธรรม ทุกขายเวทนายสัมปยุตตธรรม

อทุกขมสุขายเวทนายสัมปยุตตธรรรม ฯลฯ สนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 854

อนิทัสสนสัปปฏิฆธรรม อนิทัสสนาปปฏิฆธรรม เหตุธรรม นเหตุ

ธรรม ฯลฯ สรณธรรม อรณธรรม. ธรรมเหล่านี้ จนถึงสรณธรรม

และอรณธรรม ย่อมถึงซึ่งความเป็นยมก ๓ คือ มูลยมก จิตตยมก

ธรรมยมก.

มิสสกวารนิทเทส จบ

จิตตยมก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 855

อรรถกถาจิตตยมก

มาติกาฐปนวาระ

บัดนี้ เป็นวรรณา เนื้อความแห่ง จิตตยมก ที่พระผู้มีพระภาค-

เจ้า ทรงรวบรวมไว้เป็นเอกเทสหนึ่งต่างหากด้วยสามารถแห่งธรรมทั้ง-

หลายเหล่านั้นนั่นแหละมีกุศลธรรมเป็นต้นที่ได้แสดงไว้แล้วในมูลยมก

แล้วจึงแสดงต่อจากอนุสยมก.

ในจิตตยมกนั้น เบื้องแรกพึงทราบบาลีววัตถานก่อน ในจิตต-

ยมกนี้ มี ๒ วาระ คือ

มาติกาฐปนวาระ -- วาระอันว่าด้วยการตั้งมาติกา

ฐปิตมาติกาวิสัชนาวาระ -- วาระอันว่าด้วยการวิสัชนมาติกา

ที่ตั้งไว้แล้ว.

ในมาติกาฐปนวาระนั้น ในเบื้องต้นมีสุทธิกมหาวาระอยู่ ๓

คือ : -

๑. การกำหนดหัวข้อ.

๒. หัวข้อ = อุเทส.

๓. นิทเทส.

* มาติกาฐปนวาระ คือ อุทเทส

วิสัชนาวาระ คือ นิทเทส

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 856

ปุคคลวาระ -- วาระอันว่าด้วยบุคคล

ธัมมวาระ -- วาระอันว่าด้วยธรรมะ

ปุคคลธัมมวาระ -- วาระอันว่าด้วยปุคคลธรรมวาระ

ในวาระทั้ง ๓ นั้น วาระใดแสดงประเภทแห่งธรรมมีการเกิด

และการดับเป็นต้นไป โดยยกบุคคลขึ้นแสดง อย่างนี้ว่า ยสฺส จิตฺต

อุปฺปชฺชติ น นิรุชฌฺติ แปลว่า จิตของบุคคลใด กำลังเกิด มิใช่

กำลังดับ ดังนี้เป็นต้น วาระนั้น ชื่อว่า ปุคคลวาระ.

วาระใดแสดงประเภทแห่งธรรมมีการเกิดและการดับเป็นต้นไป

โดยยกธรรมเท่านั้นขึ้นแสดง อย่างนี้ว่า ย จิตฺต อุปฺปชฺชติ น

นิรุชฺฌติ แปลว่า จิตใดกำลังเกิด มิใช่กำลังดับ ดังนี้เป็นต้น วาระนั้น

ชื่อว่า ธัมมวาระ.

วาระใดแสดงประเภทแห่งธรรมมีการเกิดและการดับเป็นต้นของ

จิตเป็นไป โดยยกบุคคลและธรรมขึ้นแสดง อย่างนี้ว่า ยสฺส ย จิตฺต

อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌติ แปลว่า จิตใดของบุคคลใด กำลังเกิด มิใช่

กำลังดับ ดังนี้เป็นต้น วาระนั้น ชื่อว่า ปุคคลธัมมวาระ.

ต่อจากนั้น อาศัยบท ๑๖ บท มีคำว่า ยสฺส สราค จิตฺต

แปลว่า จิตของบุคคลใดมีราคะ เป็นต้น จึงได้มิสสกวาระ ๔๘ วาระ

คือ :-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 857

ปุคคลวาระ ๑๖ วาระ

ธัมมวาระ ๑๖ วาระ

ปุคคลธัมมวาระ ๑๖ วาระ

มิสสกวาระเหล่านี้แปลกออกไปด้วย สราค บทเป็นต้น. มิสสกวาระ ๔๘

วาระ เหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้เพียงบทต้น คือ สราคบท

แล้วทรงย่อไว้.

ต่อจากนั้น อาศัยบทแห่งอภิธรรมมาติกา ๒๖๖ บท โดยนัยว่า

ยสฺส กุสลจิตฺต เป็นต้น จึงได้มิสสกวาระ ๗๙๘ วาระอีก คือ.-

ปุคคลวาระ ๒๖๖ วาระ

ธัมมวาระ ๒๖๖ วาระ

ปุคคลธัมมวาระ ๒๖๖ วาระ

วาระเหล่านี้แปลกออกไปด้วยกุศลบทเป็นต้น. แม้วาระเหล่านั้น พระองค์

ก็ทรงแสดงเพียงบทต้น คือ กุศลบทแล้วทรงย่อไว้เหมือนกัน, ในจิตต

ยมกนี้มีบทปุจฉาวิสัชนาทำนองเดียวกัน บทเหล่าใดไม่ประกอบด้วยจิต

บทเหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงถือเป็นโมฆะปุจฉา.

ก็บรรดาวาระทั้ง ๓ เหล่านั้น สุทธิกปุคคลมหาวาระ ซึ่ง

เป็นวาระแรก มีอันตวาระ ๑๔ วาระ คือ.-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 858

๑. อุปปาทนิโรธกาลสัมเภทวาระ (วาระว่าด้วยการปะ-

ปนกันแห่งกาลของอุปาทะและนิโรธะ)

๒. อุปปาทุปปันนวาระ (วาระว่าด้วย อุปปาทะ

และอุปปันะ)

๓. นิโรธุปปันนวาระ (วาระว่าด้วย นิโรธะและ

อุปปันนะ)

๔. อุปปาทวาระ (วาระว่าด้วย อุปปาทะ)

๕. นิโรธวาระ (วาระว่าด้วย นิโรธะ )

๖. อุปปาทนิโรธวาระ (วาระว่าด้วย อุปปาทะ

และนิโรธะ)

๗. อุปปัชชมานนิโรธวาระ (วาระว่าด้วย อุปัชช-

มานะและนิโรธะ)

๘. อุปปัชชมานุปปันนวาระ (วาระว่าด้วย อุปปัชช-

มานะและอุปปันนะ)

๙. นิรุชฌมานุปปันนวาระ (วาระว่าด้วย นิรุชฌมา

นะและอุปปันนะ)

๑๐. อุปปันนุปปาทวาระ (วาระว่าด้วย อุปปันนะ

และอุปปาทะ)

๑๑. อตีตานาคตวาระ (วาระว่าด้วย อดีตและ

อนาคต)

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 859

๑๒. อุปปันนุปปัชชมานวาระ (วาระว่าด้วย อุปปันนะ

อุปปัชชมานะ)

๑๓. นิรุทธนิรุชฌมานวาระ (วาระว่าด้วย นิรุทธะและ

นิรุธฌมานะ)

๑๔. อติกกันตกาลวาระ (วาระว่าด้วย กาลที่ก้าว

ล่วง)

บรรดา อันตรวาระ ๑๔ วาระ เหล่านั้น ใน ๓ วาระเหล่านี้ คือ

อุปปาทวาระ นิโรธวาระ อุปปาทนิโรธวาระ โดยอาศัยอนุโลมและ

ปฏิโลม จึงมีวาระ ๖ คู่ รวมเป็น ๑๘ คู่ ( ๑๘ ยมก ). ใน

อุปปันนุปปาทวาระ ได้ยมก ๔ ( ๔ คู่ ) คือ โดยอนุโลม ๒

ปฏิโลม ๒ โดยอาศัยกาลอันเป็นอดีตและอนาคต. ในวาระ ๑๐ คือ

๓ วาระที่เหลือที่ทรงแสดงไว้ข้างต้น ๓ วาระที่แสดงไว้ในระหว่าง และ

๔ วาระที่แสดงแล้ว คือ วาระที่ ๗, ๘, ๙ และวาระสุดท้าย โดย

อนุโลม ๑ ปฏิโลม ๑ กระทำเป็น ๒ ส่วน จึงเป็นยมก ๒๐ ( ๒๐

คู่ ).

ในอันตรวาระทั้ง ๑๔ วาระแม้ทั้งหมด กำหนดไว้ด้วยปุจฉา

๘๔ จัดเป็นยมกได้ ๔๒ มีอรรถ ๑๖๘ ด้วยประการฉะนี้.

ยมก ๑๒๖ ย่อมมีในมหาวาระทั้ง ๓ คือ สุทธิกปุคคลวาระ สุทธิก-

ธัมมวาระ สุทธิกปุคคลธัมมวาระ อนึ่ง ในสุทธิกปุคคลวาระ มีได้

ฉันใด ในสุทธิกธัมมวาระ และสุทธิกปุคคลธัมมวาระ ก็มีได้ฉันนั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 860

บัณฑิตพึงทราบคำปุจฉาเป็นทวีคูณแต่ยมก และอรรถเป็นทวี

คูณแต่ปุจฉานั้น. ก็ในจิตตยมกนี้ มียมกหลายพัน โดยเอาวาระทั้ง ๓

นี้ คูณด้วยบท ๑๖ บท ด้วยอำนาจสราคบทเป็นต้น และคูณด้วย

๒๖๖ บท ด้วยอำนาจกุศลบทเป็นต้น ฯ ก็พระบาลีท่านย่อไว้ว่า ตโต

ทิคุณา ปุจฺฉา ตโต ทิคุณา อตฺถา จ โหนฺติ แปลว่า ปุจฉา

ทวีคูณแต่ยมกนั้น อรรถ ( วิสัชนา ) ก็ทวีคูณแต่ปุจฉานั้น ดังนี้

บัณฑิตพึงทราบการกำหนดบาลีในจิตตยมกนี้ก่อน ดังพรรณนามา

ฉะนี้.

มาติกาฐปนวาระ จบ

วิสัชนาวาระ ( นิทเทส )

บัดนี้ เพื่อทรงวิสัชนาบทมาติกาโดยลำดับตามที่ตั้งไว้ พระผู้มี

พระภาคเจ้าจึงทรงเริ่ม คำว่า ยสฺส จิตฺต อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌติ

ตสฺส จิตฺต นิรุชฺฌิสฺสติ เป็นต้น.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อุปฺปชฺชติ แปลว่า กำลังเกิด

เพราะถึงพร้อมด้วยอุปปาทขณะ. บทว่า น นิรุชฺฌติ แปลว่า มิใช่

กำลังดับ เพราะยังไม่ถึงนิโรธขณะ. สองบทว่า ตสฺส จิตฺตสฺส ความว่า

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า จำเดิมแต่นั้น จิตของบุคคลนั้น จักดับ

จักไม่เกิดใช่ไหม ดังนี้. สองบทว่า เตส จิตฺต ความว่า อุปปาทขณะ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 861

แห่งจุติจิตของดวงสุดท้ายของจิตทั้งหมด ของพระขีณาสพเหล่าใด ผู้มี

วัฏฏทุกข์อันขาดแล้ว กำลังเป็นไป จุติจิตนั้นนั่นแหละ ของพระ-

ขีณาสพเหล่านั้น ชื่อว่า กำลังเกิดเพราะถึงอุปาทะ มิใช่กำลังดับเพราะ

ยังไม่ถึงภังคขณะ. แต่บัดนี้ จิตของพระขีณาสพเหล่านั้น ชื่อว่า จักดับ

เพราะถึงภังคขณะ. ต่อจากนั้น จิตอื่น ชื่อว่า จักไม่เกิดขึ้นเพราะมิได้

ทำปฏิสนธิ. บทว่า อิตเรส ได้แก่ จิตของพระเสกขะและปุถุชน

ที่เหลือเว้นพระขีณาสพผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต. สองบทว่า นิรุชฺฌิสฺ-

สติ เจว อุปฺปชฺชิสฺสติ จ ความว่า จิตนั้นใด ถึงอุปปาทขณะ

จิตนั้นนั่นแหละ จักดับไป. ส่วนจิตอื่น จักเกิดด้วย จักดับด้วย ใน

อัตภาพนั้น หรือว่าในอัตตภาพอื่น เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาค-

เจ้าทรงหมายเอาจิตของพระขีณาสพนั้นนั่นแหละ. ในปุจฉาวิสัชนาที่ ๒

จึงตรัสว่า อามันตา ดังนี้. สองบทว่า นุปฺปชฺชติ นิรุชฺฌิสฺสติ

ได้แก่ ปัจฉิมจิตของพระอรหันต์ในภังคขณะบ้าง จิตที่กำลังดับของบุคคล

ที่เหลือบ้าง. ก็จำเดิมแต่จิตนั้นมา ใคร ๆ อาจกล่าวว่า จิตของพระ-

อรหันต์จักไม่ดับก่อน แต่ไม่อาจกล่าวว่าจักเกิด. ใคร ๆ อาจกล่าวว่า

จิตของบุคคลที่เหลือ จักเกิด จักไม่อาจกล่าว่า จักไม่ดับ. เพราะฉะนั้น

พระองค์จึงทรงปฏิเสธว่า โน ดังนี้.

ในทุติยปัญหา จิตของบุคคลใด จักไม่ดับ แต่จักเกิด บุคคล

นั้นแหละมิได้มี เพราะฉะนั้น พระองค์จึงทรงห้ามด้วยคำว่า นตฺถิ

( ปฏิกเขปวิสัชนา) ดังนี้.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 862

คำว่า อุปฺปนฺน นี้ เป็นชื่อของจิตที่ถึงพร้อมด้วยการเกิด อีก

อย่างหนึ่ง เป็นชื่อของจิตที่ถึงอุปาทะแล้วยังไม่ดับไป. ในวาระนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอาจิตที่ถึงพร้อมด้วยอุปาทะจึงตรัสว่า อา-

มันตา. คำว่า เตส จิตฺต อุปฺปนฺน พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสหมาย

เอาจิตที่ตั้งอุปาทะแล้วยังไม่ดับไป. คำว่า อนุปฺปนฺน ได้แก่ ยังไม่ถึง

อุปปาทะ. ในคำว่า เตส จิตฺต อุปฺชฺชิตฺถ นี้ ความว่า จิตของ

บุคคลทั้งหมดเป็นปัจจุบันขณะก่อนนั่นแหละ ชื่อว่า เคยเกิดแล้ว

เพราะล่วงแล้วซึ่งอุปาทขณะ.

คำว่า อุปฺปชฺชิตฺถ เจว อุปฺปชฺชติ จ อธิบายว่า ชื่อว่า

อุปฺปชฺชิตฺถ เคยเกิด เพราะถึงแล้วซึ่งอุปาทขณะ ชื่อว่า อุปฺปชฺชติ

กำลังเกิด เพราะยังไม่ล่วงอุปาทขณะ เพราะความที่บุคคลผู้เข้าถึง

นิโรธสมาบัติ จิตเคยเกิดขึ้นแล้ว ในกาลก่อนแต่นิโรธ (และ)

เพราะอสัญญสัตตบุคคล (จิต) เคยเกิดขึ้นแล้วในสัญญีภพ.

คำว่า อุปาทกฺขเณ อนาคตฺจ ได้แก่ จิตในอุปาทขณะ

และจิตในอนาคต.

วิสัชนาวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 863

อติกกันตกาลวาระ

ในอติกกันตกาลวาระ คำว่า อุปฺปชฺชมาน ขณ ได้แก่ อุปาท-

ขณะ. ในวาระนั้น อุปาทขณะ ไม่ชื่อว่ากำลังมีอยู่แม้ก็จริง ถึงอย่างนั้น

พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสอย่างนั้นเพราะเป็นขณะของจิตกำลังเกิด. คำว่า

ขณ วีติกฺกนฺต อติกฺกนฺตกาล อธิบายว่า ก็อุปาทขณะนั้นนั่นแหละ.

ก้าวล่วงแล้วไม่นาน เป็นจิตก้าวล่วงแล้ว จึงนับว่ามีกาลอันก้าวล่วงแล้ว

( อติกฺกนฺตกาล ). คำว่า นิรุชฺฌมาน ขณ ได้แก่ นิโรธขณะ. ใน

คำนั้น นิโรธขณะไม่ชื่อว่ากำลังมีอยู่แม้ก็จริง ถึงอย่างนั้น ก็ตรัสอย่าง

นั้น เพราะเป็นขณะของจิตที่กำลังดับ. คำว่า ขณ วีติกฺกนฺต อติกฺ-

กนฺตกาล ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมตรัสถามว่า จิตของบุคคล

นั้น เป็นจิตก้าวล่วงแม้นิโรธขณะอย่างนี้ย่อมชื่อว่า มีกาลก้าวล่วงแล้ว

ใช่ไหม. ในข้อนั้น เพราะจิตในภังคขณะ ก้าวล่วงอุปาทขณะแล้ว

นับว่ามีกาลก้าวล่วงแล้ว เมื่อจิตก้าวล่วงนิโรธขณะแล้ว ก็ย่อมชื่อว่า มี

กาลก้าวล่วงแล้ว ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงวิสัชนาว่า ในภังค

ขณะ จิตก้าวล่วงอุปาทขณะ. แต่ไม่ก้าวล่วงภังคขณะ จิตที่เป็นอดีต

ก้าวล่วงอุปาทขณะด้วย ก้าวล่วงภังคขณะด้วย ดังนี้.

ในการวิสัชนาปัญหาที่ ๒ เพราะจิตในอดีตก้าวล่วงขณะ

แม้ทั้งสอง จึงชื่อว่ามีกาลก้าวล่วงแล้ว ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึง

ตรัสว่า อตีต จิตฺต ดังนี้.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 864

ในการวิสัชนาปฏิโลมปัญหา ก็เพราะจิตในอุปาทขณะและจิต

ในอนาคต เป็นจิตก้าวล่วงขณะแม้ทั้งสอง* คืออุปาทขณะและภังคขณะ

แต่ไม่ชื่อว่า มีกาลก้าวล่วงแล้ว เพราะความที่ขณะเหล่านั้นยังไม่ก้าว

ล่วงไป ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า อุปฺปาทกฺขเณ จิตฺต

อนาคต จิตฺต ดังนี้. ในการวิสัชนาปัญหาที่สองปรากฏชัดแล้ว พึ่ง

ทราบเนื้อความในการวิสัชนาปัญหาทั้งปวงแม้ในธัมมวาระ โดยอุบายนี้

แหละ.

ปุคคลธัมมวาระ ก็มีคติอย่างธัมมวาระนั้นแหละ มิสสกวาระ

แม้ทั้งหมด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงย่อไว้เพียงหัวข้อ โดยนัยว่า

ยสฺส สราค จิตฺต เป็นต้น. ส่วนความพิสดาร บัณฑิตพึงทราบโดย

นัยที่กล่าวในหนหลังนั้นแหละ. ก็ในวาระเหล่านั้น ย่อมมีปุจฉาเช่น

เดียวกัน โดยที่เป็นปัญหาพึงให้พิสดาร อย่างนี้ว่า ยสฺส สราค จิตฺต

อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌติ ตสฺส จิตฺต นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสติ

เป็นต้น แปลว่า จิตมีราคะของบุคคลใด กำลังเกิด มิใช่กำลังดับ จิตของ

*ข้อความที่ว่า " เป็นจิตก้าวล่วงขึ้นแม้ทั้งสอง แต่ไม่ชื่อว่ามีกาลก้าวล่วง

แล้ว " ใจความขัดกัน เพราะจิตในอุปาทขณะและจิตในอนาคต ยังไม่ก้าวล่วง

ขณะทั้งสอง คืออุปาทขณะและภังคขณะแต่ก็ต้องแปลตามบาลีอรรถกถาหน้า

๔๔๒ บรรทัดนี้ ๑๒ ที่ว่า อุปฺปาทกฺขเณ จ จิตฺต อนาคตญฺจ จิตฺต อุโภปิ ขเณ

(พม่าเพิ่ม ขณ ข้างหลัง ขเณ ด้วย ) วีติกฺกนฺตี หุตฺวา อติกฺกนฺตถาล นาม

น โหติ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 865

บุคคลนั้นจักดับ จักไม่เกิด ใช่ไหม. แต่เพราะจิตมีราคะ. มิใช่ปัจฉิม

จิต ฉะนั้น การวิสัชนาจึงชื่อว่า ไม่เหมือนกัน เพราะปัญหาว่า จิตมี

ระคะของบุคคลใด กำลังเกิด มิใช่กำลังดับ จิตของบุคคลนั้น จักดับ จัก

ไม่เกิด ใช่ไหม ดังนี้ ท่านให้คำวิสัชนาว่า โน ดังนี้ ด้วยประการฉะนี้

วิสัชนาปัญหานั้น ๆ พึงทราบตามความเหมาะสมกับปุจฉานั้น ฯ ดังนี้แล.

อติกกันตกาลวาระ จบ

อรรถกถาจิตยมก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 866

ธรรมยมก

ปัณณัตติวารุทเทส

อุเทสวาระ

ปทโสธนวาระ อนุโลม :-

[๗๘] กุศลชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ? กุศลธรรมชื่อว่ากุศล

ใช่ไหม ? อกุศลชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ? อกุศลธรรมชื่อว่าอกุศล

ใช่ไหม ? อัพยากตะชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ? อัพยากตธรรม

ชื่อว่าอัพยากตะ ใช่ไหม ?

ปทโสธนวาระ ปฏิโลม :-

[๗๙] ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่กุศล

ธรรม ไม่ชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่อกุศลธรรม

ไม่ชื่อว่าอกุศล ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่

อัพยากตธรรม ไม่ชื่อว่าอัพยากตะ ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 867

ปทโสธนมูลจักกวาระ อนุโลม :-

[๘๐] กุศลชื่อว่ากุศลธรรมใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอกุศลธรรม

ใช่ไหม ?

กุศลชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่

อกุศลชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่า กุศลธรรม ใช่

ไหม ?

อกุศลชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอัพยากตธรรม

ใช่ไหม ?

อัพยากตะชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่ากุศลธรรม

ใช่ไหม ?

อัพยากตะชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอกุศล

ธรรม ใช่ไหม ?

ปทโสธนมูลจักกวาระ ปฏิโลม :-

[๘๑] ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม

ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่

ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 868

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่

ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่

ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม

ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม

ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

สุทธธัมมวาระ อนุโลม :-

[๘๒] กุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

อกุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอกุศล ใช่ไหม ?

อัพยากตะชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอัพยากตะ ใช่ไหม ?

สุทธธัมมวาระ ปฏิโลม :-

[๘๓] ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่

ชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่า

อกุศล ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 869

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่า

อัพยากตะ ใช่ไหม ?

สุทธธัมมมูลจักกวาระ อนุโลม :-

[๘๔] กุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอกุศล ใช่ไหม ?

กุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอัพยากตะ ใช่ไหม ?

อกุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

อกุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอัพยากตะ ใช่ไหม ?

อัพยากตะชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

อัพยากตะชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ธรรมชื่อว่าอกุศล ใช่ไหม ?

สุทธธัมมมูลจักกวาระ ปฏิโลม :-

[๘๕] ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่

ชื่อว่าอกุศล ใช่ไหม ?

ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่า

อัพยากตะ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่า

กุศล ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 870

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่า

อัพยากตะ ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่

ชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ? ไม่ใช่ธรรม ไม่

ชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

ปัณณัตติวารุทเทส จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 871

ปัณณัตติวาระนิทเทส

ปทโสธนวาระ อนุโลม :-

[๘๖] กุศลชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

กุศลธรรมชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

ใช่.

อกุศลชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

อกุศลธรรมชื่อว่าอกุศล ใช่ไหม ?

ใช่.

อัพยากตะ ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

อัพยากตธรรม ชื่อว่าอัพยากตะ ใช่ไหม ?

ใช่.

ปทโสธนวาระ ปฏิโลม :-

[๘๗] ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 872

ใช่.

ไม่ใช่กุศลธรรม ไม่ชื่อว่ากุศล ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อกุศลธรรม ไม่ชื่อว่าอกุศล ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อัพยากตธรรม ไม่ชื่อว่าอัพยากตะ ใช่ไหม ?

ใช่.

ปทโสธนมูลจักกวาระ อนุโลม :-

[๘๘] กุศลชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

อกุศลธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอกุศลธรรมด้วย ธรรมที่

เหลือไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม.

กุศลชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 873

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

อัพยากตธรรมชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอัพยากตธรรมด้วย ธรรม

ที่เหลือไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม.

อกุศลชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

กุศลธรรมชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่ากุศลธรรม ธรรมที่เหลือไม่

ชื่อว่ากุศลธรรม.

อกุศลชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

อัพยากตธรรมชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอัพยากตธรรมด้วย ธรรม

ที่เหลือไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม.

อัพยากตะชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

กุศลธรรมชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่ากุศลธรรมด้วย ธรรมที่เหลือ

ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 874

อัพยากตะชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

อกุศลธรรมชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอกุศลธรรมด้วย ธรรมที่

เหลือไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม.

ปทโสธนมูลจักกวาระ ปฏิโลม :-

[๘๙] ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 875

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

สุทธธัมมวาระ อนุโลม :-

[๙๐] กุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

กุศลธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่ากุศลธรรมด้วย ธรรมที่

เหลือ ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 876

อกุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

อกุศลธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอกุศลธรรมด้วย ธรรมที่

เหลือ ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม.

อัพยากตะชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

อัพยากตธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอัพยากตธรรมด้วย ธรรม

ที่เหลือ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม.

สุทธธัมมวาระ ปฏิโลม :-

[๙๑] ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นกุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม และธรรมที่เหลือ

เว้นกุศลด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่ากุศลด้วย ไม่ชื่อว่าธรรมด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นอกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม และธรรมที่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 877

เหลือ เว้นอกุศลด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่าอกุศลด้วย ไม่ชื่อว่าธรรม

ด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นอัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม และธรรม

ที่เหลือ เว้นอัพยากตะด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่าอัพยากตะด้วย ไม่

ชื่อว่าธรรมด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

สุทธธัมมจักกวาระ อนุโลม :-

[๙๒] กุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

อกุศลธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอกุศลธรรมด้วย ธรรมที่

เหลือ ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม.

กุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 878

ธรรมชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

อัพยากตธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอัพยากตธรรมด้วย ธรรม

ที่เหลือ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม.

อกุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

กุศลธรรม ชื่อว่า ธรรมด้วย ชื่อว่ากุศลธรรม ธรรมที่เหลือ

ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม.

อกุศลชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

อัพยากตธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอัพยากตธรรมด้วย ธรรม

ที่เหลือ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม.

อัพยากตะชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ธรรมชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

กุศลธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่ากุศลธรรมด้วย ธรรมที่

เหลือ ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม.

อัพยากตะชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 879

ใช่.

ธรรมชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

อกุศลธรรม ชื่อว่าธรรมด้วย ชื่อว่าอกุศลธรรมด้วย ธรรมที่

เหลือ ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม.

สุทธธัมมจักกวาระ ปฏิโลม :-

[๙๓] ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นกุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม และธรรมที่เหลือ

เว้นกุศลด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่ากุศลด้วย ไม่ชื่อว่าธรรมด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่กุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นกุศล ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม และธรรมที่เหลือ

เว้นกุศลด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่ากุศลด้วย ไม่ชื่อว่า ธรรมด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นอกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม และธรรมที่เหลือ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 880

เว้นอกุศลด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่าอกุศลด้วย ไม่ชื่อว่าธรรมด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อกุศล ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นอกุศล ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม และธรรมที่

เหลือ เว้นอกุศลด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่าอกุศลด้วย ไม่ชื่อว่าธรรม

ด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นอัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม และ

ธรรมที่เหลือ เว้นอัพยากตะด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่าอัพยากตะด้วย

ไม่ชื่อว่าธรรมด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่ชื่อว่ากุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ไม่ใช่อัพยากตะ ไม่ชื่อว่าธรรม ใช่ไหม ?

ธรรมที่เหลือ เว้นอัพยากตะ ไม่ชื่อว่าอัพยากตธรรม และ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 881

ธรรมที่เหลือ เว้นอัพยากตะด้วย ธรรมด้วย ไม่ชื่อว่าอัพยากตะด้วย

ไม่ชื่อว่าธรรมด้วย.

ไม่ใช่ธรรม ไม่ชื่อว่าอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

นิทเทสวาระ จบ

ปัณณัตติวาระนิทเทส จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 882

ปัจจุปปันนวาระ

ใน

ปวัตติอุปปาทวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๙๔] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

[๙๕] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต กุศลธรรมกำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน

ปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต กุศลธรรมด้วย อัพยากต

ธรรมด้วยกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 883

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น. ในปัญจโวการภูมิ

ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมด้วย กุศลธรรมด้วยกำลัง

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๙๖] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อกุศลธรรมกำลังเกิด

แก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น,

ในปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อกุศลธรรมและ

อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด อกุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในปัญจโวการ

ภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากตธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 884

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๙๗] กุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็กำลังเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็กำลังเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

[๙๘] กุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็กำลัง

เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็กำลัง

เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมกำลังเกิดในภูมินั้น แต่กุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิ

ก็ดี อัพยากตธรรมด้วย กุศลธรรมด้วย กำลังเกิดในภูมินั้น.

[๙๙] อกุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็กำลัง

เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 885

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมกำลังเกิดในภูมินั้น แต่อกุศล

ธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย กำลังเกิดในภูมินั้น.

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๐๐] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

[๑๐๑] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต

ธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต กุศลธรรมกำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น, ในปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต กุศลธรรม

ด้วย อัพยากตธรรมด้วย กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล

ธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 886

กุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่า-

นั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ในปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมด้วย

กุศลธรรมด้วยกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๐๒] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อกุศลธรรมกำลังเกิด

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, ในปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต

อกุศลธรรมด้วย อัพยากตธรรมด้วยกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น ในปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากต

ธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 887

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๑๐๓] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น แต่อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะ

แห่งจิตก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตและอกุศลวิปปยุตตจิต

ก็ดี เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะ

แห่งจิตก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตและกุศลวิปปยุตตจิต

ก็ดี เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมด้วย กุศลธรรมด้วยไม่ใช่กำลังเกิดแก่

บุคคล เหล่านั้น.

[๑๐๔] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 888

กุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, เมื่อบุคคล

เหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี ใน

อรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิตก็ดี กุศลธรรมด้วย อัพยากตธรรม

ด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น เมื่อ

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิตก็ดี อัพยากตธรรมด้วย

กุศลธรรมด้วยไม่ใช่กำลังเกิดแก่ บุคคลเหล่านั้น.

[๑๐๕] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น เมื่อบุคคล

เหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี ใน

อรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิตก็ดี อกุศลธรรมด้วย อัพยากต -

ธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 889

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากตธรรมไม่ใช่

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล

ก็ดี ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิตก็ดี อัพยากตธรรมด้วย

อกุศลธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๐๖] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด กุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๐๗] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

กำลังเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 890

ไม่มี.

[๑๐๘] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

กำลังเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๐๙] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี, ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตและอกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญ-

สัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 891

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตและกุศลวิปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตต

ภูมิก็ดี อกุศลธรรมด้วย กุศลธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๑๐] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตใน

ปวัตติกาลก็ดี ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิตก็ดี อกุศลธรรม

ด้วย อัพยากตธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด,

กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมไม่ใช่

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แก่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังค-

ขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต

อัพยากตธรรมด้วย กุศลธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 892

ในภูมินั้น.

[๑๑๑] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น, เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายอยู่ก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตใน

ปวัตติกาลก็ดี ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิตก็ดี อกุศลธรรม

ด้วย อัพยากตธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากตธรรมไม่ใช่

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แก่อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะ

แห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี ในอรูปภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิตก็ดี

อัพยากตธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 893

อตีตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๑๑๒] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคยเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๑๓] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็เคย

เกิดบุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๑๔] อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็เคย

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคย

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 894

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๑๕] กุศลธรรมเคยเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็เคยเกิดใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็เคยเกิดใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๑๖] กุศลธรรมเคยเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็เคยเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็เคยเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมเคยเกิดในภูมินั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่เคยเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมด้วย กุศลธรรมด้วย เคยเกิดในภูมินั้น.

[๑๑๗] อกุศลธรรมเคยเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็เคย

เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็เคยเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 895

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมเคยเกิดในภูมินั้น แต่อกุศล

ธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย เคยเกิดในภูมินั้น.

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๑๘] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด กุศลธรรมก็

เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่ออกุศลจิตดวงที่ ๒ เป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาส-

ภูมิ อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่

ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลนอกจากนี้ คือผู้เกิดอยู่

ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี อกุศลธรรมด้วย กุศลธรรม

ด้วย เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๑๙] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูนินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

๑. โลภชวนะดวงที่ ๒.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 896

เมื่อจิตดวงที่ ๒ เป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้นแต่กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

บุคคลนอกจากนี้ คือ ผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมด้วย กุศลธรรมด้วย เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๒๐] อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อจิตดวงที่ ๒ เป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แก่กุศลธรรมไม่ใช่เคยแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลนอกจากนี้ คือผู้เกิดอยู่ในจตุโวหารภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจ-

โวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย เคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๑๒๑] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

๑. ทุติยจิต คือ ปฐมภวังค์.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 897

ไม่มี.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่

ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๑๒๒] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๑๒๓] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๒๔] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 898

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๒๕] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่

ใช่เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๑๒๖] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๒๗] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 899

เมื่ออกุศลจิตดวงที่ ๒ เป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาส-

ภูมิ กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรม

เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อจิตดวงที่ ๒ เป็นไปอยู่แก่

บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี

กุศลธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๒๘] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อจิตดวงที่ ๒ เป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น, บุคคลผู้กำลังเกิดอยู่ใน ( ผู้เข้าถึงซึ่ง ) สุทธาวาสภูมิ กุศลธรรม

ด้วย อัพยากตธรรมด้วย ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๒๙] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

๑. โลภชวนะดวงที่ ๒. ๒. ทุติยจิต คือ ปฐมภวังค์.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 900

กตธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อจิตดวงที่ ๒ เป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น, บุคคลผู้กำลังเกิดอยู่ใน ( เข้าถึงซึ่ง ) สุทธาวาสภูมิ อกุศลธรรม

ด้วย อัพยากตธรรมด้วย ไม่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

อนาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๑๓๐] กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในระหว่างจิตใด กุศลธรรมจัก

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น,

บุคคลอื่นนอกจากนี้ กุศลธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย จักเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด} กุศลธรรมก็จักเกิดแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 901

ใช่.

[๑๓๑] กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จักเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็จักเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้น, บุคคลอื่นนอกจากนี้ อัพยากตธรรมด้วย กุศลธรรม

ด้วย จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๑๓๒] อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อัพยากตธรรม

จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น,

๑. ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อคฺคมคฺค - อรหัตมรรคที่เกิดต่อจากโวทานในมรรค

วิถี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 902

บุคคลอื่นนอกจากนี้ อัพยากตธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย จักเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๓๓] กุศลธรรมจักเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็จักเกิดใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็จักเกิดใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๓๔] กุศลธรรมจักเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็จักเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็จักเกิดใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิอัพยากตธรรมจักเกิดในภูมินั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่จักเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยา-

กตธรรมด้วย กุศลธรรมด้วย จักเกิดในภูมินั้น.

[๑๓๕] อกุศลธรรมจักเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็จักเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 903

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็จักเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิอัพยากตธรรมจักเกิดในภูมินั้น แต่อกุศลธรรม

ไม่ใช่จักเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยา-

กตธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย จักเกิดในภูมินั้น.

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๓๖] กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้

อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคล

อื่นนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิ

ก็ดี กุศลธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

๑. จิตใด - โวทานจิตในอรหัตมรรควิถี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 904

[๑๓๗] กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งลายก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น, บุคคลอื่นนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ใน

ปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมด้วย กุศลธรรมด้วย จักเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๓๘] อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด อัพยากตธรรมจักเกิด

๑. ขณะที่อรหัตมรรคกำลังเกิด.

๒. โวทานจิต ในอรหัตมรรควิถี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 905

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น, บุคคลอื่นนอกจาก คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี

ในปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมด้วย อกุศลธรรมด้วย จักเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๑๓๙] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด อกุศลธรรม

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมจักเกิดขึ้นแก่บุคคลเหล่า-

นั้น, บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

อกุศลธรรมด้วย กุศลธรรมด้วย ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๑๔๐] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

๑. จิตใด - โวทานจิต ในอรหัตมรรควิถี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 906

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมจักเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้น บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต กุศลธรรมด้วย อัพยา-

กตธรรมด้วย ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๔๑] อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในระหว่างแห่งจิตใด อกุศลธรรมไม่ใช่

จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น,

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต อกุศลธรรมด้วย อัพยากตธรรมด้วย

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็จักไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

๑. จุติจิตของพระอรหันต์.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 907

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๔๒] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๔๓] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่

ใช่จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๑๔๔] อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 908

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๔๕] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในระหว่างแห่งจิตใด อกุศลธรรม

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์

ทั้งหลายก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมด้วย

กุศลธรรมด้วย ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๔๖] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลผู้เกิดในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคล

ผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต กุศลธรรมด้วย อัพยากตธรรมด้วย ไม่ใช่

จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 909

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๔๗] อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในระหว่างแห่งจิตใดก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่

ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น แต่อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลผู้ถึง

พร้อมด้วยปัจฉิมจิต อกุศลธรรมด้วย อัพยากตธรรมด้วย จักไม่เกิด

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ปัจจุปปันนาตีตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๑๔๘] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคย

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 910

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น. ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศล-

ธรรมก็เคยเกิด กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๑๔๙] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็เคย

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศล

ธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต

อัพยากตธรรมก็เคยเกิด กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 911

[๑๕๐] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต

อัพยากตธรรมก็เคยเกิด อกุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๕๑] กุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๕๒] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 912

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น. ในอุปปาท-

ขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรมก็เคยเกิด กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๕๓] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรม

ก็เคยเกิด กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๕๔] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 913

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากตธรรม

ก็เคยเกิด อกุศลธรรมก็กำลังเกิดแต่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๑๕๕] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่

ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๑๕๖] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 914

เคยเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๑๕๗] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๕๘] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๕๙] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 915

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น แต่อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อทุติยจิต

กำลังเป็นไปอยู่แก่สุทธาวาสพรหมก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

ก็ดี กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อกุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๖๐] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่

ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิ กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 916

[๑๖๑] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะของ

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้กำลังเกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ปัจจุปปันนานาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๑๖๒] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี กุศลธรรม

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่า

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 917

นั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิของบุคคลนอกนี้ กุศลธรรมก็กำลัง

เกิด อกุศลธรรมก็จัดเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศล

ธรรมก็จักเกิด กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๑๖๓] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้

เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลจิต อัพยากตธรรมก็จักเกิด กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 918

[๑๖๔] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้

เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่

อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งอกุศล

จิต อัพยากตธรรมก็จักเกิด อกุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๖๕] กุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๖๖] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี กุศลธรรมกำลัง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 919

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิตของบุคคลนอกนี้

กุศลธรรมก็กำลังเกิด อกุศลธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ใน

อุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรมก็จักเกิด กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๖๗] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพ-

ยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลัง

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากต-

ธรรมก็จักเกิด กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 920

[๑๖๘] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต

อัพยากตธรรมก็จักเกิด อกุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๑๖๙] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติก็ดี บุคคลผู้เกิด

อยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรค

ก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับ

แห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 921

อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นถึง อกุศลธรรม

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น,

ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใด

จักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิด กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๑๗๐] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้

เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิม-

จิต กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 922

ใช่.

[๑๗๑] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคล

ผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้นแต่อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจ-

ฉิมจิต อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๗๒] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, ฯลฯ

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๗๓] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 923

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ใน

ภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใด

จักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี บุคคล

ผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี อกุศลธรรม

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์

ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังค-

ขณะแห่งจิตนั้นก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่จักเกิด กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๗๔] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 924

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศล

กรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมจัก

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต กุศล

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๗๕] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในอุปปาท-

ขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี

อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากต-

ธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต

อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 925

อตีตานาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๑๗๖] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ก็ดี กุศลธรรมเคยเกิด

แก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล

นอกนี้ กุศลธรรมก็เคยเกิด อกุศลธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๗๗] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต กุศลธรรมเคยเกิด แต่อัพยากต-

ธรรมไม่ใช่จักเกิด, บุคคลนอกนี้ กุศลธรรมก็เคยเกิด อัพยากตธรรม

ก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

๑. อรหัตมรรคจักเกิดต่อจากโวทานจิตในอรหัตมรรควิถี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 926

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยเกิด

แก่บุคคลนั้น, ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๗๘] อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล

นอกจากนี้ อกุศลธรรมก็เคยเกิด อัพยากตธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคย

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๗๙] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, ฯลฯ

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๘๐] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 927

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กุศลธรรมเคยเกิด

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น บุคคลนอกนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี

เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี กุศลธรรมก็เคยเกิด อกุศลธรรมก็จักเกิด

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรทก็

เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ

อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่เคย

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ใน

จตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็จักเกิด

กุศลธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๘๑] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 928

ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี กุศลธรรมก็เคยเกิด อัพยากตธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิด

อยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็จักเกิด กุศลธรรมก็เคยเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๘๒] อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยปัจฉิมจิต อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี

ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็เคยเกิด อัพยากตธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 929

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่

ในปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็จักเกิด อกุศลธรรมก็เคยเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๑๘๓] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

[๑๘๔] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 930

เคยเกิด.

[๑๘๕] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม.

เคยเกิด.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๘๖] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๑๘๗] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ

กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, แต่อกุศลธรรมจัก

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิด อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 931

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่

จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูนินั้น แต่กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จัก

เกิด กุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๘๘] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

[๑๘๙] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักเกิด.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

อุปปาทวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 932

๒. นิโรธวาระ

ปัจจุปปันนวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๑๙๐] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

[๑๙๑] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งกุศลจิตในอรูปภูมิ กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคล

เหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะ

แห่งกุศลจิตในปัญจโวการภูมิ กุศลธรรมก็กำลังดับ อัพยากตธรรมก็

กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลัง

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 933

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่ง

วิปปยุตตจิในปวัตติกาลก็ดี อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งกุศลจิต

ในปัญจโวการภูมิ อัพยากตธรรมก็กำลังดับ กุศลธรรมก็กำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้น.

[๑๙๒] อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในอรูปภูมิ อกุศลธรรมกำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ใน

ภังคขณะแห่งอกุศลจิตในปัญจโวการภูมิอกุศลธรรมก็กำลังดับ อัพยากต-

ธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เมื่อบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งอกุศล

วิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งอกุศล-

จิตในปัญจโวการภูมิ อัพยากตธรรมก็กำลังดับ อกุศลธรรมก็กำลังดับ

แก่บุคคลเหล่านั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 934

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๙๓] กุศลธรรมกำลังดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็กำลังดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็กำลังดับใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๑๙๔] กุศลธรรมกำลังดับในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็กำลัง

ดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็กำลังดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมกำลังดับในภูมินั้น แต่กุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญญจโวการภูมิ

ก็ดี อัพยากตธรรมก็กำลังดับ กุศลธรรมก็กำลังดับในภูมินั้น.

[๑๙๕] อกุศลธรรมกำลังดับในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็กำลัง

ดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 935

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็กำลังดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมกำลังดับในภูมินั้น แต่อกุศล

ธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญญจโวการภูมิ

ก็ดี อัพยากตธรรมก็กำลังดับ อกุศลธรรมก็กำลังดับในภูมินั้น.

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๑๙๖] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

[๑๙๗] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งกุศลจิตในอรูปภูมิ กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งกุศลจิตในปัญจโวการภูมิ กุศลธรรมก็กำลัง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 936

ดับ อัพยากตธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลวิปป-

ยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังค-

ขณะแห่งกุศลจิตในปัญจโวการภูมิ อัพยากตธรรมก็กำลังดับ กุศลรรรม

ก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๑๙๘] อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในอรูปภูมิ อกุศลธรรมกำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่า-

นั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในปัญจโวการภูมิ อกุศลธรรมก็

กำลังดับ อัพยากตธรรมก็กำลังดับ ก็บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งอกุศล

วิปปยุตตจิตในปวัติติกาลก็ดี อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 937

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในปัญจโวการภูมิ อัพยากตธรรมก็กำลังดับ

อกุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๑๙๙] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิต กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่า

นั้น แต่อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่ง

จิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตและ

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่

ในอสัญญสัตตภูมิ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลัง

ดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคล

เหล่านั้น แต่กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่ง

จิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตและ

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 938

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลัง

ดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๐๐] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศล

วิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น บุคคลเหล่านั้นทั้งหมด

กำลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะ

แห่งอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งกุศลจิตในอรูปภูมิ อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับ

แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล

เหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ

กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๐๑] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากต

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 939

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งอกุศลวิปป-

ยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลเหล่านั้นทั้งหมด

กำลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อัพยากตธรรมก็ไม่

ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในอรูปภูมิ อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลัง

ดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล

เหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี

ในภังคขณะแห่งกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ

อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๐๒] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 940

ใช่.

[๒๐๓] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

กำลังดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๒๐๔] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

กำลังดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๐๕] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิต กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ใน

อุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 941

กุศลวิปปยุตตจิตและอกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญ-

สัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตและกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตต-

ภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๐๖] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกาลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศล-

วิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคล

เหล่านั้นทั้งหมดกาลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 942

ก็หรือว่า อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด,

กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งกุศลจิตในอรูปภูมิ อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลัง

ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งจิต

ในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๐๗] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด,

อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศล

วิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาลก็ดี ใน

ภังคขณะกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่า อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด,

อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิตในอรูปภูมิ อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลัง

ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่า

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 943

นั้นในภูมินั้น, บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

จิตในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น.

อตีตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๒๐๘] กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคยดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๐๙] กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็เคย

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคย

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 944

ใช่.

[๒๑๐] อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็เคย

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคย

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๑๑] กุศลธรรมเคยดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็เคยดับใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อกุศลธรรมเคยดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็เคยดับใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๑๒] กุศลธรรมเคยดับในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็เคยดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 945

ก็หรือว่า อัพยากตธรรมเคยดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็เคยดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมเคยดับในภูมินั้น แต่กุศล-

ธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมก็เคยดับ กุศลธรรมก็เคยดับในภูมินั้น.

[๒๑๓] อกุศลธรรมเคยดับในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็เคยดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อัพยากตธรรมเคยดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็เคยดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมเคยดับในภูมินั้น, แต่อกุศล-

ธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมก็เคยดับ อกุศลธรรมก็เคยดับในภูมินั้น.

ปุคคลโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๑๔] กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 946

เมื่ออกุศลจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

สุทธาวาสภูมิ อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่

กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือ

บุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อกุศลธรรมก็เคยดับ กุศลธรรมก็เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๑๕] กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่า อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ

ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

ปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็เคยดับ กุศลธรรมก็เคยดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

๑. อนาคามิผล ๑ ที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ คือในขณะที่ถึงพร้อมด้วยการเกิดขึ้น

แห่งกุศลจิตตดวงที่ ๒ ได้แต่ภวนิกันติโลภชวนะดวงที่ ๒.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 947

[๒๑๖] อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาส

ภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิด

อยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็เคยดับ อกุศลธรรมก็เคยดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๒๑๗] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 948

[๒๑๘] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่

ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๒๑๙] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๒๐] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 949

ใช่.

[๒๒๑] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ไม่ใช่เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๒๒๒] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๒๓] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 950

เมื่ออกุศลจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธา-

วาสภูมิกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นแต่อกุศลธรรม

เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่แก่

บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี

กุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๒๔] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับ แก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาส-

ภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น, บุคคลผู้กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิ กุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยดับ

อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 951

[๒๒๕] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาส-

ภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับ

แก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยดับ อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

อนาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๒๒๖] กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลนอกจากนี้

กุศลธรรมก็จักดับ อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 952

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็จักดับแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๒๗] กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี อัพ-

ยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคล

เหล่านั้น, บุคคลนอกจากนี้ อัพยากตธรรมก็จักดับ กุศลธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๒๘] อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 953

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด อัพยากตธรรมจักดับ

แก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล

นอกจากนี้ อัพยากตธรรมก็จักดับ อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๒๙] กุศลธรรมจักดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๓๐] กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็

จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใจก็ดี กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้

คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี กุศล-

ธรรมก็จักดับ อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 954

[๒๓๑] กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคล

ผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคล

นอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโว-

การภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็จักดับ กุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

[๒๓๒] อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พะอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 955

แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลนอกจากนี้

คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมก็จักดับ อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๒๓๓] กุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น

แก่กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี

พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๓๔] กุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอรหันตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี กุศล-

ธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 956

เหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับ อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๓๕] อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น,

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับ อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๓๖] กุศลธรรมไม่ใช่จักดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 957

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๓๗] กุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะ

แห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญ-

สัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๓๘] กุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคล

ผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังค

ขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับ อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จัก

ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 958

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๓๙] อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น. ในภังคขณะแห่ง

ปัจฉิมจิต อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับ อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 959

ปัจจุปปันนาตีตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๒๔๐] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคย

ดับแกบุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่า, ในภังคขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรม

ก็เคยดับ กุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๔๑] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็เคย

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลัง

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 960

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งกุศลจิต อัพยา-

กตธรรมก็เคยดับ กุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๔๒] อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งอกุศลจิต อัพยา-

กตธรรมก็เคยดับ อกุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๔๓] กุศลธรรมกำลังดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 961

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๔๔] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่

กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่ง

กุศลจิต อกุศลธรรมก็เคยดับ กุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น.

[๒๔๕] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 962

เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมก็เคย

ดับ กุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๔๖] อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งอกุศล อัพยากตธรรมก็เคยดับ อกุศล-

ธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๒๔๗] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 963

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๒๔๘] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม.

เคยดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๒๖๙] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๕๐] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 964

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๕๑] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่

อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น, เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่

บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี

กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๕๒] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่

กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้กำลังเกิดอยู่ใน (เข้าถึง) สุทธาวาสภูมิ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 965

กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๕๓] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ใน (เข้าถึง)

สุทธาวาสภูมิ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่เคย

ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 966

ปัจจุปันนานาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๒๕๔] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรค

ในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี กุศลธรรมกำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังค-

ขณะแห่งกุศลจิตของบุคคลนอกนี้ กุศลธรรมก็กำลังดับ อกุศลธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังดับแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรม

ก็จักดับ กุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 967

[๒๕๕] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งกุศลจิต อัพยากต-

ธรรมก็จักดับ กุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๔๖] อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 968

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภังคขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากต-

ธรรมก็จักดับ อกุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๕๗] กุศลธรรมกำลังดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๕๘] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรค

ในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี กุศลธรรมกำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งกุศลจิตของบุคคลนอกนี้ กุศลธรรมก็กำลัง

ดับ อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 969

แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะ

แห่งกุศลจิต อกุศลธรรมก็จักดับ กุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

[๒๕๙] กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดีบุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมก็จักดับ

กุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๖๐] อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลกรรม

ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 970

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลเกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่

บุคคลแหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากตธรรม

ก็จักดับ อกุศลธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๒๖๑] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศล-

ธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี

พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่ง

จิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 971

ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรค

ในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับ

แก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาท-

ขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้

อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๖๒] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะ แห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยา-

กตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังดับ อัพยาธรรมกตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

๑. จุติจิตของพระอรหันต์ ๑๓ ดวง, ดวงใดดวงหนึ่ง.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 972

[๒๖๓] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่

อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต

อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับ อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๖๔] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๖๕] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 973

นั้น แต่อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะ

แห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้

อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี บุคคลผู้เกิด

อยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรค

ในลำดับแห่งจิตใดในภังคขณะแห่งจิตนั้น อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่ง

จิตนั้นก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับ

กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๖๖] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 974

กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลัง

ดับ อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น, ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๖๗] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังดับแก่ก็บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่กำลังดับ อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 975

อตีตานาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๒๖๘] กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กุศลธรรมเคยดับ

แก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล

นอกจากนี้ กุศลธรรมเคยดับ อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยดับแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๖๙] กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลนอกนี้ กุศล-

ธรรมเคยดับ อัพยากตธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 976

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๗๐] อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลนอกจากนี้ อกุศล

ธรรมเคยดับ อัพยากตธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคยดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๗๑] กุศลธรรมเคยดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๗๒] กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 977

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กุศลธรรมเคยดับ

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี

ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี กุศลธรรมเคยดับ อกุศลธรรมก็จักดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลกรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลกรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดในสุทธาวาสภูมิ อกุศล-

ธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุ-

โวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี อกุศลธรรมจักดับ กุศล-

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๗๓] กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 978

ปัญจโวการภูมิก็ดี กุศลธรรมเคยดับ อัพยากตธรรมก็จักดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอก

จากนี้ บุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมจักดับ กุศลธรรมก็เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๗๔] อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมจักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

ปัญจโวการภูมิก็ดี อกุศลธรรมเคยดับ อัพยากตธรรมก็จักดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 979

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

ปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับ อกุศลธรรมก็เคยดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๒๗๕] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

[๒๗๖] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 980

เคยดับ.

[๒๗๗] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับ แก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๗๘] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๗๙] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ

กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมจัก

ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ กุศล-

ธรรมไม่ใช่เคยดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 981

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อกุศลธรรมไม่ใช่จัก

ดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๘๐] กุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

[๒๘๑] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

นิโรธวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 982

ปวัตติอุปปาปาทนิโรธวาระ

ปัจจุปปันนวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๒๘๒] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

[๒๘๓] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

[๒๘๔] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 983

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๘๕] กุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็กำลังดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็กำลังเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๘๖] กุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็กำลัง

เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็กำลัง

เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมกำลังดับในภูมินั้น แต่กุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมก็กำลังดับ กุศลธรรมก็กำลังเกิดในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 984

[๒๘๗] อกุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

เกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมกำลังดับในภูมินั้น แต่อกุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมก็กำลังดับ อกุศลธรรมก็กำลังเกิด.

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๒๘๘] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

[๒๘๙] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 985

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

[๒๙๐] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่ใช่.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๒๙๑] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิต กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น แต่อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะ

แห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี ในภังคขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคล

ผู้กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อกุศลธรรมก็ไม่ใช่ดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 986

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคล

เหล่านั้นแต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคล

ผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๒๙๒] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตใน

ปวัตติกาลก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากต-

ธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี

ในอุปปาทขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะแห่ง

กุศลจิตและอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 987

บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล

เหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิต

ในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลจิตและอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น.

[๒๙๓] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตใน

ปวัตติกาลก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยา-

กตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่

ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะ

แห่งกุศลจิตและอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด

อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น บุคคล

เหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิต

ในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลจิตและอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 988

อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๙๔] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๒๙๕] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

กำลังดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๒๙๖] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 989

กำลังดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๒๙๗] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด,

อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น, ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งอกุศลจิต กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

ในอุปาทขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี ในภังคขณะแห่งอกุศลวิปป-

ยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลัง

เกิด อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น, ใน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 990

ภังคขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิต

ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ

กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๙๘] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตใน

ปวัตติกาลก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่

อัพยากตธรรมกาลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลเหล่านั้น

ทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติ-

กาลก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลจิตและอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด,

กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลจิตและอกุศลจิต

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 991

ในอรูปภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลัง

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๒๙๙] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด,

อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะแห่งจิตใน

ปวัตติกาลก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

แต่อัพยากตธรรมกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลเหล่านั้น

ทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติ-

กาลก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลจิตและอกุศลจิตในอรูปภูมิก็ดี อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด,

อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากตธรรมไม่ใช่กำลังดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น, บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดกำลังเกิดอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี ในภังคขณะแห่งกุศลจิตและอกุศล-

จิตในอรูปภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่กำลังดับ อกุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 992

อตีตวาระ (ในอุปปาทนิโรธ)

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๓๐๐] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคยดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๐๑] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็เคย

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๐๒] อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคย

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 993

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๐๓] กุศลธรรมเคยเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็เคยดับใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็เคยเกิดในภูมิ

นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๐๔] กุศลธรรมเคยเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็เคยดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็เคยเกิดใน

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมเคยดับในภูมินั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่เคยเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมก็เคยดับ กุศลธรรมก็เคยเกิดในภูมินั้น.

[๓๐๕] อกุศลธรรมเคยเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็เคยดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 994

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็เคยเกิด

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมเคยดับในภูมินั้น แต่อกุศล-

ธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิ

ก็ดี อัพยากตธรรมก็เคยดับ อกุศลธรรมก็เคยเกิดในภูมินั้น.

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๐๖] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่ออกุศลจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่ แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

สุทธาวาสภูมิ อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศล-

ธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือ

บุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี อกุศล-

ธรรมเคยดับ กุศลธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๓๐๗] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 995

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

ปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็เคยดับ กุศลธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

[๓๐๘] อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด อกุศลธรรม

ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่า

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 996

นั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

ปัญจโวภารภูมิก็ดี อัพยากตธรรมก็เคยดับอกุศลธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๓๐๙] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๓๑๐] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๓๑๑] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 997

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๑๒] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๑๓] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๓๑๔] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 998

ก็ไม่ใช่เคยดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่เคยเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๑๕] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่ออกุศลจิตดวงที่ ๒ กำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธา-

วาสภูมิ กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศล-

ธรรมเคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น, บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดอยู่

ใน (เข้าถึง) สุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี

กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิด อกุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๑๖] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 999

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดอยู่ใน (เข้าถึง ) สุทธาวาสภูมิ กุศลธรรม

ไม่ใช่เคยเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๑๗] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น, บุคคลผู้กำลังเกิดอยู่ใน ( เข้าถึง ) สุทธาวาสภูมิ อกุศลธรรมไม่ใช่

เคยเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1000

อนาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๓๑๘] กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักดับแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด, กุศลธรรม

จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น,

บุคคลนอกจากนี้ กุศลธรรมจักเกิด อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็จักเกิดแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๑๙] กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็จักเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1001

บุคคลเหล่านั้น, บุคคลนอกจากนี้ อัพยากตธรรมจักดับ กุศลธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๓๒๐] อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็จัก

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อัพยากตธรรมจัก

ดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น,

บุคคลนอกจากนี้ อัพยากตธรรมจักดับ อกุศลธรรมก็จักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๒๑] กุศลธรรมจักเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็จักดับใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็จักเกิดในภูมิ

นั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1002

[๓๒๒] กุศลธรรมจักเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็จักดับ

ในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากธรรมจักดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็จักเกิดในภูมิ

นั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมจักดับในภูมินั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่จักเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยา-

กตธรรมจักดับ กุศลธรรมก็จักเกิดในภูมินั้น.

[๓๒๓] อกุศลธรรมจักเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็จักดับ

ในภูมินั้นใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็จักเกิดใน

ภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอสัญญสัตตภูมิ อัพยากตธรรมจักดับในภูมินั้น แต่อกุศล

ธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมินั้น, ในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี

อัพยากตธรรมจักดับ อกุศลธรรมก็จักเกิดในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1003

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๒๔] กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด, กุศลธรรม

จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิ

ก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี กุศลธรรมจักเกิด อกุศลธรรมก็จัก

ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็จัก

เกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๒๕] กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากตธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1004

บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

ปัญจโวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับ กุศลธรรมก็จักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

[๓๒๖] อกุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด อัพยา-

กตธรรมก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่

อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลนอกจากนี้

คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี อัพ-

ยากตธรรมจักดับ อกุศลธรรมก็จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๓๒๗] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่จักดับแกบุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1005

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด อกุศลธรรม

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น,

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี อกุศล-

ธรรมไม่ใช่จักดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๓๒๘] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคล

เหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิด อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่

ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๒๙] อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1006

จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น,

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่

ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๓๐] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, อกุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๓๑] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็ไม่

ใช่จักดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับในภูมิใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1007

[๓๓๒] อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดในภูมิใด, อัพยากตธรรมก็

ไม่ใช่จักดับในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับในภูมิใด, อกุศลธรรมก็ไม่

ใช่จักเกิดในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๓๓] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด อกุศลธรรม

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมจักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์

ทั้งหลายก็ดีบุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่จัก

ดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๓๓๔] กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1008

ธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมไม่ใช่จักเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๓๕] อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะ

แห่งปัจฉิมจิต อกุศลธรรมไม่ใช่จักเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักดับ

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1009

ปัจจุปปันนาตีตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๓๓๖] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เลย

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศล-

ธรรมเคยดับ กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๓๓๗] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็เคย

ดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1010

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุคลจิต

อัพยากตธรรมเคยดับ กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๓๓๘] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่

ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่

อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งอกุศล-

จิต อัพยากตธรรมเคยดับ อกุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๓๙] กุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1011

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๔๐] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่

กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะ

แห่งกุศลจิต อกุศลธรรมเคยดับ กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

[๓๔๑] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1012

เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรม

เคยดับ กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๓๔๒] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากต-

ธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่กำลัง

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น. ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต อัพยากต-

ธรรมเคยดับ อกุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๓๔๓] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1013

ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๓๔๔] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

[๓๔๕] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากต-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๔๖] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๔๗] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1014

ธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น แต่อกุศลธรรมเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, เมื่อทุติยจิต

กำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด อกุศลธรรมก็ไม่ใช่เคย

ดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๔๘] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้กำลังเกิดอยู่ใน (เข้าถึง) สุทธาวาส-

ภูมิ กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1015

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๔๙] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพ-

ยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมเคยดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้เกิดอยู่ใน (เข้าถึง) สุทธาวาสภูมิ

อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ปัจจุปปันนานาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๓๕๐] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1016

ในอุปปาทขณะแก่อรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี กุศลธรรม

กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิตของบุคคลนอกนี้ กุศลธรรมกำลัง

เกิด อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ อยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่

ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อกุศล-

ธรรมจักดับ กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๓๕๑] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็กำลังเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1017

อสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยา-

กตธรรมจักดับ กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๓๕๒] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็กำลัง

เกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่

ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศล-

ธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น, ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิต

อัพยากตธรรมจักดับ อกุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๕๓] กุศลธรรมกำลังเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๕๔] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1018

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี กุศลธรรมกำลัง

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิตของบุคคลนอกนี้ กุศล-

ธรรมกำลังเกิด อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่

กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ในอุปปาทขณะ

แห่งกุศลจิต อกุศลธรรมจักดับ กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

[๓๕๕] กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรม

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1019

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งกุศลจิต อัพยากตธรรมจักดับ

กุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๓๕๖] อกุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็กำดับเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากต-

ธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในอุปปาทขณะแห่งอกุศลจิตอัพยากตธรรม

จักดับ อกุศลธรรมก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๓๕๗] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1020

อสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่

อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี

พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่ง

จิตใดในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด อกุศลธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใดในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น ใน

ภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใด

จักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี อกุศล-

ธรรมไม่ใช่จักดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.

[๓๕๘] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ใน

อสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่

อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1021

กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๕๙] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่

ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่

อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต

อกุศลธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๖๐] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1022

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๖๑] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น แต่อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่ง

อรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรค

ในลำดับแห่งจิตใดในภังคขณะแห่งจิตนั้นก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญ-

สัตตภูมิก็ดี กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิด อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัต-

มรรคในลำดับแห่งจิตใดในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้ อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิต

นั้นก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับ

กุศลธรรมก็ไม่ใช่ กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1023

[๓๖๒] กุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

กุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมจักดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมไม่ใช่

กำลังเกิด อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๖๓] อกุศลธรรมไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่ง

อกุศลวิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อกุศลธรรม

ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมจักตับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต อกุศลธรรมไม่ใช่

กำลังเกิด อัพยากตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูนิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1024

อตีตานาคตวาระ

ปุคคลวาระ อนุโลม :-

[๓๖๔] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็จักดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กุศลธรรมเคยเกิด

แก่บุคคลเหล่านั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคล

นอกจากนี้ กุศลธรรมเคยเกิด อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยเกิดแก่

บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

[๓๖๕] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น. บุคคลนอกจากนี้

กุศลธรรมเคยเกิด อกุศลธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็เคยเกิด

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1025

[๓๖๖] อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรมก็

จักดับแก่บุคคลนั้นใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น, บุคคลนอกจากนี้

อกุศลธรรมเคยเกิด อัพยากตธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็เคยดับ

แก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ใช่.

โอกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๖๗] กุศลธรรมเคยเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ อนุโลม :-

[๓๖๘] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี กุศลธรรมเคยเกิด

แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี

ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี กุศลธรรมเคยเกิด อกุศลธรรมก็จักดับแก่

บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1026

ก็หรือว่าอกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรมก็

เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ

อกุศลธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่เคย

เกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ใน

จตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโวการภูมิก็ดี อกุศลธรรมจักดับ

กุศลธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๓๖๙] กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับก็บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลนอกนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโว-

การภูมิก็ดี กุศลธรรมเคยเกิด อัพยากตธรรมก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี

บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลเหล่า

นั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1027

บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจ-

โวการภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับกุศลธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

[๓๗๐] อกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยากต-

ธรรมก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตอกุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น แต่อัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น,

บุคคลนอกจากนี้ คือบุคคลผู้เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ใน

ปัญจโวการภูมิก็ดี อกุศลธรรมเคยเกิด อัพยากตธรรมก็จักดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศลธรรม

ก็เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ

ก็ดี บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ

นั้น, บุคคลนอกนี้ คือบุคคลผู้เกิดในจตุโวการภูมิก็ดี ผู้เกิดอยู่ในปัญจโว-

การภูมิก็ดี อัพยากตธรรมจักดับ อกุศลธรรมก็เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น

ในภูมินั้น.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1028

ปุคคลวาระ ปัจจนิก :-

[๓๗๑] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็ไม่ใช่

เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

[๓๗๒] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, กุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

[๓๗๓] อกุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใด, อัพยากตธรรม

ก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

ไม่มี.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใด, อกุศลธรรมก็

ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1029

โอกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๗๔] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดในภูมิใด, ฯ ล ฯ

ปุคคโลกาสวาระ ปัจจนิก :-

[๓๗๕] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล

ธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เมื่อทุติยจิตกำลังเป็นไปอยู่แก่บุคคลผู้เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ

กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่อกุศลธรรม

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิด อกุศลธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน

ภูมินั้น.

ก็หรือว่าอกุศลธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศลธรรม

ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ทั้งหลายก็ดี

บุคคลเหล่าใดจักได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดก็ดี อกุศลธรรมไม่ใช่

จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กุศลธรรมเคยเกิดแก่บุคคล

เหล่านั้นในภูมินั้น บุคคลผู้เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อกุศลธรรมไม่ใช่

จักดับ กุศลธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.

[๓๗๖] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1030

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

[๓๗๗] กุศลธรรมไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลใดในภูมิใด, อัพยา-

กตธรรมก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

จักดับ.

ก็หรือว่าอัพยากตธรรมไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, อกุศล-

ธรรมก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?

เคยเกิด.

อุปปาทนิโรธวาระ จบ

ปวัตติวาระ จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1031

ภาวนาวาระ

[๓๗๘] บุคคลใดกำลังเจริญกุศลธรรมอยู่, บุคคลนั้นชื่อว่า

กำลังละอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าบุคคลใดกำลังละอกุศลธรรม, บุคคลนั้นชื่อว่ากำลัง

เจริญกุศลธรรมอยู่ ใช่ไหม ?

ใช่.

บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญกุศลธรรมอยู่, บุคคลนั้นไม่ชื่อว่ากำลัง

ละอกุศลธรรม ใช่ไหม ?

ใช่.

ก็หรือว่าบุคคลใดไม่ใช่กำลังละอกุศลธรรม, บุคคลนั้นไม่

ชื่อว่ากำลังเจริญกุศลธรรมอยู่ ใช่ไหม ?

ใช่. ฯ ล ฯ

ภาวนาวาระ จบ

ธัมมยมก จบ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1032

อรรถกถาธัมมยมก

บัดนี้ เป็นวรรณนา ธัมมยมก ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตั้ง

มาติกาแห่งธรรมทั้งหลาย มีกุศลเป็นต้นเหล่านั้นนั่นแหละที่แสดงไว้

ในมูลยมกแล้วแสดงต่อจากจิตตยมก.

ในธัมมยมกนั้น พึงทราบการกำหนดพระบาลีตามนัยที่กล่าวไว้

ในขันธยมก ก็ในขันธยมกนั้น มี ๓ มหาวาระ มีปัณณัตติวาระ

เป็นต้น และมีอันตรวาระที่เหลือ มีอยู่โดยประการใด, ในธรรมยมก

ก็มีโดยประการนั้น

แต่ในธรรมยมกนี้พึงทราบว่าท่านเรียกปริญญาวาระว่า ภาวนา-

วาระ เพราะพระบาลีอาคตสถานว่า โย กุสลธมฺม ภาเวติ โส

อกุสลฺธมฺม ปชหติ - บุคคลใดเจริญกุศลธรรม บุคคลนั้นชื่อว่าละ

อกุศลธรรมหรือ ?

ในภาวนาวาระนั้น อัพยากตธรรมเป็นธรรมที่บุคคลไม่ควร

เจริญด้วย ไม่ควรละด้วย เพราะเหตุนั้นท่านจึงไม่ยกบทนั้นขึ้นแสดง

ก็ในปัณณัตติวาระในธรรมยมกนี้ พึงทราบการนับยมกในวาระ ๔ เหล่า

นี้ คือ ปทโสธนวาระ ปทโสธนมูลจักกวาระ สุทธธัมมวาระ

สุทธธัมมมูลจักกวาระ ด้วยอำนาจแห่งธรรมทั้งหลาย มีกุศลธรรม

เป็นต้น

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1033

ส่วนในปัณณัตติวาระนิทเทส พระองค์ตรัสว่า อามนฺตา เพราะ

ความที่แห่งกุศลทั้งหลายเป็นกุศลธรรมโดยแน่นอน ในปัญหาที่ว่า กุศล

ชื่อว่ากุศลธรรม หรือ ? ดังนี้ แม้ในคำวิสัชชนาที่เหลือก็นัยนี้ คำ

วิสัชนาที่ว่า ธรรมทั้งหลายที่เหลือ ไม่ชื่อว่าอกุศล แต่ชื่อว่าธรรม

อธิบายว่า ธรรมทั้งหลายที่เหลือไม่เป็นอกุศล แต่เป็นธรรม พึงทราบ

คำวิสัชชนาทั้งหมดโดยนัยนี้.

ก็ในอนุโลมนัยแห่งบุคคลวาระ ปัจจุบันกาลในปวัตติวาระนี้

ยมก ๓ อย่าง คือ ยมกที่มีกุศลธรรมเป็นมูล ๒ อย่าง มีอกุศลธรรม

เป็นมูล ๑ อย่างย่อมมีในปัญหาว่า กุศลธรรมย่อมเกิดแก่บุคคลใด

อกุศลธรรมก็ย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นใช่ไหม ? ก็หรือว่า อกุศลธรรม

ย่อมเกิดแก่บุคคลใด กุศลธรรมย่อมเกิดแก่บุคคลนั้นใช่ไหม ?

ดังนี้.

ในปฏิโลมนัยก็ดี ในวาระทั้งหลายมีโอกาสวาระเป็นต้นก็ดี ก็

นัยนี้ บัณฑิตพึงทราบการนับยมก ด้วยอำนาจแห่งยมกทั้งหลาย ๓ อย่าง

ในวาระทั้งปวง ในปวัตติวาระนี้อย่างนี้.

ก็ในการวินิจฉัยเนื้อความในปวัตติวาระพึงทราบลักษณะนี้ ดัง

ต่อไปนี้.

ในปวัตติวาระแห่งธรรมยมกนี้ คำว่า อุปฺปชฺชนติ - ย่อมเกิด

นิรุชฺฌนฺติ - ย่อมดับ ในอุปปาทและนิโรธวาระเหล่านี้ ย่อมได้กุศล

ธรรมและอกุศลธรรมในปวัตติกาลเท่านั้นโดยแน่นอน ย่อมไม่ได้จุติ

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1034

และปฏิสนธิกาล แต่ว่าอัพยากตธรรมย่อมได้ในกาลทั้ง ๓ คือ ปวัตติ

จุติ และปฏิสนธิ.

ลักษณะใดย่อมได้ในที่ใด ๆ พึงทราบคำวินิจฉัยของลักษณะนั้น

ในที่นั้น ๆ อย่างนี้.

พึงทราบนัยมุขในการวินิจฉัยนั้นดังนี้:- คำปฏิเสธว่า โน-

ไม่ใช่ พระองค์ทรงกระทำแล้วเพราะความไม่บังเกิดขึ้น ในขณะเดียว

กันของกุศลและอกุศล.

คำว่า อพฺยากโต จ ท่านกล่าวแล้วด้วยอำนาจแห่งรูปที่มีจิตเป็น

สมุฏฐาน.

ปัญหาว่า กุศลธรรมย่อมไม่เกิดขึ้นในภูมิใด นี้ ท่านกล่าว

หมายเอาอสัญญีภพ เหตุนั้นในปัญหานี้ท่านจึงทำคำวิสัชนาว่า อามนฺตา

-ใช่ แม้ในคำว่า ย่อมเกิดขึ้น นี้ ท่านก็กล่าวหมายเอาอสัญญีภพ

นั่นแหละ แต่กระทำการห้ามว่า ไม่มี เพราะความไม่มีแห่งที่อันไม่

บังเกิดขึ้นแห่งอัพยากตธรรมทั้งหลาย หมายความว่า อัพยากตธรรม

เกิดได้ในทุกภูมิ.

คำว่า ทุติเย อกุสเล - ครั้นเมื่ออกุศลดวงที่สอง ได้แก่

ชวนะจิตดวงที่สองในนิกันติชวนะที่บังเกิดขึ้นแล้ว เพราะยินดีซึ่งภพ.

คำว่า ทุติเจ จิตฺเต วตฺตมาเน - ครั้นเมื่อจิตดวงที่สอง

เป็นไปอยู่ ได้แก่ครั้นเมื่อภวังคจิตอันเป็นจิตดวงที่สอง แต่ปฏิสนธิจิต

พระอภิธรรมปิฎก ยมก เล่ม ๕ ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 1035

เป็นไปอยู่ อีกอย่างหนึ่ง คำว่า ทุติเย จิตฺเต วตฺตมาเน ได้แก่

ครั้นเมื่ออาวัชชนจิตในภวนิกันติชวนะ ได้แก่ เป็นไปอยู่ เพราะกระทำ

ซึ่งภวังค์กับปฏิสนธิให้เป็นอย่างเดียวกันด้วยอำนาจของวิบากจิต จริงอยู่

อาวัชชนะจิตนั้นชื่อว่า ทุติยจิต - จิตดวงที่สอง นับแต่วิบากจิต

เพราะความที่แห่งอาวัชชนะจิตนั้น เป็นกิริยาจิตในอัพยากตชาติ หมาย

ความว่า อาวัชชนะจิตเป็นจิตคนละชาติกับวิบาก.

คำว่า ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อคฺคมคฺค ท่านกล่าว

หมายเอาโวทานจิต.

คำว่า กุสลา ธนฺมา อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ ท่านกล่าวหมายเอา

ธรรมทั้งหลาย คือ มรรคอันเลิศเหล่านั้น.

ปัญหาว่า ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา อคฺคมคฺค ปฏิลภิสฺ-

สนฺติ ตสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ท่านกล่าวด้วยอำนาจของ

การเกิดขึ้นแห่งโวทานจิตนี้ ก็ลักษณะนี้ย่อมได้แม้ในอุปปาทขณะแห่ง

โอริมจิต ได้แก่ จิตดวงก่อน แต่โวทานจิตนั้น อันเกิดขึ้นแล้วด้วย

อาวัชชนะจิตเดียวกันแห่งการเกิดของโวทานจิตนั้น.

แม้ในนิโรธวาระ ท่านกล่าวแล้วว่า โน - ไม่ใช่ เพราะความ

ที่กุศลและอกุศลไม่ดับพร้อมกัน พึงทราบคำวินิจฉัยในที่ทั้งปวงโดย

นัยมุขนี้ ด้วยประการฉะนี้.

อรรถกถาธรรมยมก จบบริบูรณ์